นโยบาย ‘กองทุนพัฒนาชุมชน’ ละ ๒ แสนบาท ที่มีทั้ง สก.พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลประชาสัมพันธ์ในนามของตน เป็นนโยบายแหลมคมและตอบโจทย์การพัฒนาชุมชนได้อย่างเหมาะเจาะ โดยเฉพาะกับสภาพน้ำเน่าของการบริหาร กทม.ที่ผ่านมาหลายสมัย
น่าเสียใจที่นโยบายเช่นนี้กลายเป็นประเด็นฟัดเหวี่ยงระหว่าง ‘นางแบก’ และ ‘ติ่งส้ม’ ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา (อย่างน้อยๆ บนหน้าทวิตเตอร์) ที่อาจไม่ขยายขอบข่ายลุกลามไปเป็นหนอนบ่อนไส้ ต่อกระบวนการไม่เอาสืบทอดอำนาจรัฐประหาร คสช.
ตราบเท่าที่ รุ่นใหญ่ ในแต่ละพรรคไม่ไปช่วยลงแขกกับเขาด้วย เพราะการที่มีสองพรรคหลักในฝ่ายค้าน ‘ระบอบประยุทธ์’ ต่างออกตัวกันอย่างเต็มที่ เสริมนโยบายของผู้ว่า กทม.คนที่มาจากการเลือกตั้งแลนด์สไล้ด์ได้อย่างดี
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ออกนโยบายหยุดระบบอุปถัมภ์ใน กทม.ด้วยการเพิ่มงบประมาณชุมชน ปีละ ๕ แสน ถึง ๑ ล้านบาท แล้วยังจะมีการจัดงบประมาณเกื้อหนุนแต่ละเขตอีก ปีละ ๕๐ ล้านบาท ให้กรุงเทพมหานครปีละ ๑๐๐ ล้านบาทด้วย
งบประมาณเหล่านั้นทีมงานผู้ว่าฯ บอกว่า จะให้คนในชุมชนและชาวกรุงเทพฯ ตัดสินใจเลือกกันเองว่า “จะนำงบประมาณก้อนนี้ไปจัดสรรพัฒนาอะไร” อย่างไร “ไม่ต้องไปร้องขอและใช้เส้นสาย ในการดึงงบประมาณเหมือนเช่นที่ผ่านมา”
“ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ นโยบาย ‘กองทุนพัฒนาชุมชน ๒๐๐,๐๐๐ บาท’ จะมีผลบังคับใช้ โดยแต่ละเขตที่ได้ขึ้นลงทะเบียนชุมชนกับ กทม.และผ่านเกณฑ์การคัดเลือก ๒,๐๑๖ ชุมชน จากทั้งหมด ๔,๐๐๐ ชุมชน จะสามารถนำงบประมาณ” นี้ไปพัฒนาพื้นที่เขตของตนได้เลย
วิโรจน์ ลักขณาอดิสร อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงเทพฯ และเป็นผู้ประสานงานในหมู่ สก.พรรคก้าวไกลอยู่ขณะนี้ ทวี้ตไว้เมื่อ ๒๑ กันยาว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกยินดีมากๆ ก็คือการที่ได้ใช้กลไกของสภา กทม.สนับสนุนผู้ว่าชัชชาติในการกระจายงบประมาณให้กับชุมชน”
เขาว่านั่นเป็นการ “สอดคล้องกับนโยบาย ‘งบที่คน กทม. เลือกเองได้’ ซึ่งเป็น ๑ ใน ๑๒ นโยบาย ‘สร้างเมืองที่คนเท่ากัน’ ของพรรคเขา ชาว กทม.ไม่ว่าติ่งไหน น่าจะพอใจกับการร่วมมือนี้ เมื่อประโยชน์ที่จะได้กับชาว กทม.ทั้งมวล เป็นไปไม่ได้ในยุคผู้ว่า ‘ตู่ตั้ง’
แต่ “พี่วิโรจน์ ถูก #นางแบกเพื่อไทย รุมโควทคุกคามในแง่ลบ กล่าวหาว่าเคลมนโยบาย สก.เพื่อไทยครับ” @oonginlavender แสดงปฏิกิริยา @Win_Chwnvt อีกคนพยายามอธิบายว่านี่คือ “Participatory Budgeting
มันเป็นนโยบายของทั้ง #ก้าวไกล ทั้ง #เพื่อไทย แถมสภา กทม.” เป็นการทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานของ ส.ก.จาก ‘ทุกพรรค’ หลักการ “งบประมาณแบบมีส่วนร่วม หรือเรียกง่ายๆ ว่างบชุมชน” ดังกล่าวของทั้งสองพรรค “แทบจะเหมือนกันเลย”
มันเป็นไปได้และกำลังเป็นอยู่อย่างดีแล้ว ปล่อยให้พวกเขาขับเคลื่อนต่อไปด้วยกันเรื่อยๆ ดีกว่าเล่นกีฬา ‘ไก่จิกกันในเข่ง’ จะเกิดประโยชน์กับการพัฒนาสังคมประชาธิปไตยที่เราฝันใฝ่ได้ดีกว่า Pie @Pitchaya79 รายนี้ทวี้ตไว้เมื่อ Sep 22 อยากให้ดู
“ความจริงคำผกาก็เป็นเพียงคนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและเป็นพิธีกรใน voice เท่านั้น คำผกาจะพูดอะไรบ้ง ก็ไม่แปลก เพราะคำผกาไม่ใช่...สู้กว่าใคร คนเลือกพรรค พท. ก็ไม่ได้โฟกัสที่คำผกา” แล้วใยพวกสายบังคับบัญชา ที่ปรึกษา จะต้องคันไม้ คันมือ คันปาก
V Nus @meVnus (รายนี้หนักอยู่) ว่า “พรรคแดงเสนอประเด็นผ้าอนามัยฟรี จัดนิทรรศการ ขณะที่ช่อเคยเสนอตั้งแต่ ลต.๖๒ ติ่งส้มก็ไม่ว่าพรรคแดงลอกใคร มีแต่ชื่นชมพรรคแดง วุฒิภาวะกองเชียร์แต่ละพรรคช่างต่างกัน” (ฟังไว้หน่อย เพื่อรู้ใครเป็นไง)
(https://siamrath.co.th/n/378057 และ https://news.thaipbs.or.th/content/314020)