วันศุกร์, กันยายน 09, 2559

อย่ากลัว “ประชานิยม” จนลืม “ประชาชน”





ที่มา FB
ไขลานความคิด

คำว่า “ประชานิยม” ดูจะน่ากลัวมากจนต้องถูกกีดขวางด้วยกฎหมายมาตราต่างๆในร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจสอบนโยบายพรรคก่อนหาเสียงของ กกต. ไหนจะเรื่องวินัยการคลัง ไหนจะเรื่องการต้องเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ เรียกได้ว่าทำให้นโยบาย “ประชานิยม” จากพรรคการเมืองแทบจะลงมือปฏิบัติให้เป็นจริงได้ยาก โดยเหตุผลที่ได้รับตามมาคือ กลัวประชาชนเสพติดประชานิยม ทั้งๆที่ในประเทศเสรีประชาธิปไตยการหาเสียงเลือกตั้งด้วยนโยบายที่ถูกใจคนส่วนใหญ่ ให้พรรคการเมืองได้รับเลือกเข้ามาล้วนเป็นเรื่องปกติ

เราลองย้อนไปดูตัวอย่างง่ายๆอย่างการจัดตั้งระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จากแนวคิดของ “นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติคนแรก” ที่ได้เห็นความทุกข์ยากของชาวบ้านในการเข้าถึงการรักษา โดยเฉพาะคนจนที่ไม่เงิน คุณหมอจึงเริ่มทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2533 จนมาถึงก่อนการเลือกตั้งปี 2544 คุณหมอได้พิมพ์สมุดปกเหลืองที่เขียนอธิบายถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งหลักการความเป็นมาและโอกาสความเป็นไปได้ในการดำเนินการ เพื่อใช้เดินสายพูดคุยกับหลายพรรคการเมืองซึ่งก็ถูกปฏิเสธ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่รับนโยบายนี้ มีเพียงพรรคไทยรักไทย โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ตอบรับ และเดินหน้านโยบายนี้ พร้อมจัดทำสโลแกนเพื่อใช้หาเสียงว่า “30 บาท รักษาทุกโรค” หลังจากใช้หาเสียงในการเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 ต่อมาในเดือนเมษายน 2544 ได้เริ่มนำร่องระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าใน 6 จังหวัด และขยายครอบคลุมทั่วประเทศในเวลาต่อมา นี่ถ้าไม่มีพรรคการเมืองช่วยขับเคลื่อนนโยบายนี้เป็นประชานิยม คนไทยคงขาดโอกาสในการรับการดูแลจากรัฐอย่างเท่าเทียม 

ลองคิดดูว่าหากไม่มีประชานิยมแล้ว ช่องทางของประชาชนที่จะเสนอโครงการขนาดใหญ่ผ่านพรรคการเมืองแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยกตัวอย่างตอนที่คุณหมอสงวน นำเสนองบประมาณที่ใช้ประมาณ 30,000 ล้านบาทในขณะนั้น หากเป็นตอนนี้ ย่อมติดข้อกฎหมายตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วพรรคไหนจะกล้านำเสนอนโยบายนี้หาเสียง เพราะถ้าเกิดถูกรับเลือกตั้งมาแล้ว ไม่สามารถดำเนินนโยบายให้สำเร็จ เท่ากับว่าไม่สามารถดำเนินการตามที่หาเสียงกับประชาชนได้ ตอนนี้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติมาแล้ว ประชาชนอย่างเราๆคงทำได้แค่ตามเกาะติดกฎหมายลูกที่จะออกตามมา จึงอยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องว่าอย่ากลัวนักการเมือง กลัวประชานิยมจนลืมความต้องการของประชาชน

ooo