วันอาทิตย์, ธันวาคม 17, 2566

‘คดีตากใบ’ ไม่ใช่เอกสารสำนวนหายแล้วจบ อดีตกรรมการสิทธิฯ ผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นชี้ ยังฟ้องคดีอาญาได้

คดีตากใบไม่ใช่เอกสารสำนวนหายแล้วจบ แม้จะเหลืออีกเพียง ๑๐ เดือนจะหมดอายุความ อดีตกรรมการสิทธิฯ และผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ บอกกรณีชาวบ้าน ๗๘ คน ตายเพราะขาดอากาศหายใจระหว่างควบคุมตัว ยังฟ้องอาญาได้

อังคณา นีละไพจิตร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา “ย้ำความสำคัญของเรื่องนี้ว่า เอกสารเกี่ยวกับคดี กรรมการสิทธิฯ ผู้สังเกตการณ์คดี และทนายความที่ทำคดีได้เก็บรักษาไว้ เพราะคดีตากใบเป็นที่สนใจของสหประชาชาติ รวมถึงองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี”

อังคณาชี้ว่า แม้ทายาทของประชาชน ๗๘ คนที่เสียชีวิตในน้ำมือของพนักงานทหาร-ตำรวจ จะได้รับเงินเยียวยา ๗ ล้าน ๕ แสนบาทไปแล้ว แต่ผู้สูญเสียและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ “ไม่มีการทำข้อตกลงว่าจะไม่ติดใจฟ้องทั้งแพ่งและอาญาต่อไป”

ในคดีที่ศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนการตาย (เมื่อปี ๒๕๕๒) เช่นนี้ “ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนส่งอัยการเพื่อฟ้องผู้ทำให้เสียชีวิต หรือญาติอาจฟ้องเองก็ได้” เฉกเช่นคดีต่างๆ ที่เป็นการเสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน

คดีตากใบต้องเดินตามแนวคดีอื่นซึ่งเทียบเคียงกันได้ เช่นคดีอหม่ามยะผา ประจำมัสยิดบ้านกอตอ นราธิวาส ถูกซ้อมทรมานเสียชีวิตเมื่อมีนาคม ๕๑ “เมื่อไต่สวนการตายเสร็จ ตำรวจได้ทำสำนวนส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพราะผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ”

คดีอิหม่ามฯ ปปช.ชี้มูลเจ้าหน้าที่มีผิดทั้งทางวินัยและอาญา แต่คดีตากใบกลับแตกต่างไป “ถือว่าดำเนินการไม่ตรงไปตรงมา” ใช่ไหมล่ะ การกระทำบางอย่างส่อเจตนา เช่นกรรมาธิการความมั่นคงสภาผู้แทนฯ ได้เชิญตัวแทนหน่วยงานต่างๆ หารือ

“พบว่าไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ให้เกียรติสภาผู้แทนฯ และไม่ให้ค่าต่อการทำหน้าที่ของตนเองตามรัฐธรรมนูญ” โดยเฉพาะ กอ.รมน. หนีสภาหลายครั้งแล้ว แบบเดียวกับนายกรัฐมนตรีคนนี้ที่งานยุ่งท่องต่างประเทศ ไม่เคยมีเวลาเข้าสภา

(https://www.isranews.org/article/south-news/special-talk/124714-angkanatakbai.html)