ใครเชื่อที่วิปรัฐบาล วิรัช รัตนเศรษฐ บอก “ถ้าเดินไปข้างหน้าวันนี้ตันครับ แต่ถ้าตั้งคณะกรรมาธิการตามข้อบังคับที่ ๑๒๑ วรรคสาม ผมคิดว่าเดือนพฤศจิกายนเราจะได้ผ่านร่างทั้ง ๖ ร่าง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ละก็ เดี๋ยวได้เห็นงางอกจากปากหมาแน่
งานนี้มีแต่ทั่นประธานสภา ชวน หลีกภัย เท่านั้นที่โดนหลอก เห็นทั่นบอกที่ประชุมเมื่อตอนสองทุ่มครึ่งวานนี้ “ตนเตรียมตัวที่จะมาโหวตญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นกัน แต่เพิ่งมาทราบในช่วงค่ำว่าจะมีการตั้ง กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
ฝ่ายค้านน่ะเขายอมรับว่าถูกลูกไม้วิชามารของ สว.ตอนนาฑีสุดท้าย ยื้อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง ๖ ออกไปอีกหนึ่งเดือนเพื่อปรับขบวน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ยังละล้าละลัง ได้แน่ใจกันเสียทีว่า สว.ตู่ตั้งนี้ของแท้ คสช. สั่งหกขะเมนตีลังกาอะไรได้ทั้งนั้น
การยื้อแม้จะแค่เดือนเดียว แต่ก็จะมีผลล้ำลึกในการคว่ำการแก้รัฐธรรมนูญทั้งกระบิไปได้เป็นปี ดังที่ Phattita Cheraiem โพสต์เอาไว้ ว่า “แล้วถ้าถึงตอนนั้นถูกคว่ำ ฝ่ายค้านจะเสนอใหม่ทันทีไม่ได้ ต้องรอจนถึงปีหน้า คือ หลังวันที่ ๒๒ พ.ค. ๖๔”
ที่จริงตอนที่ทนายอานนท์ นำภานำพล #ประชาชนปลดแอก ไปยืนรอตะโกนตอนรถพวก สว.ทะยอยออกจากตึกรัฐสภาเมื่อเสร็จงานว่า ‘ไอ้เหี้ย’ นั้นยังไม่ค่อยจะต้องตรงนักในแง่การกระทำ (ยังไม่ปรากฏว่าใครฝึกเหี้ยให้ทำตามใจเจ้าของอย่างนี้ได้ แม้อาจตรงตามบุคคลิกภาพของแต่ละคน)
เพราะการกระทำของ สว.ครั้งนี้เป็น ‘สุนัขรับใช้’ ที่เขาฝึกมาอย่างเหนียวแน่นโดยแท้ ก่อนหน้าอาจมีบางตัวบางตนออกมาให้ความเห็นล่อหลอกให้ตายใจ ว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อแทรกเข้าไปแก้เฉพาะเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลต้องการ
ครั้นปรากฏชัด เสียง ส.ส.ที่ผ่านการหาเสียงเลือกตั้งมาไม่ว่าพรรคไหนฝ่ายไหน เห็นแจ้งแล้วว่าพวก สว.ตู่ตั้งนี่ ‘ชุบมือเปิบ’ กันทั้งนั้น ทำท่าจะพากันเขี่ย สว.ออกไปจากสารบบของการเมืองระบอบประชาธิปไตย ตรงนี้ทำให้พวกสุนัขรับใช้พลิกตัว ยังไม่กล้าพลิกกลับ ก็เลี่ยงไปก่อน
วิปรัฐบาลอภิปรายในตอนหนึ่ง “สองวันที่ผ่าน ผมก็ได้รู้ว่าผมยังทำไม่ครบอีกหลายๆ อย่าง บางครั้งก็ยังอยากถามท่านวุฒิสมาชิกว่าอะไรบ้างที่ยังขาดในส่วนไหน” แสดงชัดว่าคงเพิ่งได้รับใบสั่งมาให้ร่วมมือ สว.ปิดเกม
และเปิดช่อง ไพบูลย์ นิติตะวัน ‘มือวาง’ ฝ่ายรัฐบาลในสภาเปิดเกมใหม่ “เสนอให้รัฐสภายังไม่ลงมติญัตติแก้ รธน. และให้ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ๓ ฝ่าย ไปศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วเลื่อนลงมติ ๑ เดือน...โดยให้วุฒิสภาไปศึกษาในรายละเอียด”
คอยดูสิ กรรมการชุดนี้โดนป่วนเละแน่ ในเมื่อเที่ยวนี้วุฒิสภาออกมาทำท่าเหมือนฟาดงวงฟาดงา เพราะหลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นช้าง เกือบลืมนึกไปว่ายังมีปลอกคอเจ้าของติดอยู่ เหมือนอย่าง สมชาย แสวงการ แขวะฝ่ายค้าน “อาจเพิ่งเคยเข้าสภา”
แน่ละ พวกนี้เขาทั้งสดและกระฉับกระเฉง “ฮอร์โมนพุ่งพล่าน” ดีกว่า ‘ตายด้าน’ อยู่แล้ว มิหนำซ้ำความกระตือรือร้นของคนเหล่านี้แหละที่จะขับเคลื่อนประเทศต่อไปในวันข้างหน้าได้ ไม่ต้องตามัวมั่วซั่วแบบ สว.สมชาย
พูดออกมาได้อย่างด้านๆ “สมาชิกวุฒิสภาซึ่งก็เป็นผู้แทนราษฎรเช่นเดียวกัน” ราษฎรคนนั้นคนเดียวที่ชื่อตู่ไง อ้างอย่างข้างๆ คูๆ ว่า สว. “๕๐ คนก็มาจากการเลือกกันเองหรือเลือกตั้งกันในแต่ละภูมิภาค” แต่อีก ๒๐๐ เป็น ‘ผู้ทรงคุณวุฒิ’ ฝึกมาดีมีปลอกคอ งั้นเหรอ
อีกคน สูงวัยกว่าคนเมื่อกี้ กล้าณรงค์ จันทิก ลงละเอียดเนื้อหาประเด็นกฎหมายเรื่องการแก้ไขมาตรา ๒๕๖ เพื่อให้ร่างใหม่ทั้งฉบับ ก็อ้างอย่างเดียวกับ สว.หลายคนที่ว่าฉบับนี้ ๒๕๖๐ เป็นของประชาชนนะ ผ่านประชามติด้วยเสียง ๑๖.๘ ล้าน
ก็ยังดีที่ยอมรับว่ามีเสียงวิพากษ์มาก “ว่าการลงประชามติไม่ถูกต้อง คนที่มาลงประชามติถูกบล็อค คนที่คัดค้านถูกจับ” แต่ไฉนลุงกลับเอาสีข้างแถไปดื้อๆ “ผมไม่ทราบเหตุการณ์เหล่านั้น แต่เมื่อผ่านการลงประชามติจนตราเป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทยแล้ว เราก็ต้องเคารพ”
อ้าวถ้างั้นมีคนวิจารณ์กันขรม ว่าลุงกับ สว.อีก ๒๔๙ คนน่ะ มีคนเอาปลอกคอใส่แล้วจูงเข้าไปนั่งๆ นอนๆ เห่าหอนในตึกใหญ่ริมน้ำ ที่มีชฎาละครแก้บนติดอยู่ตรงยอดน่ะ ผมก็ไม่ทราบตรงนั้นเหมือนกัน แต่เสียงก่นด่ามันแรงมากเสียจน ส.ส.เอาไปตั้งญัตติในสภา
พวก ส.ส.เหล่านั้นน่ะตัวแทนประชาชนแท้ และตรงตามหลักการ ‘ผู้แทนราษฎร’ มากกว่า ทั่น สว.ที่มาจากการอุปโลกโดยคณะรัฐประหาร ไม่คิดจะให้ความเคารพบ้างหรือ
(https://www.facebook.com/iLawClub/?__tn__=-UC*F, https://waymagazine.org/constitution2560/, https://www.matichon.co.th/politics/news_2364876 และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2553822981577245)