วันจันทร์, มกราคม 11, 2564

เพื่อไทย “มาช้าดีกว่าไม่มา” เสียท่าลืมคำ (อดีต) นายใหญ่ "แก้ไขไม่ดีเท่าการป้องกัน"


อย่างที่เขาว่าล่ะนะ “มาช้าดีกว่าไม่มา” และ “พลาดนิดพลาดหน่อยไม่เป็นไร” อย่าผิดเป็นนิจสินแบบ ไอทู้บ ก็แล้วกัน วันก่อน ภูมิธรรม เวชยชัย @phumtham ทวี้ต “เพื่อไทยกำลังปฏิรูปครั้งใหญ่...ต้องทบทวนและปรับขบวนอย่างเต็มที่”

เรื่อง ส.ส.ของพรรค ๑๒ คนถอนชื่อจากคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน “ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ” จนทำให้จำนวนผู้ยื่นสนับสนุนไม่เพียงพอ ถูก ตลก.ตีตกไป

เลขาธิการพรรคแถลงเมื่อ ๘ มกรา ว่าตรวจสอบแล้ว “พบว่ามีข้อมูลและเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่า ส.ส.ของพรรคที่มิได้ร่วมลงชื่อ ๑ คน กระทำการโน้มน้าว ส.ส.ในพรรคเป็นรายบุคคลให้ถอนรายชื่อจากคำขอ” และ “พรรคจะพิจารณาลงโทษ ส.ส.ผู้นี้อย่างเด็ดขาด”

ทว่า อย่างที่เขามักพูดกันอีกแหละ (ในภาษาฝรั่ง) “damages have already been done.” ความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว ถึงอย่างไรการแก้ไขไม่ดีเท่าการป้องกัน น่าเสียดายอดีตนายกฯ ซึ่งเคยนายใหญ่ของพรรคเพิ่งพูดคำนี้ชี้แนะรัฐบาลตู่ต่อสู้โควิดไว้

เลยเป็นทั้งที่ต้อง กังขาและ ภาวนา(ขึ้นอยู่กับว่าใครล่ะใส่ใจเรื่องนี้ สลิ่ม หรือ ควายแดง) ให้ ทักษิณ ชินวัตร กลับมาบริหารทั้งพรรคและบ้านเมืองอีกทีดีไหม เห็นบทความสื่อสายหลักบางรายบอก เดี๋ยวนี้ตำบลกระสุนลงกลับมาเป็นทักษิณอีกแล้ว ไอ้ทอน ตกไป

“มือในสภาไม่สำคัญเท่าศรัทธามหาชน” คำคมจากภูมิธรรมรับประกันว่าจะ “รักษาศรัทธาและความมุ่งมั่นที่เคยมี เราก็จะเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งหวังของพี่น้องประชาชนตลอดไป” เอาละ ก็ยังไม่สาย แม้นว่าที่ผ่านมานับแต่ได้เลือกตั้ง ดูออกจะ ไขว้เขวอยู่นะ

ด้วยปรากฏการณ์ อนาคตใหม่หลังเลือกตั้ง ใครๆ ในสายนี้บ่นกันว่า เพื่อไทย มิได้ทำตัวสมกับเป็น พี่ใหญ่เล่นบทฝ่ายค้านอย่างช้าละว่าเห่ แล้วยังกินแหนงแคลงใจกับน้องใหม่ไฟแรงและใจถึง จนกระทั่งไอ้น้องโดนสอย พวกเขาก็ยังอึดฮึดกันอยู่ทุกวันนี้

เอาละ ก้าวไกล และ ก้าวหน้าปากกัดตีนถีบพอไปวัดไปวากับการต้านสืบทอดอำนาจรัฐประหารอยู่ได้ เพราะมีพลังอุดมการณ์คนรุ่นใหม่เป็นท่อน้ำเลี้ยงทางปัญญา เสมือนลมใต้ปีกประคองอยู่ แต่ความที่กระดูกยังอ่อนไม่แกร่งเหมือนตอนพี่ใหญ่ขึ้นคาน

ซ้ำสองมือเร่งงาน ตรวจสอบ ในสภาอย่างแข็งขัน สองเท้าต้องคอยถีบคอยปัดพวก สุนัขทรงเลี้ยงที่จ้องเห่าจ้องกัดไปพร้อมๆ กัน ผลงานยังคาราคาซัง ถึงจะโดดเด่นก็ยังไม่ เด็ดดวง ลงได้ ยังดีที่มีรุ่นน้องเหมือนกันร่วมเดินในเส้นทาง

หนึ่งในนั้นคือ เสรีรวมไทยซึ่งถูก เด็กกัดของผู้ยิ่งใหญ่คอยก่อกวนจนเหลืออด อุตส่าห์รวบรวม ส.ส. พรรคร่วมรายบุคคลได้ถึง ๖๒ คนพอยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้แล้ว กลับมี ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยถึง ๑๒ ใน ๒๔ คนที่ร่วม ถอนตัวเสียนี่

๑๐ คนในนั้นมาจากการที่ถูกชักจูงจากตัวที่เป็น งูเห่าบางคนอ้างว่าไม่รู้เรื่องรู้ราว เห็นว่าการยื่นคำร้องนั้นไม่ใช่มติของพรรคก็เลยถอนตามคำชักชวน อีกส่วนหนึ่งแก้ตัวว่า เห็นจำนวนรายชื่อมากแล้ว “ไม่ทราบว่าการถอนรายชื่อของตนจะมีผลให้มีจำนวนไม่ครบ”

มี ส.ส.ที่ถอนชื่อสองคนออกมาชี้แจง อนุรักษ์ บุญศล แห่งสกลนคร และอาภรณ์ สาราคำ จากอุดรธานี บอกว่าถอนเพราะเข้าใจผิด เมื่อรู้อย่างนั้นพยายามกลับไปลงรายชื่อใหม่แล้วแต่ก็ไม่สามารถทำได้ แต่ข้อแก้ตัวนั้นก็ไม่มีความหมาย

ล้วนเป็นความผิดพลาด ซึ่งคงต้องโทษระบบมั้ง ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ค่อยแม่นมั่นในข้อกำหนดระเบียบการรัฐสภากัน นับประสาอะไรกับความหมายของวลีที่ว่า เบี้ยหัวแตก หรือ รวมกันเราอยู่หรือจ่าเฉยเพราะประโยค “ทำดีไม่ว่าอย่าเด่นเกิน”  


เหมือนอย่าง พิมรี่พายที่กำลังกลายเป็นพื้นที่กระสุนตกขณะนี้ ไหนจะพวก ไอโอ ระดมถล่ม แถมกำลังจะโดนเก็บภาษีออนไลน์ เพราะมีแผ่นผ้าข้อความขึงบนสะพานข้ามถนนหน้าสถานทูตอเมริกัน ว่า “ถ้า ๔,๐๐๐ โครงการดี ทำไม ๗๐ ปียังด้อยพัฒนา”

แล้วยังโดน ผู้รู้ดี เรียงหน้าจิกสับ โถ คนตลาดๆ อยาก ทำดี จะได้ เด่น เป็นไม่เป็นกูจะทำ งูๆ ปลาๆ ผิดพลาดก็หลายอย่าง แต่ผลลัพท์เฉพาะหน้ามันเพียงพอในตัวของมันเองแล้ว ไฟฉายบนหัวเด็กดอยใช้สองสามคืนอาจต้องทิ้งไม่มีถ่านเปลี่ยน

แต่ผลข้างเคียงเหลือหลาย ดังที่ บก.ลายจุดว่า มันทำให้ วาบ ได้ทั้งแผ่นดิน

(https://www.voicetv.co.th/read/pkwYin1g3, https://www.isranews.org/article/isranews-news/94855-isranews-767.html และอ่านประกอบ https://www.facebook.com/chainarong.stc.3/posts/880303146105408, https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/3165054603596281)