ต่อการที่ ‘โอ๊ค’ พานทองแท้
ชินวัตร ออกมาโต้กรณีมีเอกสารหลุด ร้องทุกข์คำสั่งย้ายรองอธิบดีดีเอสไอเข้ากรุสำนักนายกฯ
เพราะไม่ยอมแจ้งความกล่าวหาลูกหัวแก้วของอดีตนายกฯ ทักษิณ
ไม่เพียงยืนยันว่ากระบวนการ ‘ล้างบาง’ เครือข่ายชินวัตรเข้มข้นและเร่งเครื่องหนักยิ่งขึ้น
หากแต่ทำให้มองเห็นสัญญานของการ ‘แตกหัก’ ขึ้นมาบ้างแล้วลางๆ
โอ๊คจะเป็นอีกคนที่ต้อง ‘หนี’ แบบ ‘อาปู หรือว่าครานี้จะทำให้ ‘ทักกี้’
หันมาพูดว่าพอกันที ‘enough is enough’ แทนที่ทฤษฎี
‘แก้ไขไม่แก้แค้น’ เพราะไม่มีทางแก้ไขอะไรได้
ถึงจะไม่แก้แค้นก็ต้องพบกับจุดสุดท้ายแห่งการยอมสยบ ‘ศิโรราบ’ จนได้
“จะตรวจสอบคดีแบงค์กรุงไทยซึ่งมีการกู้เงินนับหมื่นล้าน
แทนที่จะไปตรวจสอบองค์กรที่ได้รับผลประโยชน์ก้อนใหญ่ หรือรายชื่อนายทหาร นายตำรวจ
และบุคคลองค์กรอื่นๆ อีกกว่า ๓๐๐ ธุรกรรม (รวมถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ
และนายพลเรือคนดัง ก็มีชื่อรับโอนเงินก้อนดังกล่าวด้วย) พานทองแท้ไม่ยั้ง
“กลับมาสั่งการกับผู้ปฏิบัติแบบเน้นๆ ให้จ้องเอาผิดกับธุรกรรมทางการเงินจำนวน
๑๐ ล้าน ซึ่งเท่ากับ ๐.๑ % ของจำนวนเงินทั้งหมด...
เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่เกิดกับลูกหลานตัวเองบ้าง ผู้มีอำนาจที่สั่งการกันมาเป็นทอดๆ
อาจจะยังไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งเวรกรรมจะตามทัน”
แม้นว่าอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจะออกมาปฏิเสธกลายๆ
ว่าเอกสารร้องทุกข์คำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่สั่งย้าย พ.ต.ท. สมบูรณ์ สาระสิทธิ์
รองอธิบดีดีเอสไอ ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เป็นเอกสารของจริงหรือไม่
อีกทั้งที่ดีเอสไอก็ยังไม่ได้รับการร้องเรียนในเรื่องนี้ด้วย
อธิบดีฯ ไพสิฐ วงศ์เมือง
ยังพาดพิงไปถึงเนื้อนาแห่งคดีด้วยว่า “ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งมีเป็นจำนวนมาก
จึงต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนได้ทำงานก่อน อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร”
ต่อการที่มีข่าวเรื่องให้สั่งฟ้องไปก่อนแม้ “ตรวจสอบแล้วพยานหลักฐานไม่ถึง”
และขณะนี้ “มีคนบอกว่าไม่เป็นไรเพราะเป็นระบบไต่สวน
ดังนั้นให้ผู้ต้องหาเขามาแก้ตัวเอาเอง” นั้น
นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม แกนนำพรรคเพื่อไทยแย้งว่า “เห็นว่ามีข้อหารับของโจร
ซึ่งเจ้าของสำนวนออกมาระบุว่าขาดอายุความไปแล้ว
จะให้เขาแจ้งดำเนินการไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย...
ตรงนี้ก็แสดงให้เห็นว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่
ไม่ว่าจะกระทำไปด้วยตนเองหรือจะเอาใจผู้มีอำนาจ หรือถูกสั่งมาก็แล้วแต่
กำลังดำเนินการอย่างไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามที่สมควรจะเป็น
ซึ่งสุ่มเสี่ยง
หากเจ้าตัวไม่ยอมถูกย้ายแล้วไปทำตามที่ถูกให้ทำ ก็อาจจะถูกดำเนินคดีได้
เพราะคดีขาดอายุความแล้วไปฝืนแจ้งข้อหาเขา
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_500871)
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_500871)
พวกหมาไล่เนื้อ เวลาล่าเหยื่อย่อมไม่มีฉุกคิดถึงความถูกต้องใดๆ
ทั้งสิ้น เหยื่อมีทางเลือกสามอย่าง ถ้าไม่หนีสุดชีวิตก็ต้องทำใจดีสู้เสือรอต่อรอง
หรือกระทั่งเกี๊ยะเซี้ย กับหนทางสุดท้ายปักหลักสู้ ไม่แพ้ก็ชนะ ดีกว่าแพ้ลูกเดียว
คำลงท้ายโพสต์เฟชบุ๊คของนายพานทองแท้
ที่พูดถึง ‘กฏแห่งกรรม’ อันจะตามสนองลูกหลาน
‘ผู้มีอำนาจ’ บ้างไม่วันใดก็วันหนึ่ง “ขออย่าได้โอดครวญแล้วกัน”
นี่อาจเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว หรือคำรามแกมขู่ให้ผู้มีอำนาจฉุกคิดชั่งใจ
ก็มิใช่รูปการณ์หรือสัญญานของการ ‘ศิโรราบ’ เลยแน่ๆ