ประชุมสภาตรวจสอบรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา ๑๕๒ วันแรก ประยุทธ์ขึ้นโพเดี้ยมปราศรัยหาเสียงอย่างเมามัน จน ส.ส.‘มิ้นต์’ สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา บอกทนฟังในห้องประชุมใหญ่ไม่ไหว หลบไปดูผ่านจอในห้องทำงาน เปิดเสียงเบาๆ
“ไม่เข้าใจว่าจะโมโหทำไม พูดจากระโชกโฮกฮาก ไร้มารยาท ไม่เคยยอมรับผิด ไม่มีสำนึก ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ” โฆษกพรรคก้าวไกลระบายบรรยากาศที่ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ รายงาน “ตู่ตวาดสภาลั่น”
หลังจากที่นั่งฟังผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายเปิดญัตติว่านายกฯ บริหารประเทศล้มเหลว ผิดพลาดทุกด้าน “ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก...เพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก”
จากที่ศิโรตม์เล่า ตู่ “โต้เดือด (เรื่องที่) ฝ่ายค้านชี้เศรษฐกิจพัง ธุรกิจเจ๊ง คนล้มละลาย ไล่ไปดูประเทศอื่นบ้าง” แล้วจับเอาเฉพาะประเด็นที่หมอชลน่าน ศรีแก้ว บอกว่าใช้ลูกไม้เอาปัญหาการระบาดของโควิด ‘ออมิครอน’ มาบังหน้าเพื่อเอาตัวรอด
ประยุทธ์โต้ข้างๆ คูๆ “รัฐบาลไม่ได้เป็นคนนำเข้าโควิด” นะ ทั้ง “อ้างคนไทยได้วัคซีนเร็ว ยันประเทศไทยฟื้นตัวจากโควิดเป็นอันดับ ๒ ของโลก เป็นอันดับ ๑ ของเอเชีย” เลยโดนชาวเน็ตจับผิด ว่านั่นมันข้อมูลเก่า จะสองปีผ่านมาแล้ว
นับจากกลางมิถุนา ๖๓ เวลานี้เป็นไวรัสกลายพันธุ์คนละตัว สภาพการณ์ก็ต่างกัน ขนาดตอนนั้นไม่มีวัคซีนมากเท่า ตอนนี้ก็ยังมีการติดเชื้อเพิ่มพอๆ กัน วันละเกินสองหมื่น (รวม ‘เอทีเค’) จำนวนตายเกินยี่สิบมาหลายวันแล้ว ซ้ำปัญหาฝุ่นละอองพิษกลับมาใหม่
วันนี้พบฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน หรือ ‘พีเอ็ม ๒.๕’ “เกินมาตรฐาน (๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ถึง ๔๕ พื้นที่ใน กทม. และสูงประมาณ ๗๐ หรือมากกว่าถึง ๑๐ พื้นที่ เช่น ซีคอนสแควร์ ใต้สะพานพระเจ้าตากสิน และสำนักงานเขตดุสิต เป็นต้น
หนำซ้ำ เกี่ยวกับโควิดในไทยนี่ ท่ามกลางสภาพ ‘แพงจนพัง’ ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยบรรยาย มีเกล็ดข่าวชวนให้คิด เมื่อประธานบริษัทธนบุรีเฮ้ลธ์แคร์เปิดเผยว่า ช่วงสองปีในสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา บริษัททำรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ ๕๐%
“ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตที่ ๑,๓๓๗ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๒,๐๕๖.๕% จากปี ๒๕๖๓ ที่ทำได้ ๖๒ ล้านบาท” นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ แจงว่าเป็นผลจากการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจมาให้บริการรักษาโรคโควิดเป็นหลักใหญ่ หลังจากที่แรกๆ สูญเสียคนไข้ปกติจากต่างประเทศไปมาก
สิ่งที่ประยุทธ์พูดเป็นต่อยหอยมีแต่น้ำๆ
ท่วมทุ่ง “สังคมไทยอ่อนไหว-แตกแยก แนะเอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
มายึดเหนี่ยวให้สังคมเข้มแข็ง พร้อมต่อสู้กับทุกปัญหา” แล้ววกไปโทษฝ่ายค้าน “ต้องช่วยกันด้วย
หากสังคมไม่เข้มแข็ง ก็ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย” เออ นายแน่มาก อภิปรายฝ่ายค้านเสียนี่ ทำให้ บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย ของขึ้น “มึงหลอนปะอีตู่...บอกให้ฝ่ายค้านแก้ปัญหาจราจรให้หน่อย...เอาดีๆ ทำไม่ได้ก็ลาออกไหม”
ดนัย ‘หมาแก่’ เอกมหาสวัสดิ์ ถึงได้พูดในรายการ ‘เจาะลึกทั่วไป’ ว่ามีพลายกระซิบ “นายกฯ แก้เกมเป็นวันวันไป จึงออกปากบอกเสี่ยหนูช่วยกันหน่อยนะ ทางเลือกมีไม่เยอะ...ถ้ายุบสภาตีนก็ลอย ถ้ากลับไปยึดพลังประชารัฐแล้วจะให้พี่ชายไปอยู่ไหน”
ดังนั้น ไปพูดที่สภาวันนี้ ตู่ พล่ามจบแล้วทิ้งท้ายเรื่องไม่เป็นเรื่อง แขวะฝ่ายค้าน “ดูละครแล้ว อย่าลืมย้อนดูตัวเองด้วย...ประเทศชาติไม่ใช่ ‘รามเกียรติ์’ แต่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าทศกัณฐ์เป็นยังไงในตอนสุดท้าย” โค้งแล้วก็สะบัดก้นเดินออกไป
ไม่ยอมฟังผู้อภิปรายคนต่อไป ซึ่งก็คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส มีดาวทวิตภพบางคนเปรยว่า อยากดูการอภิปรายต่อวันพรุ่งนี้ เมื่อ ธรรมนัส พรหมเผ่า ขึ้นพูดบ้าง สิว่าประยุทธ์จะทำหน้า ออกอาการท่าไหน
(https://www.facebook.com/insidethailand/videos/3561421277417982/, https://www.posttoday.com/finance-stock/stock/675854, https://thestandard.co/bkk-detected-dust-value-pm2-5-exceeds-standard/ และ https://www.khaosod.co.th/politics/news_6893529)