วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 06, 2564

คิดที่จะย้ายไปเยอรมัน อ่านโพสต์นี้ก่อน "รวมข้อเสียของการย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน" ถ้ายังอยากย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน อ่าน"คุณต้องทำอย่างไร?"



พ่อบ้านเยอรมัน
Yesterday at 11:15 AM ·

"รวมข้อเสียของการย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน"
นี่คือข้อเสียเท่าที่พ่อบ้านคิดออกและรวบรวมมาให้ดูว่านี่น่าจะเป็นข้อเสียของเยอรมนี
ซึ่งแน่นอนครับว่าที่เยอรมนีมีข้อดีมากมาย เช่นสวัสดิการที่ดีแก่ทุกเพศ ทุกวัย (โดยเฉพาะแม่และเด็ก) , โครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม, ระบบประกันสุขภาพและบำนาญที่เข้มแข็ง, ระบบการศึกษาที่ดีและได้คุณภาพ และอื่นๆ
"แต่เป็นธรรมดาที่ย่อมมีข้อเสียเช่นกัน "
ดังนั้นพ่อบ้านจะมาขอเขียนให้ในเบื้องต้นพร้อมกับมุมมองของพ่อบ้านในเรื่องนั้นๆ เพื่อเป็นการเตรียมตัวและทำใจก่อนที่จะมาเยือนหรือย้ายมาเรียนหรือทำงานครับ
1. เรื่องของภาษี
เรื่องของภาษีสำหรับเยอรมนีนั้นถือว่าเก็บอยู่สูงพอสมควรโดยเฉพาะคนโสดจะโดนเยอะเป็นพิเศษ ถ้าจำไม่ผิดสูงสุดที่ประมาณ 45%(มันมีรายละเอียดเยอะมาก)​ หากแต่ว่า ถ้าเกิดคุณมีครอบครัว และมีการบริหารภาษีที่ดีหรือมีที่ปรึกษาที่ดีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะถูกลดหย่อนไปพอสมควร
หรือกระทั่งมีบางคนสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีที่จ่ายไปได้ด้วยครับ
มุมมองของพ่อบ้าน: เป็นธรรมดาถ้าเราอยู่ในประเทศที่มีรูปแบบการบริหารด้วยรัฐสวัสดิการที่ต้องเสียภาษีเยอะอยู่แล้วครับ เราลองดูประเทศเพื่อนบ้านเช่นแถบสแกนดิเนเวีย, เน​เธอร์แลนด์​เค้าก็เสียกันไม่น้อยกว่าเราเลยครับ
หากแต่ว่ามันแลกมาด้วยสวัสดิการขั้นพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐานที่ดีแทนครับไม่อย่างนั้นประเทศย่อมไม่สามารถเดินหน้าได้ ซึ่งมันเป็นที่เค้าวางรากฐานเอาไว้เป็นร้อยๆ ปีครับ
2. สายชำระ
เป็นปัญหาปวดหัวของคนไทยและเอเชียหลายๆ คนในแง่ของความไม่สบายใจและไม่มั่นใจ เพราะที่นี่จะไม่มีสายชำระให้ ทั้งในโรงแรมและห้องน้ำสาธารณะ
มุมมองพ่อบ้าน: ยังดีที่กระดาษชำระของเยอรมันนี่ต้องยกนิ้วให้ในเรื่องความทนทานและความเหนียว
แต่สำหรับสายชำระเดี๋ยวนี้เริ่มมีพอมีขายบ้างแต่เราต้องติดตั้งเอาเองครับ หรือมีคนไทยบางคนติดตั้งเองเลยที่บ้าน!!
3. ระบบการแพทย์ที่แตกต่างจากประเทศไทย
ที่เยอรมันนั้นการที่คุณพบหมอเฉพาะทางอาจจะช้าซักนิดเพราะต้องทำนัดก่อน (ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน)​
และแน่นอนว่าการที่คุณมีเงินมากนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้คุณได้รับสิทธิพบแพทย์ไวขึ้นแต่อย่างใด หากแต่ว่าเป็นอาการป่วยของคุณเสียมากกว่าที่จะทำให้พบได้ไวขึ้น
และแน่นอนว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ที่นี่ในแง่ของการบริการเรียกได้ว่าการบริการสู้หลายๆ ประเทศไม่ได้ เพราะด้วยนิสัยพื้นฐานของคนเยอรมันที่มีมุมมองในการบริการแตกต่างจากที่อื่นอยู่แล้ว และด้วยมุมมองเค้ามองว่า บุคลากรทางการแพทย์ งานหลักนั้นไม่ใช่การบริการครับ
มุมมองของพ่อบ้าน: เรื่องช้าต้องยอมรับ แต่บางครั้งก็เร็ว เพราะมันต้องเป็นไปตามระบบ แต่ด้วยระบบประกันสุขภาพที่เข้มแข็งที่ครอบคลุมอาการเจ็บป่วยหนักๆ นั้นก็ช่วยแบ่งเบาภาระไปไม่น้อย
แต่สิ่งที่ดีอีกอย่างคือคือถ้าคุณป่วยหนัก หรือเกิดอุบัติฉุกเฉิน รถพยาบาล และการที่คุณจะได้พบแพทย์นั้นเรียกได้ว่าไวมาก และไวสุดๆ เลย
4. เยอรมันคือดินแดนแห่งประกัน
สิ่งที่ขาดไม่ได้และเป็นค่าใช้จ่ายหลักอย่างนึงของทุกคนที่นี่ก็คือเรื่องของประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ, ประกันการตกงาน, ประกันทางกฎหมายประกันนั่นนู่นและนี่ โดยมีทั้งในรูปแบบบังคับทำ และสมัครใจ
มุมมองของพ่อบ้าน: ถึงจะเป็นค่าใช้จ่ายและก็ถือว่าไม่น้อยเลย แต่ในแง่นึงมันคือความมั่นคงและความสบายใจ ในยามเราป่วยไข้, ในยามเรามีปัญหา, ในยามเราเกิดอุบัติเหตุ ที่จะช่วยลดความเสียหายแบะความเครียดให้เราได้เยอะมากๆ ครับ
5. เยอรมนีคือดินแดนแห่งเอกสาร
ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ตามที่เยอรมนี นั้นคุณต้องเก็บเอกสาร, หลักฐาน ไว้ทุกอย่างครับ และแน่นอนว่าการเปิดกิจการหรือแม้แต่เป็นฟรีแลนซ์ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเอกสารการจดทะเบียนบริษัท, ใบเสร็จค่าใช้จ่าย, หลักฐานการขำระภาษี และอื่นๆ
มุมมองของพ่อบ้าน: เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว แต่มองในแง่นึงมันก็ทำให้เรามีระเบียบขึ้น แต่มันก็ทำให้เรามีหลักฐานในทุกๆ อย่าง และในมุมมองของบริษัทนั้นมันก็ทำให้รัฐนั้นสามารถตรวจสอบและเก็บภาษีได้หมด ไม่ว่าจะทำกิจการในรูปแบบไหนก็ตาม
6. อากาศหนาว
สำหรับเยอรมนีนั้นถือว่าเป็นอีกประเทศที่มีหิมะและอากาศหนาว แต่ในหน้าร้อนก็สวยน่าดู ดังนั้นสำหรับคนไทยที่ยังไม่ชินนั้นอาจจะช็อกกับอากาศที่นี่ได้ เวลาเจออากาศติดลบหนักๆ
มุมมองของพ่อบ้าน: สำหรับคนที่ปรับตัวได้แล้วบาวบ้านมันก็เป็นเรื่องสนุก เพราะบางคนก็ถือโอกาสเที่ยวภูเขาหิมะ, เล่นสกี หรือทำกิจกรรมต่างๆ และที่สำคัญช่วงอากาศหนาวในตอนคริสต์มาส​ที่หลายๆ เมืองของเยอรมันนั้นสวยมากกกก
หรือบางคนเบื่อจริงๆ ก็ลาหยุดช่วงหน้าหนาวบินกลับไทยหรือไปเที่ยวประเทศร้อนๆ ก็มีเช่นกันครับ
7. ภาษาเยอรมัน
ภาษาเยอรมันนั้นถือว่ายากมั้ย? สำหรับมุมมองพ่อบ้านก็ถือว่ายากน่าดู และถ้าถามว่าจำเป็นมั้ย โดยส่วนตัวพ่อบ้านมองว่าถ้าคุณอยู่เมืองเล็กๆ นั้นจำเป็น แต่ถ้าคุณอยู่เมืองใหญ่ๆ นี่ภาษาอังกฤษก็ใช้ได้เลยสบายๆ แม้แต่ในการทำงานด้วยครับ
มุมมองของพ่อบ้าน: ภาษาเยอรมันนั้นไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน ก็ควรเรียนในเบื้องต้นมาก่อน หรือจะมาสานต่อที่นี่ก็ได้ครับ แต่ถ้าถามว่าควรลงทุนกับมันมั้ย?
เชื่อพ่อบ้านซิว่าการที่คุณได้ภาษาเพิ่ม มันคือการเปิดโลกใหม่เลย และแน่นอนว่าภาษาเยอรมันก็ถือว่าเป็นอีกภาษาที่มีมูลค่าและคุณค่าสูงไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับภาษาอื่นๆ ครับ
"ข้อเสียข้างต้นพ่อบ้านว่าถ้าคุณปรับตัวเข้ากับมันได้ การใช้ชีวิตที่นี่ก็น่าจะสบายและมีความสุขครับ"
"ในใครมีข้อเสียไหนที่เจอมาบ้าง มาเล่ามาแชร์มุมมองของคุณให้พ่อบ้านฟังเป็นประสบการณ์กันนะครับ"
#พ่อบ้านเยอรมัน #german #germany #เยอรมนี #เยอรมัน
.....


พ่อบ้านเยอรมัน
May 3 at 1:54 AM ·

อยากย้ายมาอยู่ที่เยอรมัน "คุณต้องทำอย่างไร?"
หลังไมค์แทบระเบิดมีคนถามมาเยอะมากในหัวข้อนี้ เลยต้องขออนุญาตนำข้อมูลมาปรับปรุงอีกครั้งเลยจะดีกว่า
สำหรับคำแนะนำที่สำคัญของพ่อบ้านก็คือ การที่จะย้ายไปอยู่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม
"การทำให้ถูกกฎหมายนั้นสำคัญที่สุด"
โดยวิธีการที่จะมาอยู่ที่เยอรมนีได้หลักๆ มีสามวิธีหลักๆจงจำให้ขึ้นใจก็คือ
"ติดตาม มาเรียน และมาทำงานครับ"
ซึ่งจริงๆ มันมีอีกบางข้อเช่นการลี้ภัย และการลงทุน โดยในส่วนของการลี้ภัยที่ทำได้ค่อนข้างยากมากและต้องศึกษาให้ละเอียดซึ่งพ่อบ้านเคยเขียนเอาไว้แล้วที่นี่
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1820182508134081&id=191168457702169
แต่ในที่นี้ขอโฟกัสที่ 3 ประเด็นนี้หลักๆ ก่อนนะครับ
โดยแต่ละวิธีนั้นก็จะมีแนวทางแตกต่างกันว่าแล้วพ่อบ้านจะเล่าให้ฟังในแต่ละประเด็นนะครับ
1. ติดตาม
สำหรับการติดตามนั้นจะมีการติดตามหลักๆ 2 อย่างก็คือ การติดตามด้วยสถานะเป็นคู่สมรสหรือคู่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกัน หรือ คนละเพศกันก็ได้ครับ โดยที่จะมีความแตกต่างในเรื่องของเอกสารนิดหน่อยเท่านั้นครับ
และสำหรับอีกการติดตามก็คือการที่เราติดตามบุตรที่ต้องยังไม่บรรลุนิติภาวะและมีสัญชาติเยอรมันครับ
โดยข้อดีของการขอวีซ่าชนิดนี้ได้ก็คือ จะสามารถทำงานได้ทันทีเมื่อมาถึงเยอรมัน และจะมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากภาครัฐในการสนับสนุน และรวมไปถึงจะสามารถขอสัญชาติได้ง่ายกว่าชนิดอื่นครับ
แต่ข้อเสียก็คือการเตรียมการเรื่องเอกสารนั้นจะยุ่งยากและจะมีค่าใช่จ่ายสูงโดยเฉพาะในเรื่องของการแปลเอกสารครับ
เคล็ดไม่ลับในการขอวีซ่าชนิดนี้
* เอกสารทุกอย่างต้องเป็นความจริง ถูกต้อง และตรวจสอบได้ครับ*
รายละเอียดของวีซ่าชนิดนี้
ติดตามคู่สมรส/คู่ชีวิต
https://bangkok.diplo.de/.../langzeit.../1376430
ติดตามบุตร
https://bangkok.diplo.de/.../langzeit.../1376430
2. มาเรียน
การที่คุณมาเรียนที่เยอรมนีนั้นก็เป็นอีกวิธีนึงที่นอกจากจะทำให้คุณได้รับความรู้และประสบการณ์ที่ดีแล้ว ที่เยอรมนียังเปิดกว้างให้คุณสามารถทำงานและหางานที่ตรงสายหรือใกล้เคียงกับที่คุณจบมาด้วย โดยให้ระยะเวลาหลังจบนานถึง 18 เดือนเลยทีเดียว
และถ้าเกิดคุณสามารถหางานได้ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นวีซ่าการทำงานและทำงานครบตามกำหนดก็จะสามารถยื่นขอวีซ่าถาวรและสัญชาติได้เช่นเดียวกันครับ
แต่สำหรับอีกกรณีก็คือวีซ่าเรียนภาษาโดยตามหลักการเท่าที่พ่อบ้านทราบนั้นเมื่อคุณเรียนจบจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นวีซ่าชนิดอื่นได้ครับ (อาจจะมีบางคนบอกว่าทำได้ แต่อันนี้ขอยึดข้อมูลตามหลักการไว้ก่อนนะครับ)
ข้อดีของวีซ่าชนิดนี้ก็คือ การที่คุณจะได้เปิดประสบการณ์การเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยของเยอรมันที่มีมาตรฐานสูงและได้รับการยอมรับ และนอกจากนี้คุณอาจจะได้รับโอกาสในทำงานกับบริษัทระดับโลกอีกด้วยครับ
ข้อเสียของวีซ่าชนิดนี้ก็คือ มีความเสี่ยงที่คุณอาจจะหางานไม่ได้หลังจบ เลยต้องกลับ และนอกจากนี้การเตรียมเอกสารและการเทียบวุฒิก็มีขั้นตอนในการสมัครและยุ่งยากไม่น้อยเลยครับ
เคล็ดไม่ลับของการขอวีซ่าชนิดนี้
* คุณต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ คำนวนเวลาให้ดีๆ ตั้งแต่สมัครเรียน สมัครวีซ่า และหางานตั้งแต่ก่อนจะจบได้ยิ่งดีครับ*
รายละเอียดของวีซ่าชนิดนี้
วีซ่าเพื่อการศึกษา
https://bangkok.diplo.de/.../vis.../langzeit-studium/1413070
วีซ่าเพื่อเรียนภาษา
https://bangkok.diplo.de/.../langzeit-sprachkurs/2141734
3. มาทำงาน
สำหรับคนที่มีประสบการณ์ทำงานแล้ว หรือคนที่จบสาขาที่เป็นที่ต้องการสูง อย่างสายคอมพิวเตอร์ หรือในตำแหน่งผู้บริหาร จนไปถึงคนที่ต้องการมาหางานทำที่เยอรมนี พ่อบ้านต้องขอบอกว่า
"ทางเยอรมันก็เปิดกว้างครับ"
โดยมีทั้งวีซ่าเพื่อการทำงานที่เป็นในรูปแบบวีซ่าระยะยาว และวีซ่าเพื่อการหางานทำให้คุณบินมาหางานได้สูงสุดถึง 6 เดือนเลยทีเดียวครับ
โดยข้อดีของวีซ่าตัวนี้ก็คือ เมื่อมาถึงคุณก็จะสามารถทำงานและเริ่มงานได้เลยครับ หรือถ้าคุณมาในกรณีของวีซ่าหางานก็ให้สิทธิคุณในการหางานที่ตรงสายได้สูงถึง 6 เดือน ซึ่งทั้ง 2 แบบนั้นถ้าทำทุกอย่างถูกต้องก็สามารถมีสิทธิที่จะขอวีซ่าถาวรและสัญชาติได้ครับ
ข้อเสียก็คือคุณจะต้องผ่านด่าน การสมัครและการสัมภาษณ์งาน และการเทียบวุฒิต่างๆ เพื่อพิสูจน์ว่าคุณเป็นบุคลากรที่เค้าต้องการจริงหรือไม่ และนอกจากนี้เรื่องของการเตรียมเอกสารก็จำเป็นต้องเตรียมไม่น้อยเลยครับ
เคล็ดไม่ลับของการขอวีซ่าตัวนี้
* หมั่นหางานเรื่อยๆ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เตรียมเอกสารให้พร้อม และรอจังหวะที่ใช่*
วีซ่าเพื่อการทำงานที่เยอรมนี
https://bangkok.diplo.de/.../visa.../langzeit-arbeit/1388110
วีซ่าเพื่อการหางานที่เยอรมนี
https://bangkok.diplo.de/.../visum-zur.../1413072
*เยอรมนีมีในส่วนวีซ่าของอาชีพพ่อครัวแม่ครัวด้วยครับหากแต่ว่าต้องอยู่ตามกำหนด แล้วตามหลักคือต้องกลับครับ ดังนั้นจึงไม่ได้กล่าวอยู่ในบทความนี้ครับ*
หวังว่าข้อมูลด้านต้นจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนนะครับ
"อย่าลืมนะครับทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนและถูกกฎหมายครับ"
ขอบคุณที่มาของข้อมูลจาก สถานทูตเยอรมนี กรุงเทพฯ ครับ
#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Live #Life #Learn #Expat