วันจันทร์, มีนาคม 11, 2567

“ใครก็ตามในโลกนี้ที่ไม่สามารถติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้ คำยกย่องหรือสรรเสริญก็จะกลายเป็นแค่เรื่องโกหก” เปิดคำเบิกความมาตรา 112 คดีที่ 3 ของ ‘อานนท์ นำภา’ จากการปราศรัยย้ำข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ใน #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
14h·

“ใครก็ตามในโลกนี้ที่ไม่สามารถติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้
คำยกย่องหรือสรรเสริญก็จะกลายเป็นแค่เรื่องโกหก”
.
เปิดคำเบิกความมาตรา 112 คดีที่ 3 ของ ‘อานนท์ นำภา’ จากการปราศรัยย้ำข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ใน #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2
.
.
อานนท์ นำภา ถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาลเพื่อเบิกความเป็นพยานจำเลยในคดีมาตรา 112 จากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ใน #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 เมื่อปี 2564 ซึ่งการสืบพยานในคดีนี้เสร็จสิ้นแล้ว ศาลนัดฟังคำพิพากษา 29 เม.ย. 2567 นับเป็นคดี 112 คดีที่ 3 ของอานนท์ที่ศาลจะมีคำพิพากษา
.
19 ก.พ. และ 4 มี.ค. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้มีนัดสืบพยานจำเลยในคดีมาตรา 112 ของ อานนท์ นำภา จากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่หอศิลป กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 ซึ่งอัยการฟ้องอานนท์ใน 4 ข้อหา ประกอบไปด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
สำหรับคดีนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับอานนท์หลังจากปราศรัยผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยมี นพดล พรหมภาสิต เลขาธิการ ศชอ. เข้าแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน หลังจากอานนท์เข้ามอบตัวในวันที่ 9 ส.ค. 2564 ก็ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวเลยตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนถึงชั้นพิจารณา แม้จะมีการยื่นประกันหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งทนายความยื่นประกันเป็นครั้งที่ 11 ในวันที่ 28 ก.พ. 2565 ศาลจึงอนุญาตให้ประกัน โดยให้ติด EM พร้อมเงื่อนไขประกันหลายข้อ รวมเวลาถูกขังครั้งนั้นยาวนานถึง 202 วัน หรือเกือบ 7 เดือน
.
ย้อนอ่านคดีนี้ >> https://tlhr2014.com/archives/38737
.
ในวันที่ 19 ก.พ. 2567 อานนท์ถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 703 ด้วยชุดนักโทษสีน้ำตาล สวมกุญแจข้อเท้า บรรยากาศในห้องวันนั้นมีประชาชนเข้ามานั่งรอฟังการเบิกความและรอให้กำลังใจอานนท์จนเต็มที่นั่ง
.
หลังจากอานนท์มาถึงห้องพิจารณาคดีได้พักหนึ่ง ศาลก็เริ่มการสืบพยานในเวลา 09.47 น. อานนท์ซึ่งเข้าเบิกความเป็นพยานจำเลยปากแรก ใช้เวลาเบิกความนานกว่า 3 ชั่วโมง ตลอดเวลาพิจารณาคดีในช่วงเช้า
.
ส่วนหนึ่งของการเบิกความอานนท์ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เขาขึ้นปราศรัยในวันดังกล่าว
.
“ตอนแรกที่กลุ่ม DRG มาขอให้พยานปราศรัย พยานปฏิเสธเพราะเกรงจะถูกถอนประกัน ไม่อยากติดคุกอีก แต่พยานตัดสินใจปราศรัยเพราะเห็นว่า ช่วงนั้นโควิดระบาด มีคนตายรายวัน คนขาดแคลนอาหารไปรอรับข้าวกล่องที่ราชดำเนิน คนไข้ไม่มีเตียง คนล้นโรงพยาบาล เป็นผลมาจากรัฐบาลจัดการวัคซีนผิดพลาด เนื่องจากต้องการเอื้อประโยชน์ให้รัชกาลที่ 10 ในทางธุรกิจ โดยการนำเงิน 600 ล้านบาท ไปสนับสนุนบริษัทสยามไบโอไซน์ ซึ่งเป็นของรัชกาลที่ 10 โดยไม่ผ่านการประมูลใด ๆ อีกทั้งรัฐบาลต้องการให้เกิดภาพวัคซีนพระราชทานมาคลี่คลายสถานการณ์
.
“แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคระบาดนั้นไม่สามารถรอกันได้ เราไม่มีการจองวัคซีนดี ๆ เหมือนต่างประเทศ เพราะมารอวัคซีนจากสยามไบโอไซน์ ระหว่างที่รอก็นำวัคซีนซิโนแวคที่จีนบริจาคให้มาใช้ ซึ่งไม่ได้ผลในการต่อต้านโรคโควิด และก็อดทนดูคนตายรายวัน
.
“พยานเห็นว่า จำเป็นต้องออกมาพูดความจริงอย่างตรง ๆ รัฐบาลอยากให้ซีนกับสถาบันกษัตริย์ว่าทรงมีเมตตา ขณะเดียวกันก็ให้ผลประโยชน์ 600 ล้านด้วย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าบริษัทนี้ไม่มีประสิทธิภาพในการผลิตวัคซีนเลย
.
“กลุ่ม DRG มาขอให้พยานพูด เพราะเห็นว่าพยานเป็นคนพูดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อย่างตรงไปตรงมา แต่หลังจากที่พูดพยานก็ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ถอนประกันเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2564 หลังจากนั้นคนรุ่นใหม่ที่ได้รับผลกระทบก็ไปเรียกร้องเรื่องวัคซีนจนเกิดเป็น ‘ทะลุแก๊ซ’ และช่วงนั้นแกนนำก็ถูกถอนประกันเช่นกันต่อให้ไม่ออกมาพูด
.
“พยานออกมาพูดเรื่องวัคซีนเพื่อให้เกิดการนำเข้า และให้เห็นความจริงว่า เหตุที่ล่าช้าเพราะอะไร อาจจะกระทบกับสถาบันกษัตริย์บ้าง แต่ก็เป็นความจริง”
.
.
ตอนหนึ่ง อานนท์ได้เบิกความถึงลักษณะการบรรยายฟ้องในคดีนี้ของพนักงานอัยการ
.
“พยานเห็นว่า เป็นการบรรยายฟ้องที่ประจบประแจงเกินจริง ความจริงคนไทยจำนวนมากก็ตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ จะเห็นได้ตามโซเชียลว่า มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์โดยหน่วยงานรัฐ แต่ปิดคอมเมนต์หรือไม่ให้ประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็น จำนวนคนที่แสดงออกในวันสำคัญต่าง ๆ ก็ลดลง คนรุ่นใหม่เริ่มตั้งคำถามต่อสถาบันกษัตริย์มากขึ้น ทั้งทางโซเชียลมีเดียและในที่ชุมนุม ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา คนที่เลือกพรรคที่มีการตั้งคำถามกับสถาบันกษัตริย์มาเป็นอันดับ 1 ส่วนพรรคที่แสดงความจงรักภักดีแบบไม่ลืมหูลืมตาก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
.
“พยานคิดว่า มีคนจำนวนมากที่ตั้งคำถามต่อสถาบันกษัตริย์ด้วยความเคารพ ซึ่งก็จะถูกคนที่รักสถาบันกษัตริย์แบบไม่ลืมหูลืมตากล่าวหาว่าเป็นพวกล้มเจ้า จนหลายคนถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และต้องลี้ภัยทางการเมือง
.
“พยานเชื่อว่า การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้สิ่งที่เราวิจารณ์นั้นปรับตัวให้ดีขึ้นได้ ขณะเดียวกันถ้าหากเราชื่นชมอย่างเดียว ก็จะทำให้สิ่งที่เราชื่นชมไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง และจะนำไปสู่ความเสื่อมในที่สุด”
.
“เป็นความจริงที่น่ากระอักกระอ่วน ไม่มีใครกล้าออกมาทักท้วง พยานจึงต้องออกมาทักท้วงเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ให้สถาบันกษัตริย์กลับไปอยู่ในระบอบประชาธิปไตยเหมือนเดิม
.
“เจตนาของพยานคือต้องการให้ทรัพย์สินกลับไปเป็นของสาธารณะหรือเป็นของราชบัลลังก์เหมือนเดิม เมื่อกษัตริย์พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ก็จะมีราชสมบัติ นั่นหมายความว่าสังคมไทยก็จะมีสถาบันกษัตริย์ต่อไป การพูดความจริงเพื่อรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน”
.
.
“ข้อความที่นำมาฟ้องในคดีนี้ทั้งหมด ไม่มีพยานโจทก์ปากใดเบิกความยืนยันว่า เป็นข้อความเท็จ ในขณะเดียวกันก็มีพยานโจทก์หลายปากที่กระอักกระอ่วนที่จะพูดถึงเป็นความจริง เช่น ปฏิเสธการเบิกความบ้าง ไม่ตอบบ้าง หนีกลับบ้านบ้าง เจตนาของพยานในการออกมาพูดมี 2 ส่วน ส่วนแรกเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ว่า 1 ปีที่ผ่านไปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง และส่วนที่ 2 เรียกร้องให้มีการนำเข้าวัคซีน โดยชี้ปัญหาว่าทำไมถึงล่าช้า
.
“ปัญหาของมาตรา 112 ก็อย่างที่พยานปราศรัย การพูดความจริงก็ถูกตีความให้เป็นความผิด คนที่ต้องการให้ราชสมบัติคงอยู่ก็ถูกฟ้องว่าเป็นคนทำลายสถาบันฯ ซึ่งเป็นเรื่องประหลาด
.
“พยานหวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เราจะย้อนกลับมามองตัวเองว่าเราได้สร้างบาดแผลให้กับคนรุ่นใหม่ไว้อย่างไร ตัวแทนคนรุ่นใหม่ก็จะเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ในสภาโดยการออกกฎหมาย เช่น กฎหมายนิรโทษกรรม แก้ไขกฎหมายให้ทรัพย์สินกลับมาเป็นของราชบัลลังก์เหมือนเดิม
.
“ใครก็ตามในโลกนี้ที่ไม่สามารถติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้ คำยกย่องหรือสรรเสริญก็จะกลายเป็นแค่เรื่องโกหก” อานนท์กล่าวปิดท้ายการเบิกความ
.
.
นอกจากอานนท์แล้ว พยานฝ่ายจำเลยยังมีอีก 4 ปาก ได้แก่ ธนาพล อิ๋วสกุล ได้เบิกความในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 112 และกฎหมายจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
.
สมชาย ปรีชาศิลปกุล และพวงทอง ภวัครพันธุ์ ได้เบิกความในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ และการบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อคำปราศรัยของอานนท์ในคดีนี้
.
และสุดท้าย นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ได้มาเบิกความในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด การจัดการวัคซีนโควิด และคำปราศรัยเกี่ยวกับวัคซีนโควิดที่ถูกฟ้องว่าผิดมาตรา 112
.
.
หลังพยานจำเลยดังกล่าวเข้าเบิกความเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา คดีเป็นอันเสร็จการพิจารณา ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. โดยระหว่างนี้อานนท์ยังคงถูกคุมขังด้วยโทษจำคุก 8 ปี หลังจากเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี ในคดีมาตรา 112 เหตุจากการปราศรัยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 และต่อมาในวันที่ 17 ม.ค. 2567 ศาลอาญาก็มีคำพิพากษาจำคุกอีก 4 ปี จากการโพสต์ 3 ข้อความ และให้นับโทษต่อจากคดีแรก ซึ่งอานนท์ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์ทั้งสองคดี
.
จนถึงปัจจุบัน (10 มี.ค. 2567) อานนท์ถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 167 วัน
.
อ่านคำเบิกความทั้งหมดบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/65357
.....