วันอาทิตย์, มิถุนายน 07, 2558

ทําไมเด็กแว้นปิดถนนแข่งมอ"ไซค์ถูกจับ ทำไมคนดีปิดถนนไม่เอาเลือกตั้งกลับลอยนวล


ภาพจาก kapook

เด็กแว้น 2 นครา คอลัมน์ ใบตองแห้ง

ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทําไมเด็กแว้นปิดถนนแข่งมอ"ไซค์ถูกจับ ทำไมคนดีปิดถนนไม่เอาเลือกตั้งกลับลอยนวล ซ้ำบางส่วนได้เป็น สนช. สปช.กมธ.ออกกฎหมายยกร่างโครงสร้างประเทศ

อ๊ะ อ๊ะ ยกเรื่องนี้มาเทียบไม่ใช่จะตะแบงปกป้องเด็กแว้น หรือเคียดแค้นชิงชังฝังหุ่นเป่านกหวีด เพราะถึงแม้เห็นต่างอย่างไรผมก็เข้าใจได้ เพียงอยากถามว่า แล้วคุณเข้าใจเด็ก แว้นไหม

พูดตามตรงนะโปรแกรมอบรมเด็กแว้น แบบพบนักจิตวิทยา ฝึกวินัย ส่งเสริมคุณธรรม ฟังพระ เรียนกฎหมายจราจร และบำเพ็ญประโยชน์อะไรนั่น ผมว่าไม่ตรงเป้าสักนิด แต่เอาละ อย่างน้อยส่วนราชการก็ตอบได้ว่า ได้พยายามทำอะไรแล้ว

พูดอย่างนี้ไม่ใช่มีคำตอบสำเร็จว่าควรแก้ปัญหาเด็กแว้น อย่างไร แต่ถ้าย้อนมองงานวิจัยเด็กแว้น ที่ อ.ปนัดดา ชำนาญสุข ทำไว้ จะเห็นว่าพวกเขาคือวัยรุ่นคึกคะนอง ที่มาจากครอบครัวคนจนเมืองหรือคนชั้นกลางระดับล่าง (คงไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูกเหมือนในละครหลังข่าว) ไม่มีอนาคตทางการศึกษา ไม่เห็นโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต จึงอาศัยการจับกลุ่มบิดคันเร่งท้าทายกฎหมาย สร้างปมเด่นให้ตนเองพ้นจากการเป็น "คนชายขอบ"

ไม่ว่าเข้มงวดปราบปรามแค่ไหน ใช้ศีลธรรมกี่ฉบับ ก็จับเด็กแว้นไม่หมดสักที นี่ขนาดใช้ "ยาแรง" จับแล้วยึดรถ จับแล้วพ่อแม่ต้องเข้าอบรม "ปลูกฝังจิตสำนึก" (เลวทั้งโคตรเลยนะ)

ถ้าจะพูดอะไรถูกๆ เด็กแว้นเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจทุนนิยม (โทษทุนนิยมไว้ก่อนไม่ผิดชัวร์) ที่ทำลายสังคมดั้งเดิมอันดีงาม มีวัด มีหมู่บ้าน มีตลาดน้ำ (ต้องช่วยกันรักษาวัฒนธรรมแต่งชุดไทย)

แต่มันใช่แค่นั้นไหม มันมีอะไรในการพัฒนาแบบไทยๆ ที่ทำให้เรามีมหาเศรษฐีติดอันดับโลกของนิตยสาร Forbes โดย 50 มหาเศรษฐีมีสินทรัพย์ 1 ใน 4 ของ GDP ขณะที่คนชายขอบถูกไล่ที่ทำกิน ถูกจัดระเบียบ ถูกบอกให้ "เคารพกฎหมาย"

ถ้าย้อนไปดูครอบครัวเด็กแว้น คนจนเมือง คนชั้นกลางระดับล่างในสังคมไทย หาบเร่ แผงลอย พ่อค้าย่อย แท็กซี่ สามล้อ ฯลฯ ใช่หรือว่าพวกเขาไม่มีศีลธรรม ไม่เคยเข้าวัด ไม่รู้จักปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูก


ภาพจาก kapook

ผมว่ามีนะครับ แต่สิ่งที่ปลูกฝังมาด้วยกันในวิถีชีวิต "คนชั้นล่าง" ก็คือความเชื่อว่าสังคมนี้ไม่มีความเป็นธรรม ไม่มีความยุติธรรม ไม่เชื่อมั่นกฎหมาย เพราะกฎหมายคือเครื่องมือหาผลประโยชน์ถ้าใครหลบเลี่ยงได้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นในชีวิตประจำวันคือการรีดไถ เอารัดเอาเปรียบ อำนาจเป็นใหญ่ เล่นเส้นเล่นสาย "มือใครยาวสาวได้สาวเอา"

ย้อนไปอีกที ทำไมคนดีปิดถนนลอยนวล นั่นแหละตอกย้ำความคิดคนจนโดยไม่ต้องมีสี ว่ากฎหมายมีไว้จัดการพวกเขาเท่านั้น ไม่ใช่แค่เด็กแว้น แต่ดูแมงกะไซค์ถูกตำรวจจับทุกวัน ทำไมขึ้นสะพานลอยไม่ได้ ทำไมวิ่งลงอุโมงค์ไม่ได้ ทำไมไม่ทำเลนแมงกะไซค์ แต่พอคนชั้นกลางเห่อขี่จักรยานออกกำลังกาย ก็ทำเลนจักรยานพร้อมกับสั่งให้รถวิ่ง 30 ก.ม.ต่อชั่วโมง

แมงกะไซค์กลายเป็น "สองล้อชั้นสอง" ไปแล้ว ไม่ใช่แค่คนจน ขนาดมหาวิทยาลัยยังคลั่งรักษ์โลกจนสั่งห้ามน.ศ.ขี่แมงกะไซค์เพื่อใช้รถไฟฟ้า และปั่นจักรยานแทน

ท่ามกลางการพัฒนาแบบไทยๆ โลกของคนชั้นล่างกับโลกของคนชั้นกลางคนระดับบน แยกห่างกันออกไปทุกที ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่ทุกเรื่องในวิถีชีวิต วัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ

คนชั้นล่างปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงชีวิต อยู่ในโลกที่หยาบกร้าน คนชั้นกลางมีอันจะกินแสวงหาไลฟ์สไตล์ คุณภาพชีวิต ความสะดวกสบายต่างๆ คนชั้นล่างจนเครียดกินเหล้า สูบบุหรี่ คนชั้นกลางจิบไวน์ อ่านหนังสือธัมมะดีๆ แล้วก็บอกว่าไอ้พวกนี้ไม่รู้จักพอ คนชั้นล่างดิ้นรนทำกินข้างถนน หรือรุกล้ำป่าเสื่อมโทรม คนชั้นกลางบอกว่าสังคมต้องจัดระเบียบ คนชั้นล่างเอาเศษกระดูกเลี้ยงหมา โมโหขึ้นมาก็เตะหมา คนชั้นกลางรักน้องหมา กระทั่งออกกฎหมายใครทำร้ายหมาติดคุก

2 นคราไม่ใช่แค่ประชาธิปไตย แต่รวมถึงโลกทรรศน์และความพึงพอใจ คนชั้นกลางมองสังคมไทยจากเล่าเต๊ง แล้วบอกว่าเราอยู่ในสังคมที่ดีมีศีลธรรม พร้อมทุกอย่าง แค่นักการเมืองเลว ขณะที่คนชั้นล่างมองขึ้นมาว่าสังคมนี้ไม่มีความยุติธรรม มันก็เลวเหมือนกันหมด

เริ่มต้นจากเรื่องเด็กแว้น ลงท้ายไม่ใช่แค่เด็กแว้น แต่ประเด็นก็อยู่ในนั้น ทำอย่างไรพวกเขาจะมีความเชื่อความหวังมากกว่าปฏิเสธสังคม