วันเสาร์, พฤศจิกายน 10, 2561

"วิษณุ" เรียก ป.ป.ช.ถกปมร้อนแจ้งบัญชีทรัพย์ลามถึง "สังฆราช" รองเลขาฯ ป.ป.ช.เผยสัปดาห์หน้าประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เร่งสรุปหาทางออกให้ได้ก่อน 2 ธ.ค.นี้ เล็งทางออกไว้เบื้องต้นขยายเวลาบังคับใช้ออกไปก่อน




"วิษณุ" เรียก ป.ป.ช.ถกปมร้อนแจ้งบัญชีทรัพย์ลามถึง "สังฆราช" ด้านรองเลขาฯ ป.ป.ช.เผยสัปดาห์หน้าประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เร่งสรุปหาทางออกให้ได้ก่อน 2 ธ.ค.นี้ เล็งทางออกไว้เบื้องต้นขยายเวลาบังคับใช้ออกไปก่อน

ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงประกาศของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสทั้งที่จดทะเบียนและมิได้จดทะเบียน และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และเปิดเผยผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมไปถึงนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการศาสนา อธิการบดีของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลับราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธ.ค.61

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 พ.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช.พร้อมด้วย นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผอ.สำนักงาน กฏหมาย ป.ป.ช.และคณะ เข้าพบกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงประกาศดังกล่าว หลังเกิดข้อท้วงติงจากหลายฝ่าย โดย นายนิวัติไชย ให้สัมภาษณ์ก่อนหารือว่า ข้อกังวลจากประกาศดังกล่าว หลังกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย(มมร.)ส่วนใหญ่ ที่สมเด็จพระสังฆราชทรงดำรงตำแหน่งด้วย ไม่พอใจขู่ลาออกหากประกาศดังกล่าวบังคับใช้จริง กรรมการป.ป.ช.แสดงความเป็นห่วงและนายวิษณุเชิญหารือในเรื่องนี้ โดยจะรอฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆเพื่อรวบรวมเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป ก่อนวันที่ 2 ธ.ค.ที่ประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ หากจะแก้ไขหรือผ่อนปรนประกาศดังกล่าวก่อน โดยตนมีหน้าที่มารับข้อคิดเห็นจากรัฐบาล ก่อนดำเนินการประมวลและสรุปเพื่อนำเสนอรายงาน ต่อที่ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า

ต่อมาเวลา 12.00 น.นายนิวัติไชย ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงกรณีสภาวิทยาลัยเตรียมขู่จะลาออก เนื่องจากอยู่ระหว่างรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และการหารือครั้งนี้เป็นการหารือทั่วไปในข้อกฎหมาย โดยนายวิษณุได้สอบถามถึงการกำหนดตำแหน่งในประกาศของ ป.ป.ช.จะแก้ไขปัญหาอย่างไร ส่วนใหญ่เป็นประเด็นข้อกฎหมาย เช่น การยื่นภายในกำหนดกี่วัน เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดบ้างที่ต้องยื่น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนต้องนำความเห็นต่างๆ เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้พิจารณา คาดว่าจะดำเนินการแก้ปัญหาได้ทันก่อน 2 ธ.ค.ที่ประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ แต่หากไม่ทันก็ต้องขยายเวลาการบังคับใช้ จากวันที่ 2 ธ.ค.ไปก่อน แล้วค่อยดูแนวทางอีกครั้ง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นประเด็นปัญหาพอสมควร เราจึงต้องรับฟังความเห็นจากหลายทาง

"โดยทางออกเบื้องต้นอาจขยายเวลาออกไปก่อน ส่วนจะเป็นระยะเวลาเท่าไรนั้น ยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะใช้เวลาศึกษาหาทางออกเท่าไร และยังไม่มีความชัดเจนว่า จะแก้ไขหรือไม่แก้ไขประกาศดังกล่าว เนื่องจากยังต้องศึกษารายละเอียด" นายนิวัติไชย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประกาศ ป.ป.ช.ครอบคลุมถึงสมเด็จพระสังฆราช ที่ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จะดำเนินการอย่างไร นายนิวัติไชย กล่าวว่า มีกระแสข่าวอยู่เหมือนกัน เป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณา

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ไม่ทราบ อยู่ที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะพิจารณา

เมื่อถามว่า การที่นายกฯและกรรมการสภามหาวิทยาลัยมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้มาก เป็นไปได้หรือไม่ที่ว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่ไม่โปร่งใส และมีทุจริตจำนวนมาก นายนิวัติไชย กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ข้อกฎหมายตามนิยามของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ซึ่งกำหนดไว้แล้วว่าเป็นใครบ้าง คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพียงแต่ออกประกาศให้ทราบเท่านั้นว่า มีหน่วยงานไหนบ้าง แต่วันนี้มีประเด็น คือ ตำแหน่งนั้นๆใช่ตำแหน่งที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ จึงต้องมาหารือกัน

(http://www.thairath.co.th/content/1417276)