เรียนรู้ ความปลอดภัย และธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ 🚌 หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า หนึ่งในธุรกิจที่มีกำแพงการแข่งขัน (Barrier of Entry) สูงที่สุดในสหรัฐ เพราะต้องผ่านข้อบังคับที่เข้มข้นมากมาย โดยเฉพาะความปลอดภัย

Money Disruptor @Money_Disruptor

ความปลอดภัย และธุรกิจรถโรงเรียนในสหรัฐ 🚌 หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า หนึ่งในธุรกิจที่มีกำแพงการแข่งขัน (Barrier of Entry) สูงที่สุดในสหรัฐ คือธุรกิจ “รถโรงเรียน” เพราะต้องผ่านข้อบังคับที่เข้มข้นมากมาย
แต่ที่น่าสนใจคือ...

ปัจจุบันมีเด็กกว่า 26 ล้านคนในสหรัฐและแคนาดา ใช้รถโรงเรียนกว่า 5 แสนคัน แต่เกือบทั้งหมดถูกบริหารโดย 3 บริษัท (oligopoly) แค่นั้น คือ Blue Bird, Thomas และ IC รถโรงเรียน ต้องมีการออกแบบพิเศษ ที่ "เหนือกว่า" รถโดยสารปกติ เช่น

1/ การออกแบบเพื่อความปลอดภัย 

- สีเหลืองเฉพาะ ชัดเจนในทุกสภาพอากาศ 

- มีแขนหยุด+ไฟกระพริบ ที่ใช้แจ้งให้ผู้ขับขี่อื่น ๆ หยุดเมื่อเด็กๆ กำลังขึ้นลงรถ 

- มีพนักพิงสูงและการแบ่งพื้นที่ ป้องกันเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ “Compartmentalization" 

- มีระบบติดตาม GPS ผ่านแอป และกล้องตรวจตรา

2/ การป้องกันไฟไหม้  

- ภายในใช้วัสดุกันไฟ ชะลอการแพร่กระจายของไฟ 

- มีระบบดับไฟอัตโนมัติ และระบบป้องกันการลุกไหม้ของถังเชื้อเพลิงเป็นพิเศษ 

- ติดตั้งทางออกฉุกเฉินหลายแห่ง เช่น ประตูหลัง ช่องหลังคา และหน้าต่างด้านข้าง เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถออกจากรถได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน''

3/ ข้อบังคับ 

- มีมาตรฐานความปลอดภัยเฉพาะ เช่น การป้องกันการชน มาตรฐานการเบรก ความแข็งแรงของโครงสร้าง เข้มงวดกว่ารถโดยสารปกติ 

- มีการตรวจสอบบ่อยครั้งกว่ารถโดยสารปกติ 

- มีการฝึกอบรมคนขับอย่างละเอียดและเข้มงวด การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม มีใบขับขี่พิเศษ

4/ การใช้พลังงานสะอาด 

เริ่มสนับสนุนชัดเจนปี 2021 โดยรัฐจัดงบ $5b ใน 5 ปี ทยอยเปลี่ยนรถให้เป็น Zero-emission เพื่อลดการปล่อยมลพิษ ลดเสียงรบกวน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

ซึ่งรถโรงเรียน ที่มีเวลาและเส้นทางการวิ่งที่แน่นอน และเวลาจอดพักนานกว่าปกติ จึงเหมาะกับการใช้งานรถไฟฟ้ามาก

สุดท้าย ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุด ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วยครับ

https://x.com/Money_Disruptor/status/1841062220920471682