.jpg)
บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม เสียชีวิตระหว่างอดอาหารประท้วงอยู่ในเรือนจำ
ภาพจาก มนุษย์กรุงเทพฯ (May 14)
.....
มนุษย์กรุงเทพฯ
ภาพจาก มนุษย์กรุงเทพฯ (May 14)
.....
มนุษย์กรุงเทพฯ
January 28, 2023
·
“เราติดคุกจากคดี 112 (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112) ทั้งหมด 94 วันถึงได้รับการประกันตัวมาสู้คดี โดยมีเงื่อนไขว่าต้องติดกำไลอีเอ็ม เราไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นที่มอง แต่นักโทษทางการเมืองที่ติดอีเอ็มมีภาพลักษณ์ที่ไม่โอเค บางคนเลยไม่อยากยุ่งด้วย อาชีพของเราคือครูสอนพิเศษ เราไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ แค่พิมพ์ชื่อว่า ‘เนติพร เสน่ห์สังคม’ ข้อมูลก็ขึ้นมาแล้ว ผู้ปกครองของเด็กที่เราเคยสอนมีความคิดการเมืองหลายแบบ แต่ไม่มีใครโอเคกับคนมีอีเอ็มหรอก เป็นหนึ่งในความลำบากที่ขัดขวางความก้าวหน้าในชีวิต เราต้องให้ครอบครัวช่วยซัพพอร์ท พร้อมกับหาช่องทางอื่นในการหาเงิน ขณะเดียวกันก็พยายามยื่นเรื่องต่อศาลให้ถอดอีเอ็มออกด้วย
“ตอนทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ เราเคยเจอคนมาชี้หน้าด่าว่า ‘พวกหนักแผ่นดิน!’ เจอคนมาแปะสติกเกอร์ด้วยอารมณ์โมโห เราโอเคกับการมาแปะสติกเกอร์นะ ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ ที่ไม่โอเคคือการมาด่า แต่ไม่เป็นไร มองว่าเป็นความคิดเห็นของเขา ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ได้รับผลกระทบ คนในครอบครัวก็โดนตำรวจติดตามด้วย เรายอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนะ ทั้งโดนตำรวจติดตาม ติดคุก หรือติดกำไลอีเอ็ม แต่ถ้าทำกับครอบครัว เราไม่ยอม เราเคยเจอต่อหน้าก็ด่าตำรวจคนนั้นเลย
“เราอยากเห็นประชาชนมีชีวิตที่ดีกว่านี้ สิ่งที่เราทำคือสิทธิเสรีภาพที่ทำได้ ประเทศอื่นที่มีความสากลก็ไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมประเทศไทยถึงตั้งคำถามแล้วผิด กระบวนการยุติธรรมไทยมันน่าเกลียด ยิ่งนานไปจะยิ่งโชว์ให้เห็น เราเคยติดคุก ตอนนั้นอดอาหารด้วย พอออกจากคุกมา เราไม่มีทรอม่าอะไรทั้งนั้น เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำไม่ผิด และเรายืนยันว่าจะสู้ต่อไป”
·
“เราติดคุกจากคดี 112 (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112) ทั้งหมด 94 วันถึงได้รับการประกันตัวมาสู้คดี โดยมีเงื่อนไขว่าต้องติดกำไลอีเอ็ม เราไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นที่มอง แต่นักโทษทางการเมืองที่ติดอีเอ็มมีภาพลักษณ์ที่ไม่โอเค บางคนเลยไม่อยากยุ่งด้วย อาชีพของเราคือครูสอนพิเศษ เราไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ แค่พิมพ์ชื่อว่า ‘เนติพร เสน่ห์สังคม’ ข้อมูลก็ขึ้นมาแล้ว ผู้ปกครองของเด็กที่เราเคยสอนมีความคิดการเมืองหลายแบบ แต่ไม่มีใครโอเคกับคนมีอีเอ็มหรอก เป็นหนึ่งในความลำบากที่ขัดขวางความก้าวหน้าในชีวิต เราต้องให้ครอบครัวช่วยซัพพอร์ท พร้อมกับหาช่องทางอื่นในการหาเงิน ขณะเดียวกันก็พยายามยื่นเรื่องต่อศาลให้ถอดอีเอ็มออกด้วย
“ตอนทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ เราเคยเจอคนมาชี้หน้าด่าว่า ‘พวกหนักแผ่นดิน!’ เจอคนมาแปะสติกเกอร์ด้วยอารมณ์โมโห เราโอเคกับการมาแปะสติกเกอร์นะ ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ ที่ไม่โอเคคือการมาด่า แต่ไม่เป็นไร มองว่าเป็นความคิดเห็นของเขา ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ได้รับผลกระทบ คนในครอบครัวก็โดนตำรวจติดตามด้วย เรายอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนะ ทั้งโดนตำรวจติดตาม ติดคุก หรือติดกำไลอีเอ็ม แต่ถ้าทำกับครอบครัว เราไม่ยอม เราเคยเจอต่อหน้าก็ด่าตำรวจคนนั้นเลย
“เราอยากเห็นประชาชนมีชีวิตที่ดีกว่านี้ สิ่งที่เราทำคือสิทธิเสรีภาพที่ทำได้ ประเทศอื่นที่มีความสากลก็ไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมประเทศไทยถึงตั้งคำถามแล้วผิด กระบวนการยุติธรรมไทยมันน่าเกลียด ยิ่งนานไปจะยิ่งโชว์ให้เห็น เราเคยติดคุก ตอนนั้นอดอาหารด้วย พอออกจากคุกมา เราไม่มีทรอม่าอะไรทั้งนั้น เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำไม่ผิด และเรายืนยันว่าจะสู้ต่อไป”
.....
https://www.facebook.com/thai.udd.news/videos/552260590513361
.....
https://www.matichon.co.th/politics/news_4830621
