บางสิ่งที่ทักษิณ ชินวัตร พูดไว้ในรายการคลับเฮ้าส์ของกลุ่มแคร์เมื่อวาน น่าจะทำให้พวกติ่งๆ พักการเล่นแสงกันไปเสียบ้าง เมื่อเขาบอกว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปประชุมร่วมกับรัฐบาลแล้วรับ ‘วัคซีน’ คนละ ๒ แสนต่อเดือนนั่นเชียว
ขอเอาความเห็นบนทวิตเตอร์ ที่ว่าส่วนตัวของ ‘ประวัติศาสตร์แนวเอียง’ มาทำซ้ำ “การที่โทนี่ออกมาพูดแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการดักทางไว้ตั้งแต่แรก แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของพรรค(ในระยะสั้น) แต่จะดีในระยะยาว
เพราะพรรค พท.จะได้ปรับตัวให้เป็นพรรคที่มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น” นี่เป็นการ ‘แบก’ ในทางบวก ที่ควรจะมาแทนการแซะกันไปเซาะกันมา ตั้งนานแล้ว แม้นว่าบางราย เช่น @JesTaksino จับภาษาเสียงคุณโทนี่ได้อย่างมีนัยว่า “mention ‘น้องอิ๊ง’ บ่อยมาก”
เหมือนกับที่เคยเม็นชั่นเรื่องแลนด์สไล้ด์เสียจนติ่งๆ เก็บเอาไปโพนทะนาให้เฝือ หนำซ้ำทำให้ความเป็นไปไม่ได้เข้มข้น เมื่อการโต้วาทีในฟากเดียวกันแรงขึ้น แรงขึ้น ถึงขั้นมีคำถามผุดมาว่าจริงไหม “ก้าวไกลรวมหัวประชาธิปัตย์โค่นเพื่อไทย”
ท่ามกลางเสียงก่นจากติ่งเพื่อไทยโจมตี สมศักดิ์ เจียมฯ เสียขนานใหญ่ เรื่องที่ว่า สศจ.ให้ท้ายพวกเด็กสร้างบ้านที่คิด ‘ล้ม’ สถาบัน อันนี้ก็เป็นการสร้างภาพให้เสียหายด้วยวาทกรรม ‘ปฏิรูป=ล้มล้าง’ ประหนึ่งพวกนั้นคือศัตรูที่จะต้องกำจัด แบบ ‘เหรียญทอง’ ต้องการ
น่าจะมีอยู่บ้างที่รับได้ ให้มี ‘หัวหอก’ คอยฟัดกับฟากสืบทอดอำนาจเผด็จการอย่างถึงพริกถึงขิง เพื่อตนเองไม่ต้องทำอย่างนั้นให้เสีย ‘ฟอร์มสูง’ ซึ่งทักษิณประกาศไว้ในความจงรักภักดีต่อราชวังทั้งรัชกาลโน้นและรัชกาลนี้ ข้อกล่าวหาต่อเขามาจากพวก ‘demagogue’
แน่ละ ทักษิณมีจุดเขื่องเรื่องผิดพลาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง แล้วติ่งๆ มองข้ามไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นประเด็น โควิด ที่เขาเพิ่งแสดงความเห็นในฐานะคนเคยติดสองครา แล้วยังสุขภาพเข้มแข็งเต่งตึง แบบว่าชาวทวิตภพรายหนึ่งทักเรื่อง ‘โบท็อก’
หรือกรณีเปรียบเปรย ‘ลูกไล่’ ของผู้กุมอำนาจการเมืองเหมือนดั่งฝูงสุนัขเลี้ยง ๕๐ ตัวที่บ้านส่องหล้า “ตัวหนึ่งชื่อแม็กซ์ ชอบมากัดตลอด แล้วมีคนให้อาหารหมาคนหนึ่ง แม็กซ์มันก็ชอบมาเลียตีนประจบเขาเป็นพิเศษ” นี่คือความเป็น ‘แม้ว’
ซึ่งครั้งหนึ่ง ก่อนแตกแบ๊งค์พัน มีเสียงนินทาว่าเขาผลักไสนักการเมืองคุณภาพบางคนออกไปจาก ทรท. เพราะ “เลี้ยงไม่เชื่อง” ถึงคราวนี้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายโอบรับเลือดเก่าไหลกลับ เรื่องที่แล้วก็คงต้องแล้วกันไป มาดูกันว่าจะไปถึงแลนด์สไล้ด์แบบนารวมได้ไหม
สภาพการเมืองตอนนี้ดูเหมือนฝ่ายค้านจะแตกระแหงตามอย่างฝ่ายรัฐบาล สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ยังออกมาตำหนิการย้ายพรรคของฝ่ายค้าน คงไม่เฉพาะ ‘งูเห่า’ ก้าวไกลเท่านั้น แต่รวมถึง ‘ไก่ชน’ ของเพื่อไทยด้วยแหละ
ถึงอย่างนั้นถ้ามีจริง ไม่ว่า ‘หญิงหน่อย’ หรือ ‘โทนี่’ ก็เอาไม่อยู่หรอก ความเป็นไปได้อยู่ที่ “นักการเมืองและข้าราชการเละ” อย่างโทนี่ว่า “อาจมีผู้นำบางคนไฮแจ็คความเป็นนายกฯ ก็ได้” แล้วจะมีใครล่ะที่มีศักยภาพพอไฮแจ็คได้
ไม่บังเอิญความเละเทะของหน่วยงานรัฐ ก็ปรากฏตำตา เมื่อพวกราชบัณฑิตนั่งเหงาต้องหางานทำ “ประกาศเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเมืองหลวงของประเทศไทย จาก Bangkok เป็น Krung Thep Maha Nakhon โดยให้เก็บชื่อเดิมไว้ในวงเล็บ”
ยังดีที่ไม่ยกมาทั้งกระบิ แบบที่ อัสนี-วสันต์ เอาไปทำไว้เป็นเพลงร็อคครื้นเครง ฝรั่งชอบร้องคาโรอะเกะ แต่ชาวไทยด่ากันขรมทั่วทุกสเป็คตรัม ราชบัณฑิตสภาก็เลยแก้ไข ว่าให้ใช้ได้ทั้งแบบเก่า ‘แบ๊งคอก’ หรือยาวหน่อย ‘กรุงเทพมหานคร’ ก็ได้
ทว่า chamnan chanruang@chamnanxyz บอก ฮ้า บัณฑิตไม่รู้จริง จะอ้างกลับไปกลับมาตามอำเภอใจไม่ได้ “เมื่อ ครม.มีมติแล้วต้องไปทำประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐใช้ตามนั้น” ตานี้ค่าใช้จ่ายตามมามหาศาล
ดูจากโพสต์ของ Theerapat Charoensuk มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ต้องเปลี่ยนป้าย เครื่องหมาย บนเอกสารราชการ เพิ่มอักษรจั่วหัวจาก ๗ เป็น ๑๙ ตัว รวมช่องไฟอีก รวมหมด ๒๑ ช่อง กิน “พื้นที่กระดาษและหมึกที่จะต้องเสียเพิ่มเติม คือ ๓ เท่าตัว” วุ่นละสิ
ทำให้ อั้ม อิราวัต@Doctor_Um ทวี้ตกระตุกให้เข้ากับบรรยากาศพอดี “ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกครับ / ถ้าจะให้ดี ให้ทั่วโลกจดจำนับถือเรา ต้องเปลี่ยนชื่อนายกรัฐมนตรี จาก #Prayuth เป็น #Thaksin รับรองปังแน่นอน ทุกๆด้านในประเทศ”
(https://www.facebook.com/terasphere/posts/10158276634971809, https://www.facebook.com/workpointTODAY/posts/1846062242429712 และ https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162615513949848)