วันอังคาร, พฤษภาคม 01, 2561

"ทหารไปเยี่ยมบ้าน" พฤติกรรมทำได้แค่ไหน แม้ในอำนาจ 'คำสั่ง คสช.'


ทุกวันนี้จะพบว่าใครก็ตามที่ไปร่วมชุมนุมเรียกร้องสิทธิส่วนบุคคล สิทธิชุมชน และ/หรือแสดงออกโดดเด่นในการตำหนิ คัดค้านพฤติกรรม นโยบาย ของคณะทหาร คสช. มักจะถูก 'ทหารไปเยี่ยมบ้าน' กันเสมอ

ข้อนี้ iLaw ได้นำเอาข้อกฎหมายมาตีแผ่ให้เห็นว่าทหารไม่สามารถลุกล้ำไปเคาะประตูบ้านขอคุยกับผู้คนได้ตามอำเภอใจอย่างที่ทำอยู่

เราคัดมาเผยแพร่ในที่นี้โดยสังเขป

"ในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารระดับปฏิบัติการ หลายครั้งพบว่าเจ้าหน้าที่ทหารยังสับสนในอำนาจหน้าที่ของตัวเอง โดยอ้างอิงอำนาจเพียงลอยๆ ว่าทหารมีอำนาจตาม 'มาตรา 44' ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกต้อง 

เพราะผู้ที่จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ ไม่ใช่ทหารทุกคน แต่มีเพียงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียวเท่านั้น 

ความไม่เข้าใจหรือการกล่าวอ้างอย่างลอยๆ เช่นนี้ สร้างความสับสนให้ประชาชน และทำให้ประชาชนเข้าใจไปโดยคลาดเคลื่อนว่า ทหารทุกคนมีอำนาจตรวจค้นและจับกุมประชาชนได้ด้วย 'มาตรา 44'...


ส่วนเมื่อทหารระดับปฏิบัติต้องการจะใช้อำนาจเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ก็ต้องอ้างอิงอำนาจของตัวเองให้ถูกต้องว่ากำลังทำตามคำสั่งที่ 3/2558 หรือ 13/2559 ซึ่งคำสั่งสองฉบับนี้ก็ยังไม่ได้ให้ทหารมีอำนาจตรวจค้นจับกุมประชาชนได้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด แต่กลับมีเงื่อนไขการใช้อำนาจที่ชัดเจน อย่างน้อยดังนี้

1. ทหารที่จะใช้อำนาจพิเศษนี้ได้ ต้องมียศตั้งแต่ชั้นร้อยตรี เรือตรี หรือเรืออากาศตรี ขึ้นไป และต้องได้รับการแต่งตั้งเป็นการเฉพาะจากหัวหน้า คสช. ไม่ใช่ว่า ทุกคนที่เป็นทหารจะมีอำนาจพิเศษทั้งหมด

2. ทหารจะใช้อำนาจพิเศษนี้ได้ ก็เพื่อปราบปรามการกระทำความผิดบางประการเท่านั้น คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ให้อำนาจทหารเข้ามาปราบปรามผู้ต้องสงสัยในคดีความผิดต่อพระมหากษัตริย์ ความผิดต่อความมั่นคง ความผิิดตามกฎหมายอาวุธปืน และความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศและคำสั่ง คสช. 

ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559 ให้อำนาจทหารเข้ามาในกรณีมีผู้ต้องสงสัยว่า ดำรงชีพด้วยการทำผิดกฎหมาย หรือได้ประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายจากการข่มขืนใจผู้อื่นให้กลัวอันตราย เท่านั้น หากทหารสงสัยว่า บุคคลใดทำความผิดตามกฎหมายอื่น จะอ้างอำนาจพิเศษเข้ามาจัดการไม่ได้ ต้องให้เป็นหน้าที่ตำรวจทำงานตามปกติ

3. การจับกุมตัว ทหารจะจับได้เฉพาะกรณีที่ความผิดเกิดขึ้นต่อหน้าทหารเท่านั้น หากไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า การจับกุมผู้ต้องสงสัยก็ต้องมีหมายจับที่ออกโดยศาล เช่นเดียวกับกระบวนการปกติ

4. การค้นบ้าน ทหารจะเข้าค้นเคหสถานได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่า หากเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ ผู้ต้องสงสัยจะหลบหนีไปหรือทรัพย์สินที่เป็นหลักฐานจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทําลาย หากไม่มีเหตุปัจจัยเหล่านี้ที่พิสูจน์ได้ชัดเจน การเข้าค้นบ้านก็ต้องมีหมายค้นที่ออกโดยศาล เช่นเดียวกับกระบวนการปกติ...


อย่างไรก็ดี คำสั่งหัวหน้า คสช. ทั้งสองฉบับยังให้อำนาจพิเศษแก่ทหารอีกหนึ่งประการ คือ ให้ทหารมีอำนาจเรียกตัวบุคคลที่ต้องสงสัยมาพบและกักตัวไว้เพื่อสอบถามข้อมูลได้ไม่เกิน 7 วัน โดยสามารถควบคุมตัวเอาไว้ในค่ายทหารได้ หากใครขัดขืน ไม่ยอมทำตามคำสั่งทหารมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และการใช้อำนาจของทหารตาม คำสั่งหัวหน้า คสช. เหล่านี้ ไม่อาจถูกตรวจสอบได้โดยศาลปกครอง หากทหารกระทําการไปตามอํานาจหน้าที่โดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินกว่าเหตุ ทหารก็ไม่ต้องรับผิดทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย"

(https://ilaw.or.th/node/4797)