Suchart Sawadsri
10h
จดหมายถึงประธานองคมนตรี
จาก นักคิด นักเขียน นักวิชาการ
นักกฎหมาย อาจารย์มหาวิทยาลัย ศิลปินแห่งราษฎร
๓๑ มกราคม ๒๕๖๖
เรื่อง ขอพิจารณาหาวิธีการแก้ปัญหาวิกฤตการอดอาหารของ “ตะวัน” และ “แบม” อย่างมีมนุษยธรรม
เรียน ประธานองคมนตรี
เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทุกหมู่เหล่า รวมทั้งสาธารณชนทั่วไปแล้วว่า การอดอาหารของ นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) นานนับเป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้วนั้น มิได้เป็นเพียงวิกฤติต่อชีวิตของบุคคลทั้งสอง แต่ยังเป็นเหตุการณ์ที่กระทบต่อสภาพและความเป็นไปของสังคมโดยรวมอีกด้วย
ในช่วงเวลาอันคับขันนี้ย่อมมิใช่เป็นโอกาสที่เหมาะสมในการอภิปรายถกเถียงกันถึง ความเหมาะสมของวิธีการประท้วง หรือ ความถูกผิดตามกฎหมายของบุคคลทั้งสอง แต่ความสำคัญสูงสุดในกาละนี้อยู่ที่การรักษาชีวิตเป็นปฐม
เราผู้มีรายนามท้ายนี้จึงใคร่ขอให้ท่านในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันหลักของชาติได้พิจารณาหาวิถีทางในการยุติวิกฤติต่อชีวิตของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) อย่างเร่งด่วนและมีมนุษยธรรม เพราะไม่แล้วอาจส่งผลไปสู่การทวีความร้อนแรงของความขัดแย้งในสังคมที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องกว่าทศวรรษแล้วอีกด้วย
จึงเรียนมาด้วยความเคารพและด้วยความหวังในบทบาทของท่านและคณะองคมนตรีทั้งคณะในการแก้ปัญหาวิกฤตครั้งนี้
ขอแสดงความนับถือ
อ่านรายชื่อผู้ลงนามได้ที่นี่
WAY
13h
[NEWS]
แถลงการณ์ของกลุ่มภาคีนิติธรรมพลเมือง มีเนื้อหาดังต่อไปนี้
“นับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ‘ตะวัน’ และ อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ ‘แบม’ สองนักกิจกรรมรุ่นใหม่ได้ยื่นขอเพิกถอนประกันตัวเอง และประกาศ ‘อดอาหารและอดน้ำ’ ในอีก 3 วันถัดมา เพื่อเรียกร้องต่อรัฐ ศาลและกระบวนการยุติธรรม ให้คุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งการแสดงออกทางการเมือง อันเป็นไปตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2491 และหลักสิทธิเสรีภาพพลเมืองในรัฐธรรมนูญ 2560 และยังเรียกร้องต่อพรรคการเมืองให้แสดงบทบาทและมีนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนนั้น
บัดนี้อาการของเธอทั้งสองกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต จากการขาดอาหารและน้ำอย่างรุนแรง และทุกนาทีที่ผ่านพ้นไปอาจหมายถึงชีวิต...และน่าเป็นห่วงว่าอาจมีเยาวชนอีกหลายคนที่กำลังตัดสินใจแสดงออกเช่นเดียวกัน การเพิกเฉยละเลยต่อเสียงของประชาชนนี้ จะนำไปสู่โศกนาฏกรรมของสังคมไทย ทั้งๆ ที่การเคลื่อนไหวและข้อเรียกร้องของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ได้แสดงถึงเจตจำนงที่อยากเห็นสังคมไทยมีความเป็นธรรม เป็นสังคมที่น่าอยู่สำหรับคนทุกคนในปัจจุบัน และคนรุ่นพวกเขาที่จะเติบใหญ่ในวันข้างหน้า
การจับกุมคุมขังพวกเขาโดยละเลยสิทธิในการให้ประกันตัว และ/หรือการลงโทษผู้มีความผิดในคดีทางการเมืองอย่างรุนแรงเยี่ยงอาชญากรนั้น เป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายฉบับ และที่สำคัญเป็นการทำลายอนาคตของลูกหลานเราเอง ทำลายความเป็นพลเมืองของคนรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายอันดีงามต่อประเทศชาติ
ขอให้ศาล กระบวนการยุติธรรม กลไกของรัฐ และสถาบันที่เกี่ยวข้อง ไม่เพียงแต่เคารพสิทธิมนุษยชนและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง โดยการพิจารณาให้การประกันตัวจำเลยในคดีทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจำนวน 16 คน เท่านั้น แต่โปรดเห็นแก่ชีวิตของลูกหลานเหล่านี้ อย่าได้ผลักไสพวกเขาและเธอซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ ออกไปจากการมีส่วนร่วมทางการเมือง อย่าได้ทำลายพลังของพลเมืองรุ่นใหม่เหล่านี้ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสังคมไทยให้เป็นอารยะอย่างที่ผู้ใหญ่อย่างพวกเราปรารถนา
บัดนี้เราได้ยินเสียงและรับรู้ข้อเรียกร้องของแบมและตะวัน และเชื่อแน่ว่าการแสดงออกอย่างกล้าหาญด้วยสันติวิธีของเธอจะปลุกมโนธรรมสำนึกของพวกเราอีกหลายคนให้ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิมนุษยชน และคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เฉกเช่นที่เธอและคนหนุ่มสาวได้แสดงให้เห็นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เราขอแสดงความเคารพต่อการตัดสินใจและการยืนหยัดต่อสู้อย่างกล้าหาญของพวกเธอและมิตรสหาย และหวังอย่างยิ่งว่าพวกเราทั้งหลายจะได้รับเกียรติและมีโอกาสได้ร่วมต่อสู้กับเธอทั้งสอง เพื่อให้ได้มาซึ่งสังคมไทยที่เคารพต่อคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกทางการเมือง โดยวิถีประชาธิปไตย ที่เราต่างยึดถือนั้นร่วมกัน
วันที่ 31 มกราคม 2566”
อ่านรายชื่อผู้ลงนามได้ที่นี่