วันจันทร์, มกราคม 11, 2564
112 กฎหมายไร้ความชอบธรรม เสียงจากผู้อ่านแถลงการณ์ที่หน้าสถานทูตเยอรมัน
iLaw
11h ·
112 กฎหมายไร้ความชอบธรรม เสียงจากผู้อ่านแถลงการณ์ที่หน้าสถานทูตเยอรมัน
"การชุมนุมวันนั้นหนูเป็นหนึ่งในทีมจัดงานแล้วก็เป็นคนอ่านแถลงการณ์ภาษาไทย เท่าที่หนูอ่านเนื้อหาในแถลงการณ์เป็นแค่การตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่โจมตีอะไรใคร เราแค่ตั้งคำถามทำนองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันสมควรแล้วหรือ
พอรู้ว่าตัวเองถูกหมายเรียกหนูไม่ตกใจเพราะเตรียมใจไว้แล้ว แล้วก็ไม่ได้กังวลเป็นพิเศษ จริงๆหนูก็เคยได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับคดีมาตรา 112 มาบ้างนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันก็น่ากลัว แต่พอถึงตอนนี้หนูก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนแต่ก่อนแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตอนนี้มันถูกเอามาใช้มากเกินไปหรือใช้เพื่อกลั่นแกล้งจนมันหมดความชอบธรรมไปแล้ว"
เบนจา นักศึกษาปีหนึ่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้อ่านแถลงการณ์ภาษาไทย
"วันนั้นผมเป็นคนอ่านแถลงการณ์ภาษาอังกฤษแล้วก็ช่วยแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งเท่าที่ผมอ่านและแปลเนื้อหาก็เป็นแค่การตั้งคำถามแล้วก็แปลตรงกับภาษาไทยเลย"
"ถามว่าตอนที่อ่านคิดไหมว่าจะโดนคดีก็ตอบเลยว่าคิดไว้แล้ว เพราะมันมีข่าวออกมาตั้งแต่หลังชุมนุมว่าจะโดน ถึงผมจะเห็นว่าตัวแถลงการณ์มันไม่น่าจะเป็นผิดอะไรแต่ที่คาดการไว้แต่แรกว่ายังไงก็น่าจะโดนคดีเป็นเพราะรัฐมักจะใช้กฎหมายมากลั่นแกล้งผู้เห็นต่าง ก่อนหน้านี้เวลามีม็อบก็มีการดำเนินคดีปิดปากทุกครั้ง การใช้กฎหมายของรัฐตั้งอยู่บนความอยุติธรรมก็เลยคิดว่า พวกเราก็น่าจะโดน"
"การชุมนุมที่สถานทูตเกิดขึ้นก่อนพล.อ.ประยุทธ์จะประกาศเรื่องว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับ ตอนแรกพวกเราก็ถูกตั้งข้อหามาตรา 116 ไปก่อนเราก็นึกว่าจะมีแค่นั้น แต่หลังจากนั้นก็มีข่าวแพลมๆมาเป็นระยะว่าเดี๋ยวจะมี 112 ตามมานะพอพล.อ.ประยุทธ์ประกาศพวกเราก็รู้ว่าโดนแน่ ก็เลยเตรียมใจกันไว้แล้ว"
"ถามว่ากังวลไหม ไม่เท่าไหร่นะเพราะโดนกันเยอะ (หัวเราะ) แต่เอาแบบจริงจัง กฎหมายนี้มันไม่มีความชอบธรรมในการเอามาใช้แล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เราเห็นว่ามันเป็นกฎหมายที่เอามาใช้กลั่นแกล้ง ไม่ได้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์แห่งความยุติธรรมอย่างแท้จริง กฎหมายมาตรานี้จึงไม่ใช่กฎหมายที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองอีกต่อไป"
ซัน วัชรากร นักศึกษาชั้นปีที่สาม วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
"วันนั้นผมเป็นคนที่อ่านแถลงการณ์เป็นภาษาไทยอีกคนหนึ่ง ตอนที่อ่านฉบับภาษาไทยเราจะใช้วิธีอ่านสลับกันคนละส่วน ตัวผมเองไม่ได้เป็นคนที่ร่วมร่างแต่ขึ้นมาอ่านเฉยๆ"
"คดีนี้ผมไม่กังวลนะ เพราะเราต้องยืนยันว่าเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องเป็นเรื่องที่พูดได้ และเนื้อหาของแถลงการณ์ก็เป็นเพียงการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้พระราชอำนาจนอกราชอาณาจักรว่าทำได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งตั้งคำถามถึงกรณีที่พระมหากษัตริย์ประทับอยู่ในต่างแดน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตั้งคำถามได้"
"ถามว่าคิดไหมว่าจะโดนคดี ตอบตามตรงว่าคิดไว้อยู่แล้ว ตัวผมเองคดีนี้ก็ไม่ใช่คดีแรก เคยถูกดำเนินคดีจากการร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 (การชุมนุมของเยาวชนปลดแอก) ผมคิดว่าการที่เราออกมาเคลื่อนไหวในที่สาธารณะมันมีความเสี่ยงเรื่องคดีอยู่แล้ว พอพล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับก็รู้เลยว่าโดนแน่ๆ"
"ถามว่าผมรู้เรื่องเกี่ยวกับคดี 112 มาบ้างไหม ผมรู้มาบ้างว่าเป็นกฎหมายที่ไม่ศักดิสิทธิ์และไม่มีความชอบธรรม แล้วก็มีการตีความที่กว้างเกินกว่าเจตนารมณ์ของมันซึ่งตรงนั้นเป็นปัญหาที่คงพอรู้กันอยู่ แต่สิ่งที่ตอนนี้อาจจะต่างไปจากอดีตน่าจะเป็นเรื่องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่"
"อย่างเมื่อก่อนนี่ใครโดนก็จับเลยแต่สมัยนี้เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายเรียกก่อนแสดงว่าความเป็น "112" มันไม่ใช่สถานะศักดิสิทธิ์และไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้จับใครไปขังได้เลยเหมือนในอดีต สถานะของมาตรา 112 ในความรับรู้คนคนในสมัยนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ากฎหมายที่มีไว้ใช้กลั่นแกล้งคนเห็นต่าง อันนี้ในความรู้สึกผมนะ"
เอฟ ชลทิศ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์