#ศรีพันวา ไม่ ‘แบน’ ก็ได้วะ (มัน ‘ไฮ’ เสียจนขี้เกียจปีนบันได) ถึงอย่างไรตอนนี้ “รีวิวเหลือแค่ ๑ ดาว” เท่านั้นแล้ว ผลประกอบการปีนี้จะขาดทุนอีกเท่าไรไม่รู้ ปี ๖๑ เข้าเนื้อไป ๑๕๐ ล้าน แต่ ‘ประกันสังคม’ นายทุนใหญ่ไม่สะเทือน
หลังจากที่ ‘ปลาวาฬ’ อุกอาจก้าวร้าว #เยาวชนปลดแอก (เขียนทวี้ตด้วยภาษาอังกฤษผิดๆ ถูกๆ อีกต่างหาก) กิจการที่เหงาหงอยมาหลายเดือนก็กลับคึกคักเมื่อ ‘ทัวร์ลง’ ทว่า วรสิทธิ์ อิสสระ ทายาทคนโตของสงกรานต์-ศรีวรา อิสสระ ผู้เป็นเจ้าของไม่ยั่น
(คั่นตรงนี้นิด อยากรู้กำพืดปลาวาฬลึกไปกว่านี้ต้องไปที่เพจ https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun สืบสาวไปได้ถึงพระชนนีศรีสังวาลย์โน่นเลย รวมทั้งเจ้าคุณปู่ถูกจับมือพิมพ์ลายนิ้วโป้งมอบโฉนด ขณะนอนแบ่บโรงพยาบาลขั้นโคม่า รวมทั้งที่เคยเป็นข่าว สิริวัณวลีไปปิดเกาะภูเก็ต ‘พาร์ตี้’ ก็นี่ละ)
ในเมื่อมีการตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินภูเก็ตได้ความเบื้องต้นว่า “ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมเดิมเป็นของชาวบ้าน...ศรีพันวามาซื้อเป็นลำดับที่ ๓ และ ๔ มีการดำเนินในเรื่องของเอกสารสิทธิมาก่อนหน้าแล้ว” เป็น นส. ๓ จำนวน ๖ แปลง
กับมีโฉนดอีก ๒ แปลง แต่ที่โฉนดสองแปลงนี่เนื้อที่แค่ ๕-๖ ไร่
แต่เรื่องที่ว่าเอกสารสิทธิ์ที่ได้มาถูกต้องแค่ไหนหรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่จบ แรกทีเดียว รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ไม่รู้ไม่ชี้ไปก่อนแล้ว วราวุธ ศิลปอาชา “ตอบไม่ได้” ให้ไปถามโรงแรมเอาเอง และกระทรวงจะยังไม่ตรวจสอบอะไร “ยังไม่มีเหตุ ยังไม่มีใครร้องเข้ามา”
ทั้งๆ ที่เสียงวิจารณ์และการขุดคุ้ยกระหึ่มมาเป็นอาทิตย์แล้ว รายหนึ่งคือ วีระ สมความคิด “เชื่อว่าที่ดินของศรีพันวารีสอร์ท...อาจมีการออกโฉนดและ นส. ๓ ก.โดยผิดกฎหมาย” โดยนำเอาคดีทุจริตของเจ้าพนักงานที่ดินคนหนึ่ง มาเทียบเคียง
วีระอ้างถึงธวัชชัย อนุกูล ซึ่งถูกจับกุมเมื่อ ๓๐ ส.ค.๒๕๕๙ และเสียชีวิตขณะอยู่ในการควบคุมตัวของ ‘ดีเอสไอ’ (“ญาติและบุคคลทั่วไปเชื่อว่า...ถูกฆ่าปิดปาก”) เนื่องจาก “เป็นการออกโฉนดที่ดินบนเกาะ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา ๕๙”
แล้วยัง “ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ภูเขา...ฝ่าฝืนกฏกระทรวงฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ.๒๕๓๗)...และทับที่ดินที่มีหลักฐานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. ๔-๐๑) รวมทั้งโฉนดที่ดินดังกล่าว ลงนามโดยผู้ไม่มีอำนาจ ตามมาตรา ๕๗ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน”
แต่นั่นเป็นคดีตัวอย่างที่เอามาเทียบเคียงเท่านั้น จึงต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่ามีการจดเอกสารสิทธิถูกต้องจริงแล้วหรือไม่ หรือแค่จดถูกแต่เนื้อหาผิด หากเป็นที่ดินห้ามออกเอกสารสิทธิ (เป็นภูเขาและอยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ)
อย่างไรก็ดี มีเอกชนอีกรายช่วยทำการตรวจสอบในเรื่องที่ดินโรงแรมชั้นสูงแห่งนี้ เป็นที่สูงชนิดเรียกว่า ‘ภูเขา’ ไหม (ขอบคุณ) ผู้ใช้นาม ‘พิมเอง’ @pi_imz บอกว่า ที่ดินของศรีพันวามีความชันเกิน ๓๕% แสดงว่าเป็นภูเขาที่ออกเอกสารสิทธิไม่ได้
“ในเอกสารคู่มือรังวัด...มีสูตรการคำนวณอยู่ เราคิดตามสูตรที่เค้าให้มาเลยค่ะ ไม่ได้ใช้การวัดเส้นความชันจากระนาบอ้างอิงแบบ manual อย่างเดียวน้า ถ้าความชันมากเกินกว่า ๓๕% จะก่อสร้างไม่ได้ค่ะ” เธอว่า “เราเช็คด้วยวิธีตามเอกสารนี้”
และเหตุที่เรื่องนี้ระห่ำขึ้นมาก็เพราะ ‘ปลาวาฬ’ ลืมตัวทำกร่างเกินไป ดัง รมว.ทรัพยากรว่า “หากศรีพันวาเขาอยู่เงียบๆ ก็ไม่มีอะไรขึ้นมา” ไม่เพียงยิ่งสุมไฟเมื่อทัวร์เริ่มลง ไม่สนพวกที่ประกาศ แบน เพราะลูกค้ากิจการของตนไม่ใช่พวกนี้
แล้วยังวางก้ามใหญ่โต แบบให้สัมภาษณ์ว่า “ผมชอบอะไรผมก็ทำ ไม่ชอบอะไรผมก็ไม่ทำ” พูดในหมู่ญาติมิตร เพื่อนฝูงใกล้ชิดก็ไปอย่าง ให้สัมภาษณ์ในทางสาธารณะ คนเสื้อแดงเขาจำกันได้ ว่าตอนพี่น้องร่วมอุดมการณ์ตายเกือบร้อยเมื่อปี ๕๓
“เจ้าของโรงแรมศรีพันวา คือเจ้าของตึก ‘ชาญอิสระ’ ที่เปิดตึกให้ทหารขึ้นดาดฟ้า ส่องสไนเปอร์ยิงเสื้อแดง เมื่อปี ๒๕๕๓ ไงครับ” ตรงนี้นี่แหละ ที่ทำให้มีคนช่วยตรวจสอบแทน รมว.ทรัพยากรฯ มากมาย มันแบบเดียวกับอารมณ์ของ ทราย เจริญปุระ ซึ่งพยาบาทจนได้เป็น ‘แม่ยกแห่งชาติ’
ถึงอย่างนั้นบริษัทชาญอิสสระ ก็ยังไม่ย่อ ‘สุมไฟต่อ’ “ได้ติดตามการโพสต์ แชร์ คอมเมนต์ ในสื่อต่างๆ” ว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง “ทางบริษัทได้รวบรวมเก็บเป็นหลักฐาน เพื่อเตรียมดำเนินคดีฟ้องหมิ่นประมาทต่อไป” อันนี้คงได้ทัวร์เพิ่มไม่หยุด
ส่วนผู้เกี่ยวข้องรายสำมะคัญ คือสำนักงานประกันสังคม ซึ่งเป็นผู้ลงทุนในศรีพันวามากที่สุด ๖๓ ล้านกว่า หรือ ๒๒.๖% ลอยตัวไปเมื่อพบว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการซื้อ ‘ทรัสต์’ ทรัพย์สินที่ได้ปันผลทุกปี แม้นว่ากิจการขาดทุน อ้างว่านั่นเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นอีกส่วน
(https://twitter.com/joydaynapas/status/1308390595564453889, https://news.thaipbs.or.th/content/296784 และ https://www.pptvhd36.com/news/R4g14Q)