วันศุกร์, ตุลาคม 11, 2562

ชาวบ้านเดือดร้อนโดยใช่ที่ หอพักตัดฟรีไวไฟเพราะกลัวปรับ ๕ แสน ขัด รมว.สั่งเก็บข้อมูล

บร๊ะ มากันเป็นแถวเชียว รายงานเศรษฐกิจไทยเหี่ยวและหดหู่ ไหนจะเลื่อนเซ็นสัญญารถไฟเชื่อมสามสนามบินของเจ้าสัวไปอีกหน ลูกผีลูกคนไม่รู้ปลายเดือนเลื่อนอีกหรือเปล่า ทำเอา ประชารัฐห้อยโตงเตงอยู่เนี่ย

ไหนจะให้ ส.ส.ปัดเศษคนงาม มาดามเก้ง ไปเที่ยวเทศกาลกินเจไชน่าทาวน์แล้วโพสต์โซเชียลวุ้ยว้ายว่าเศรษฐกิจดี๊ดี กลับโดนพลเมืองไซเบอร์หักศอกกลับขรม ว่าแหมเจ๊ไม่ลองไปเดินประตูน้ำ สำเพ็ง ดูบ้างล่ะว่ามันคึกคักเหมือนกันไหม

เสียงบ่นประชาชนทางออนไลน์ลุกลามไปถึงรัฐมนตรีกัญชา ที่ตั้งท่าจะชิงร้อยชิงล้านกับเจ้าสัวในงานก่อสร้าง ฐานที่มีบริษัทใช้ชื่อ ‘Sino-Thai’ เหมือนเป็นนัยว่าใกล้ชิดจีน จนทำให้ทั่นรองฯ น้อตหลุดกลางเฟชบุ๊ค (เรื่องอะไร ไปดูที่ภาพแล้วกัน)

ข้อสำคัญอยู่ที่คล้อยหลัง ไอเอ็มเอฟชมว่าเศรษฐกิจไทยปลูกมาดีตั้งแต่สิบปีมาแล้ว เวิร์ลด์แบ๊งค์กลัวชาวโลกเข้าใจผิด ออกประกาศหั่น จีดีพี ของไทยลงเหลือแค่ ๒.๗% เสียนี่ ตามด้วย ม.หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตก สุดๆ

“การปรับตัวลดลงของดัชนีทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๗ ดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกันยายน ๒๕๖๒...อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ ๓๙ เดือน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นมา”

ตัวเลข โดยรวมความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเฉพาะเดือนกันยายน ๖๒ อยู่ที ๕๙.๓ เท่านั้น ต่ำกว่าเมื่อเดือนที่แล้วทุกรายการ สะท้อนไปถึงรายงานของธนาคารโลกที่ว่า “การส่งออกสินค้าและบริการปีนี้จะติดลบสูงถึงร้อยละ ๕.๓”

มิหนำซ้ำ “อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ ๒ ของปี ๒๕๖๒ ชะลอตัวมาอยู่ที่ร้อยละ ๒.๓ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ปี ๒๕๕๗” ต้นสายปลายเหตุมาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่ “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาในเดือน ส.ค. ๒๕๖๒

ที่มุ่งเป้าไปที่เกษตรกร ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การขยายเวลาชำระหนี้ การคืนภาษีท่องเที่ยว ไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ” เลย พูดอย่างถ้อยทีถ้อยปราศรัยอย่างเวิร์ลด์แบ๊งค์
 
ก็ว่า “ขนาดออกมาตรการมากมายแล้วยังไม่พอ” ดังการวิเคราะห์ของ เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลกว่า “มาตรการทางการคลังของรัฐบาลควรออกมาได้อีก เพื่อเพิ่มโอกาสให้ถึงมือของคนที่ต้องการ”


แต่กับชาวบ้านที่ต้องเจ็บร้อนกับการทำมาหากินฝืดเคือง รายได้ขาดๆ หล่นๆ มาแล้วตลอดสี่ห้าปี บอกว่าอย่างนี้เป้นผลของการสักแต่ว่าทำไปมากๆ แต่ไม่ได้เรื่อง หรือ ขยันแต่งี่เง่า ไม่เช่นนั้นก็ทำอย่างหนึ่งเพื่อหวังผลอีกอย่าง

ดังรัฐมนตรีดิจิทัลออกมาเตือนร้านค้าร้านกาแฟที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่ลุกค้า ฟรีว่าต้องเก็บข้อมูลการใช้เน็ตของลูกค้าไว้เป็นเวลาสามเดือน เพื่อที่เวลาเจ้าหน้าที่มาขอตรวจแล้วจะได้มีข้อยืนยัน ซึ่งแท้จริงก็เป็นการสั่งให้กิจการล่วงละเมิดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการนั่นเอง
 
จุดมุ่งหมายน่าจะให้สะดวกต่อเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามคนที่โพสต์ด่ารัฐบาล ล้วงเอาจากร้านค้าง่ายกว่าการขอจาก ไอพีหรือ ‘Internet Providers’ หรือให้หน่วยงานรัฐเข้าไปล้วง หรือ ‘hacks’ ชาวเน็ตเขารู้ทัน พอออกกฎอย่างนี้มาก็โวยกันสิ

ทั่นรัฐมนตรีผู้ที่มีความดีต่อ ‘regime’ ในฐานที่เป็น กปปส. นั่งร้านของรัฐประหาร คดีกบฏจึงถูกเก็บขึ้นหิ้งทิ้งคาไว้ รีบแก้ตัวน้ำขุ่นๆ โทษสื่อว่า “มีการนำเสนอคลาดเคลื่อนในบางประเด็น จนประชาชนเกิดความสับสน” อ้างว่าที่พูดไปแค่ “ขอความร่วมมือ” เพื่อประโยชน์ของร้านค้าเอง

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ลิ้นพันเชียวละว่า “เพราะเมื่อเกิดเหตุกระทำผิดขึ้นมา แล้วตรวจสอบย้อนกลับไปจนเจอ IP address ของร้านค้า จะได้ทราบว่าใครคือผู้ใช้จริง” หรืออีกนัยหนึ่งร้านค้าไม่ต้องมาคอยชี้แจงสิ่งที่ตนไม่รู้ว่าลูกค้าโพสต์อะไรบ้าง

แต่การแก้ตัวอย่างนี้ของรัฐมนตรีกลับแสดงความมักง่าย หรือว่า ไม่รู้หอรู้ตอ(ขออภัยใช้ภาษาคนรุ่นใหม่) ของ รมว.เอง ในเมื่อเจ้าหน้าที่ดิจิทัลควรที่จะไปขอเอาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแทน เมื่อมีเหตุอันต้องสอบสวนว่าละเมิดความมั่นคง

ซึ่งในทางที่ควรของสังคมประชาธิปไตย จะไม่เที่ยวไปขอกันพร่ำเพรื่ออย่างที่รัฐบาล คสช.๑ ทำ และกำลังจะมั่วซั่วอย่างรัฐบาล คสช.๒ ชุดนี้พยายามทำ ไม่ว่าพุทธิพงษ์จะแถกแถอย่างไร ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว

เพจ เส้นทางเศรษฐีรายงานว่าเมื่อ ๙ ตุลา อะพ้าร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งย่านจตุจักร “ได้ประกาศแจ้งยกเลิกการให้บริการ WiFi ฟรี” เนื่องจาก “ขณะนี้ทางราชการกำลังรณรงค์ตรวจจับ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา ๒๖” กลัวว่าจะโดนปรับ ๕ แสนบาท

ทั้งๆ ที่เพจ ท๊อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอมให้ข้อคิดเรื่องที่ รมว.ดิจิทัลขอให้ร้านกาแฟเก็บ ‘log file’ ว่า “การที่จะทำตามประกาศของกระทรวงดิจิทัลฯ อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม” ในเมื่อร้านกาแฟส่วนใหญ่ใช้เน็ตบ้าน “ไม่มีความสามารถในการเก็บ log file


นี่แหละคือความ งี่เง่า หรือ ไม่รู้หอรู้ตอ ของ รมว. ออกนโยบายโดยไม่คิดให้รอบคอบถี่ถ้วนเฉกเช่นรัฐมนตรีต้องกระทำ ออกมาแล้วเกิดความเดือดร้อนกับประชาชนโดยใช่ที่

ชาวบ้านเดือดร้อนกับการอวดเก่ง แย่งเขามาแล้วทำท่าจะรักษาไว้ไม่ได้ ไม่พอ ยังต้องมาทนทุกข์กับการลองผิดลองถูกของพวกขี้ข้าประจบนายกันอีก