วันอาทิตย์, กันยายน 25, 2565

“ไม่เคยเห็นประเทศไหนปิดน่านฟ้าใกล้สนามบินเพื่อฝึกซ้อมทางทหาร” แต่นี่ “คือวิธีกดขี่อย่างฟาสซิสต์”

ส.ส.บางคนเรียกสังกัดรัฐมนตรีคนนี้ว่า อีดี ไม่ใช่ ดีอี (เอส) คือแทนที่จะก้าวหน้าทันสมัยอย่างดิจิทัล ดันมีจิตสำนึกเยี่ยงทาสเผด็จการ พูดได้ไม่ระคายปากว่า “ไม่พอใจรัฐบาล ให้ใจเย็นๆ ไว้...ถ้าเคลื่อนไหวมากๆ ระวังจะไม่ได้เลือกตั้งนะ”

ดูคลิปแล้วก็สมเพชความไร้ไขสันหลังทางประชาธิปไตยของรัฐมนตรี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ไม่เท่านั้นคนผมยาวที่ยืนอยู่ข้างหลัง ฟัง รมว.พูดแล้วคล้อยตาม ผงกหัวหงึกๆ คนเหล่านี้ไม่ได้คิดสักนิดว่า เป็นการพูดให้เกิดความหวาดกลัวต่ออำนาจทหาร

ในทางปฏิบัติที่เป็นอยู่ คือวิธีกดขี่อย่างฟาสซิสต์ แม้จะพยายามโป้ปดตลอดสามปีที่ผ่านมาว่า อยู่ในแนวทางประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงได้อ้างชื่อต่อท้ายเยิ่นเย้อว่า “อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”

ทั้งหลายเหล่านี้เรียกสั้นๆ ได้ว่า ระบอบทหารโดยคณะทหารและฝ่ายทหารมักประพฤติตามลัทธิอำนาจนิยม ด้วยวิธีเผด็จการอยู่เสมอ ล่าสุดในการกระทำของกองทัพอากาศ ซึ่งมีเขตอำนาจพิเศษของตนอยู่ติดกับสนามบินดอนเมือง

ภายในเขตอำนาจดังกล่าวยังมีส่วนสงวนและต้องห้ามอันจัดให้เป็นเขตพระราชฐาน และย่านที่พักของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพระที่นั่งจำนวนหนึ่ง ขณะที่สนามบินดอนเมืองเปิดเป็นสนามบินพาณิชย์ ทำธุรกิจเก็บค่าธรรมเนียมจากสายการบินต่างๆ

แต่บ่อยครั้งบางคราว กองทัพอากาศใช้อำนาจเหนือพื้นที่สนามบินดอนเมือง ประหนึ่งเป็นเขตค่ายส่วนตน ดังเหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน มีการ ขอปิดน่านฟ้าชั่วคราว และ งดการขึ้นลงของเครื่องบินพาณิชย์ เป็นเวลานานเกินครึ่งชั่วโมงต่อเที่ยวบิน

ทอ.อ้างว่ามีการฝึกซ้อมการบินของกองทัพอากาศ ต้องปิดน่านฟ้าไม่ให้เครื่องบินพาณิชย์ใช้ เที่ยวบินต่างๆ ในวันนั้น ๒๙ เที่ยวบิน ต้องล่าช้ารายละครึ่งชั่วโมงถึง ๑ ช.ม. การปิดน่านฟ้าเช่นนี้ยังจะมีอีกสองรอบ คือในวันที่ ๒๗ และ ๓๐ กันยา

เครื่องบินพาณิชย์ที่ใช้สนามบินดอนเมืองวันละ ๓๐๐ เที่ยว (เสาร์-อาทิตย์ ๓๕๐ เที่ยว) ได้รับผลกระทบกันไประนาว โดยเที่ยวบินที่จะขึ้นจากดอนเมืองในช่วงเวลาปิดน่านฟ้า (กำหนดว่า บ่ายโมง ๔๕ นาฑี ถึงสองโมง ๔๕ นาฑี) ต้องเลื่อนเวลาบินขึ้นออกไปอย่างน้อย ๓๐ นาฑี

ทำนองเดียวกับเที่ยวบินที่มีกำหนดบินถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในวันเวลาดังกล่าว จะต้องเลื่อนเวลาบินขึ้นจากสนามบินต้นทาง ๓๐-๖๐ นาฑี ซึ่งสายการบินต่างๆ รับทราบล่วงหน้าเพื่อปฏิบัติตรงตามมาตรการนี้แล้ว จึงยังไม่ปรากฏเสียงบ่นออกมา

เว้นแต่ Puangthong Pawakapan @PuangthongPa นักวิชาการที่รณรงค์เพื่อความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ในประเทศไทย มานับเป็นสิบๆ ปี เอ่ยถึงกำหนดการฝึกซ้อมของกองทัพอากาศนี้ว่า “ใหญ่เหลือเกิน...

ไม่เคยเห็นประเทศไหนปิดน่านฟ้าใกล้สนามบินเพื่อฝึกซ้อมทางทหาร” อย่างนี้ “ทำไมไม่ไปซ้อมนอกเขตการบินพาณิชย์” ทำยังกับว่าอยู่ในระหว่างการยึดอำนาจ

(https://mgronline.com/business/detail/9650000091679?fbclid=IwAR และ https://tna.mcot.net/politics-1024532?fbclid=IwAR16)