เอ้า ผู้ว่าฯ เขายอมรับแล้วนะว่า “น้ำล้นคลอง กรุงเทพฯ หลายแห่ง เป็นข้อจำกัดจริงๆ” ถึงได้ทำให้น้ำท่วมกรุงขนานใหญ่ และระบายได้ช้ากว่าเมื่อตอนฝนไม่หนักเท่านี้ การแก้ไข “อาจต้องใช้ระยะเวลา” @Pat_ThaiPBS
ส่วนเรื่องก่อนหน้า ที่มีบางส่วนบางตัวตำหนิ เรื่องเป็นผู้ว่าราชการ ทำไมต้องลงพื้นที่แล้วมีไล้ฟ์สดทุกวัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ตอบอีกเหมือนกัน ว่า “ไม่ได้ลงไปบัญชาการเหตุการณ์นะ แต่ลงไปดูปัญหา สุดท้าย งบประมาณทั้งหลายจะต้องสอดคล้องกับปัญหา”
ข้อสำคัญไม่ใช่ลงไปเที่ยวจับผิดพวก ผอ.เขต “แต่ลงไปเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้” แต่ปัญหาจริงๆ อาจลึกและไกลกว่าที่ผู้ว่าฯ และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่คิด เรื่องอย่างนี้บางทีมันมีซ่อนเงื่อนงำ จนกว่าจะรู้ผู้บริหารอาจถูกเด้งไปแล้ว เหมือนปี ๕๔
แต่ หากเงี่ยฟังคนเคยช่วยบริหารจัดการน้ำท่วมใหญ่ปี ๕๔ จะพอรู้ได้ว่าไม่เหมือนกัน ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขียนเฟชบุ๊คเตือนทุกฝ่ายอย่าได้ ‘วิตกจริต’ เรื่อง “น้ำท่วมวันนี้ใครทำ”
เขาอ้างความรอบรู้ของผู้เชี่ยวชาญนาม ดร. อภิชาติ อนุกูลอำไพ “ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาเรื่องน้ำของผม และก็เคยเป็นที่ปรึกษาในรัฐบาลก่อนๆ มาแล้ว” ว่าไม่ใช่การซ้ำรอยปี ๕๔ ที่ครั้งนั้นรัฐบาลสั่งเก็บน้ำไว้ในเขื่อนมากเกินไปก่อนช่วงที่ฝนตกหนัก
จนทำให้ “ในเขื่อนใหญ่มีน้ำอยู่ถึง ๘๐%” ครั้นพอฝนกระหน่ำหลายห่าในเดือนกันยา ๕๔ รัฐบาลใหม่ตอนนั้น “ซึ่งเพิ่งทำหน้าที่ จึงต้องยอมให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตปล่อยน้ำส่วนเกินออกจากเขื่อน” นี่แหละคือความต่างกับปัจจุบัน
ซึ่ง “น้ำในเขื่อนมีเพียง ๕๐% เลยไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลและคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติจึงต้องเร่งระบายน้ำลงมา โดยเฉพาะจากเขื่อนป่าสักจนท่วมทุ่งรังสิต และบ้านเรือนแถวดอนเมือง” ทั้งๆ ที่ยังไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง
“ช่วงนี้มีแต่ฝนเท่านั้น ไม่ได้มีน้ำมากมายไหลลงมาจากทางเหนือ แต่รัฐบาลกลับนำน้ำมาท่วมเสียเอง” ปลอดประสพจึงถามว่า “ใครเป็นคนสั่งให้ระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักและน้ำจากแม่น้ำนครนายก มาลงทุ่งรังสิต มีจุดหมายทางการเมืองอะไรหรือไม่”
ไม่เท่านั้น มีการสั่งย้ายเครื่องสูบน้ำออกไปจากเขื่อนที่คลองรังสิตถึง ๑๐ เครื่องด้วย เอาไปไหน “มีความจูงใจทางการเมืองหรือเปล่า” เสริมนิดว่าเหตุเกิดช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ผู้บริหารคนใหม่เข้าจับงาน จะเหมือนปี ๕๔ ก็ตรงนี้แหละ
อย่างไรก็ดี ดร.ปลอดประสพ เขียนอธิบายถึงความไม่ลงตัวในการบริหารจัดการน้ำท่วมปีนี้อีกบางอย่าง เช่น คูคลองที่ใช้ระบายน้ำเป็นหลัก มันแคบลงในปีนี้ เพราะมีการ “ถมตลิ่งทำเขื่อนและก่อสร้างอาคารริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรให้กับผู้บุกรุก”
ไม่เข้าใจทำไมเรียกว่า ‘Mission Impossible’ ก็คงเป็นส่วนหนึ่งของการ “ต่างคนต่างทำ...กรมทางหลวงชนบทก็ยกถนนให้สูงพ้นน้ำ ขณะที่กรมโยธาธิการก็ทำเขื่อนกั้นน้ำ ฝ่ายทหารก็ขุดลำน้ำแล้วก็เอาดินไปกองไว้ข้างๆ” ทำให้ดินไหลกลับลงใหม่อีก
ทั้งหมดนี่ปลอดประสพบอกเป็นเรื่อง ‘ล้มเหลว’ ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางและ กทม. “ไม่ใช่น้ำท่วมโดยธรรมชาติแต่อย่างใด” ที่ผู้ว่าฯ ปทุมธานี อดีตผู้ว่าฯ หมูป่า ผู้เคยโด่งดังเรื่องจัดการนำเด็ก ๑๓ คนออกจากถ้ำนางนอน “ก็ประกาศยอมรับแล้ว”