วันพฤหัสบดี, กันยายน 02, 2564

ที่นีั โยมตามสบายนะ ‘พระอานนท์’ สึกแล้ว ยันไม่รู้จัก ‘ผกก.โจ้’ ชี้ปมให้กำลังใจ ต้องการไปเตือนสติไม่ให้คิดสั้น



‘พระอานนท์’ สึกแล้ว ยันไม่รู้จัก ‘ผกก.โจ้’ ชี้ปมให้กำลังใจ ต้องการไปเตือนสติไม่ให้คิดสั้น

31 สิงหาคม 2564
มติชนออนไลน์

‘พระอานนท์’ สึกแล้วที่วัดไพรสณฑ์ศักดารามฯ หล่มสัก ยันไม่รู้จัก ‘ผกก.โจ้’ ชี้ปมให้กำลังใจ ต้องการไปเตือนสติไม่ให้คิดสั้น

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ความคืบหน้ากรณีพระอานนท์ ธมมโชโต ซึ่งไปให้กำลังใจและมอบอาหารให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผกก.โจ้” อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาร่วมกันทำร้ายผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ต่อมา วัดภัทรสิทธารามออกหนังสือคำสั่งให้พระอานนท์พ้นออกจากวัด เพราะประพฤติผิดทางโลกวัชระ จึงเป็นที่ติเตียนทั่วไป สำหรับพระอานนท์ ธมมโชโต สังกัดที่วัดไพรสณฑ์ศักดาราม อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

ล่าสุด วันนี้ที่วัดไพรสณฑ์ศักดาราม อ.หล่มสัก พระอานนท์ ธมมโชโต ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อมาทำการสึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี พระปริยัติพัชราพร เจ้าอาวาสวัดไพรสณฑ์ศักดาราม ทำการสึกให้ พร้อมด้วยพระภิกษุอีก 4 รูป โดยหลังเสร็จสิ้นการสึกแล้ว นายอานนท์ คนธาร์ หรืออดีตพระอานนท์ อายุ 62 ปี กล่าวว่า หลังจากนี้จะเดินทางกลับไปอยู่ที่ อ.วิเชียรบุรี

นายอานนท์กล่าวอีกว่า ไม่เคยรู้จักกับผู้กำกับโจ้มาก่อน แต่รู้ว่าเป็นผู้กำกับที่ สภ.เมือง นครสวรรค์ ไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยรู้จักกัน ส่วนเรื่องที่ออกไปให้กำลังใจเพราะมองว่า คนที่เคยรับราชการและเป็นเจ้านายคน และเคยมียศถาบรรดาศักดิ์ เมื่อชีวิตเป็นอย่างนี้ก็กลัวแกจะเกิดความน้อยอกน้อยใจ กลัวเกิดความกดดันและความเครียดที่ไปต้องขัง โดยผู้กำกับโจ้ก็พูดเองว่าจะฆ่าตัวตาย ก็กลัวแกจะลืมสติคิดน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต เพราะทำงานเป็นตำรวจมาก็นานแล้ว ความดีและความชั่วก็ต้องมีบ้าง คนเราไม่ได้มีความดีความชั่วกันทั้งหมด เราก็เลยนึกสงสารถ้าเป็นพระไปขอชีวิตไว้ ชีวิตมีค่าอย่าคิดฆ่าตัวตาย มีโอกาสติดคุกตลอดชีวิตหรือประหารก็ช่างมัน หากฆ่าตัวตายจะเป็นบาปมาก พระพุทธเจ้าก็ห้าม ในศีล 5 ข้อก็ห้าม อันนี้คือความคิดถึง ได้ตัดสินใจไปไม่มีอะไรแอบแฝงเลย

“ก็รู้อยู่ว่าไม่เหมาะสมแต่ก็ต้องตัดอกตัดใจไปเพราะว่าอยากจะไปให้แกได้มีความคิด หรือมีสติสักนิดว่าพระก็ยังมาบอกมาขออย่างนี้ ความคิดของฉันไม่ได้อยากเด่นอยากดัง หรืออยากจะไปการเมืองอะไรหรอก ทีนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ฉันก็ตอบไปอย่างนั้นแหละ เมื่อถามมาก็ตอบส่งเดชไปไม่ได้มีเจตนาอะไร” นายอานนท์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ยังยืนยันจะให้กำลังใจผู้กำกับโจ้ต่อไปหรือไม่ นายอานนท์กล่าวว่า ก็ยืนยันให้สู้ชีวิตต่อไป ไม่ว่าจะติดคุกตลอดชีวิตหรือถูกประหารชีวิต ก็เอาเป็นว่าลมหายใจเฮือกสุดท้ายอย่าไปทำตัวเองเท่านั้นก็พอขอแค่นั้น เพราะว่ามันมีเกิดแก่เจ็บตายอยู่ ถ้าฆ่าคนอื่นตายจะไม่ได้เกิด ถ้าติดคุกก็ทำบุญได้ มีเงินมีทรัพย์สมบัติตั้งเยอะแยะ เอามาบริจาคสาธารณกุศล บริจาควัดให้มูลนิธิก็ได้ เงินมีเป็นตั้งร้อยๆ ล้านถวายสัก 10-20 ล้านก็ได้ เพื่อลบล้างความผิดที่ได้กระทำลงไป

อดีตพระอานนท์กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องกระบวนการยุติธรรมผิดก็คือผิด ส่วนเรื่องสึกของตนนั้นก็ไม่มีใครบังคับ ตนตัดสินใจเอง ซึ่งหลังทำการสึกแล้วจะเดินทางกลับไปอยู่ที่อำเภอวิเชียรบุรี