วันศุกร์, มิถุนายน 12, 2563

สำรวจกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ Lèse Majesté ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ


ภาพจาก Political Prisoners in Thailand

[ สำรวจกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ในหลากหลายประเทศ ]

ผมได้ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 10 มิถุนายน รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้สด กรณีวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกบังคับให้สูญหายที่กรุงพนมเปญ โดยมี สมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.ยุติธรรม และดอน ปรมัตถ์วินัย รมต.ต่างประเทศ เป็นผู้ตอบ ตอนหนึ่ง รมต.ต่างประเทศได้ตอบว่า

“ที่พยายามจะโยงไปถึงกฎหมายอาญา ม. 112 หรืออะไรก็แล้วแต่ ครั้งหนึ่งก็จำได้ว่ามีกลุ่มทูตกลุ่มหนึ่งซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณ 28 ประเทศ แต่ว่ามาพบประมาณ 22 ประเทศ และมีการคุยกันหลายเรื่อง ในเรื่องหนึ่งมีการยกประเด็นนี้คล้ายคลึงกันก็ได้มีคำตอบไปว่า ม.112 เป็นเหมือนกับกฎหมายที่มีอยู่ในทุกประเทศในความหมายของการเป็นกฎหมายเฉพาะถิ่น เฉพาะที่ เฉพาะตามความจำเป็นของประเทศนั้นๆ ซึ่งเชื่อว่าทุกประเทศก็มีกฎหมายลักษณะนี้อยู่ในกฎหมายอาญาของเขา ได้ตอบไปเช่นนั้น และถามไปด้วยซ้ำว่า เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ทุกประเทศผงกศีรษะและตอบรับว่าใช่ ทุกประเทศมีกฎหมายอาญาเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางสังคม ปัญหาต่างๆ ที่แต่ละประเทศมีอยู่ ซึ่งไม่ต่างกับ ม.112 เพียงแต่ว่าบริบทอาจจะคนละเรื่องกัน แต่เป็นพิเศษเพื่อตอบสนองความจำเป็นของสังคมมีอยู่เช่นนั้นจริง ก็มีคำถามต่อไปว่าแล้ว ม.112 เป็นที่เดือดร้อนของคนไทยเท่าไหร่ จาก 22 ประเทศที่มานั่งคุยกัน เขาก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่เขาเพียงได้รับฟังมาจากเพื่อนคนไทยหรือใครก็แล้วแต่ในแวดวงการเมืองว่ามีปัญหากับ ม.112 ก็เลยต้องชี้แจงไปว่า ม.112 ถ้าจะพูดถึงคนที่ห่วงใยและห่วงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรานี้ในกฎหมายอาญา ก็คงจะแยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้ จะเรียกว่ากลุ่มใหญ่เท่ากันก็คงไม่ได้ กลุ่มแรกคือ 67 ล้านคนที่ไม่เห็นเป็นปัญหา อีกกลุ่มนึงอาจจะประมาณไม่ถึง 100 คนที่เห็นเป็นปัญหา”

ผมเห็นว่าสิ่งที่ รมต. ต่างประเทศพูดในสภานั้นไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพื่อมิให้ผู้ฟังเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากการคล้อยตาม รมต. ต่างประเทศ ผมจึงจำเป็นต้องอธิบายเรื่องกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ในประเทศต่างๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่า กรณีของประเทศไทยนั้นแตกต่างจากประเทศอื่นมาก จนไม่สามารถยกเหตุผลทำนองว่า "ใครๆ ก็มีที่ไหนๆ ก็ใช้" มาอ้างได้อีกต่อไป โดยผมคัดบางส่วนจากบทความและการอภิปรายของผมในช่วงรณรงค์แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ร่วมกับคณะนิติราษฎร์และ ครก. 112 ถ้าผู้ใดประสงค์อ่านฉบับเต็ม สามารถค้นได้ในหนังสือ "ราชมัลลงทัณฑ์ บัลลังก์ปฏิรูป" ซึ่งเป็นรวมบันทึกข้อเขียนและอภิปรายของผมในช่วงปี 2553-2556 ดังนี้
...



ความผิดฐาน Lèse Majesté มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อเป็นเครื่องมือในกระบวนการทำให้องค์อธิปัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนจากบุคคลธรรมดาให้เป็น Majesty ทั้งฝ่ายศาสนจักร และฝ่ายอาณาจักร ต่างก็นำไปใช้เพื่อจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จนกระทั่งเข้าสู่ยุค enlightenment เริ่มวิจารณ์กันว่า กฎหมายแบบนี้ไม่ถูกต้อง Montesquieu เขียนไว้ในหนังสือชื่อ L’Esprit des lois ในบทที่ว่าด้วย Lèse Majesté ว่า การกำหนดความผิดฐาน Lèse Majesté ไว้อย่างกว้าง ทำให้รัฐบาลใช้อำนาจโดยมิชอบ Cesare Beccaria เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “ความผิดและการลงโทษ” เสนอว่าโทษต้องได้สัดส่วนกับลักษณะของการกระทำที่เป็นความผิด และไม่สนับสนุนโทษประหาร ในบทหนึ่งเขาพูดเรื่อง Lèse Majesté ไว้ว่า บรรดาทรราชและผู้โง่เขลา ได้ให้ชื่อ Lèse Majesté แก่โทษที่บ้าบอคอแตก โดยมีการนำมาใช้ในลักษณะที่แตกต่างกันไป โอกาสแบบนี้ที่เกิดขึ้นมา มันทำให้มนุษย์ตกเป็นเหยื่อของคำ ๆ นี้

ลองมาสำรวจดูความผิดฐาน Lèse Majesté ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

กลุ่มแรก ไม่มีความผิดฐาน Lèse Majesté ใช้กฎหมายหมิ่นประมาทเหมือนบุคคลทั่วไป

๑. ญี่ปุ่น
ไม่มี

๒. สหราชอาณาจักร
ไม่มี ใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการหมิ่นประมาท ๑๙๙๖ ซึ่งไม่ปรากฏว่ากำหนดความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์แยกออกจากบุคคลธรรมดา ความผิดตาม พ.ร.บ.นี้มีโทษปรับเท่านั้น

กลุ่มที่สอง มี แต่ไม่นำมาใช้ หรือแทบไม่นำมาใช้ หรือหากนำมาใช้ ก็เพียงลงโทษปรับ

๑. เบลเยียม
· พระราชบัญญัติลงวันที่ ๖ เมษายน ๑๘๔๗ ว่าด้วยการลงโทษอาญาในความผิดฐานละเมิดกษัตริย์
· มาตรา ๑ กำหนดโทษความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ไว้ที่ จำคุก ๖ เดือน ถึง ๓ ปี หรือปรับ ๓๐๐ ฟรังค์ ถึง ๓,๐๐๐ ฟรังค์
· มาตรา ๒ กำหนดโทษความผิดฐานหมิ่นประมาทสมาชิกในครอบครัวกษัตริย์ไว้ที่ จำคุก ๓ เดือน ถึง ๒ ปี หรือปรับ ๑๐๐ ถึง ๒,๐๐๐ ฟรังค์
· แทบไม่เคยนำมาใช้

๒. เนเธอร์แลนด์
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๑ ความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับอัตราลำดับที่สี่
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ความผิดฐานหมิ่นประมาทคู่สมรสกษัตริย์ รัชทายาท คู่สมรสของรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๔ ปี หรือปรับตามอัตราลำดับที่สี่
· แทบไม่ได้นำมาใช้ จนกระทั่งปี ๒๐๐๗ ศาลพิพากษาลงโทษชายคนหนึ่งที่ด่าพระราชินีบรีอาทิซว่า “อีกะหรี่” ด้วยการปรับเงิน ๔๐๐ ยูโร

๓. เดนมาร์ก
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ กำหนดให้ความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา มีโทษปรับหรือจำคุกไม่เกิน ๔ เดือน ในกรณีหมิ่นประมาทกษัตริย์หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มาตรา ๑๑๕ กำหนดว่า อัตราโทษอาจเพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่า และในกรณีหมิ่นประมาทพระราชินี หรือรัชทายาท มาตรา ๑๑๖ กำหนดว่า อัตราโทษอาจเพิ่มขึ้นอีกกึ่งหนึ่ง
· ในประวัติศาสตร์ มาตรา ๑๑๕ และมาตรา ๑๑๖ ไม่เคยถูกนำมาบังคับใช้

๔. นอร์เวย์
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๐๑ วรรคสอง ความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๐๓ กำหนดให้การร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะริเริ่มได้แต่โดยคำสั่งของกษัตริย์หรือด้วยความยินยอมของกษัตริย์
· แทบไม่เคยนำมาใช้ จนเสมือนว่ามาตรา ๑๐๑ วรรคสอง ตายไปแล้ว

๕. สวีเดน
· ประมวลกฎหมายอาญา บทที่ ๑๘ ส่วนที่สอง กำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และหมิ่นประมาทที่กระทำต่อกษัตริย์ สมาชิกในครอบครัวกษัตริย์ หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๔ ปี ในกรณีที่ความผิดนั้นหากกระทำต่อบุคคลธรรมดาแล้วมีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน
· และต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๖ ปี ในกรณีที่ความผิดนั้นหากกระทำต่อบุคคลธรรมดาแล้วมีโทษจำคุก ๖ เดือนแต่ไม่เกิน ๔ ปี
· ความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา มีโทษปรับ, ความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาอย่างร้ายแรง มีโทษปรับ หรือจำคุกไม่เกิน ๒ ปี, ความผิดฐานดูหมิ่นบุคคลธรรมดา มีโทษปรับ, ความผิดฐานดูหมิ่นบุคคลธรรมดาอย่างร้ายแรง มีโทษปรับ หรือจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน
· ดังนั้น เมื่อนำอัตราโทษในความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาและดูหมิ่นบุคคลธรรมดา มาพิจารณากรณีที่ความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นถูกกระทำต่อกษัตริย์แล้ว ย่อมสรุปได้ ดังนี้
· หมิ่นประมาทกษัตริย์ สมาชิกในครอบครัวกษัตริย์ หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โทษปรับ
· หมิ่นประมาทกษัตริย์ สมาชิกในครอบครัวกษัตริย์ หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อย่างร้ายแรง มีโทษปรับ หรือโทษจำคุกไม่เกิน ๖ ปี
· ดูหมิ่นกษัตริย์ สมาชิกในครอบครัวกษัตริย์ หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โทษปรับ
· ดูหมิ่นกษัตริย์ สมาชิกในครอบครัวกษัตริย์ หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อย่างร้ายแรง มีโทษปรับ หรือโทษจำคุกไม่เกิน ๔ ปี

๖. สเปน
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๔๐๙ วรรคสาม ความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น จำคุก ๖ เดือน ถึง ๒ ปี ในกรณีร้ายแรง และปรับเทียบเท่าอัตรา ๖ เดือน ถึง ๑๒ เดือน ในกรณีไม่ร้ายแรง
· เดือนพฤศจิกายน ๒๐๐๗ ศาลพิพากษาให้ยึดหนังสือพิมพ์ El Jueves และสั่งปรับ ๓๐๐๐ ยูโร จากกรณีวาดการ์ตูนล้อมกุฎราชกุมารเฟลิเป้ร่วมเพศในท่าด็อกกี้กับเจ้าหญิงเลติเซีย
· วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๐๑๑ ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ในคดี Otegi Mondragon v. Spain วินิจฉัยว่าการที่ศาลสเปนพิพากษาให้นาย Otegi Mondragon จำคุก ๑ ปีในความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามมาตรา ๔๐๙ วรรคสาม เป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามมาตรา ๑๐ ของอนุสัญญาสิทธิมนุษยชนยุโรป ให้รัฐสเปนชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางจิตใจให้แก่นาย Otegi Mondragon เป็นจำนวนเงิน ๒๐,๐๐๐ ยูโร และชดใช้ค่าธรรมเนียมศาลและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินคดีในศาลเป็นจำนวนเงิน ๓,๐๐๐ ยูโร

กลุ่มที่สาม มีและนำมาใช้ แต่อัตราโทษต่ำกว่าราชอาณาจักรไทย

โมร็อกโก
· ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๙
· หากกระทำต่อกษัตริย์หรือรัชทายาท มีโทษจำคุก ๑ ปีถึง ๕ ปี หรือ ปรับ ๒๐๐ ถึง ๑,๐๐๐ ดีร์แฮม
· หากกระทำต่อทายาท ทายาทที่เป็นหลานสายตรง คู่สมรส พี่ชายหรือน้องชาย ลูกของพี่ชายหรือน้องชาย พี่สาว ลุง มีโทษจำคุก ๖ เดือนถึง ๒ ปี หรือปรับ ๒๐๐ ถึง ๕๐๐ ดีร์แฮม

เมื่อได้อ่านจนจบแล้ว คงเห็นตรงกันว่า ข้ออ้างที่ว่า "ใครๆ ก็มี ประเทศไหนๆ ก็ใช้" เป็นข้ออ้างที่ไม่มีน้ำหนัก จนไม่อาจถูกนำมายกตอบโต้ได้อีกต่อไป

กรณีที่แฮชแท็ก #ยกเลิก112 ซึ่งขึ้นเทรนด์ในทวิตเตอร์ ทำให้ประเด็นเกี่ยวกับมาตรา 112 กลับมา ท่านใดสนใจอยากให้กลับไปย้อนอ่านบันทึกข้อเขียนและการอภิปรายของผมในหนังสือ “ราชมัลลงทัณฑ์ บัลลังก์ปฏิรูป” หน้า 90-107

#ประชุมสภา #Saveวันเฉลิม

Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล