มีคนบอกว่า ไอ้ที่ศาล รธน.และ กกต.ชงกันไปชงกันมา เพื่อจะยุบพรรคก้าวไกลนั้นยังพอทำเนา หนักกว่าจะตามมาอีกเป็นการตัดสิทธิทางการเมือง ส.ส.ก้าวไกล ๔๔ คน ที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร กับ สนธิญา สวัสดี ยื่นต่อ ปปช.ไว้แล้วเมื่อ ๒ กุมภา
วานนี้ (๑๒ มีนา) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการปราบทุจริตแห่งชาติ ออกมาบอกผู้ใส่ใจอยากเร่งให้ไวไว ว่าคดีความ “คืบหน้าไปมากแล้ว” แต่ ปปช.ก็มีกรอบเวลา ๑๘๐ วันนับจากได้รับเรื่องร้องเรียนอยู่ ชิลๆ กันไว้ ใจเย็นๆ หน่อย
“จะเร่งให้อยู่ภายในกรอบระยะเวลาดังกล่าว” มีเวลาถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมโน่น “แม้จะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว แต่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง” หลายคนก็ยังคิดว่าเรื่องนี้ ‘done deal’ ไปแล้วในทางเดียวกันหมดแหละ
จะเป็นเช่น Thanapol Eawsakul ว่าหรือไม่ “ฝ่ายชนชั้นนำวิเคราะห์แล้วว่า ปล่อยให้ก้าวไกลอยู่ต่อไปไม่ได้” ต้องฟัง สมชาย แสวงการ หนึ่งใน สว.ตู่ตั้ง ตัวแสบพูดไว้ มันชัดเจนพวกเขาต้องการให้เป็น “บทเรียนทางการเมืองของคนรุ่นใหม่”
ฐานที่มี “วิธีคิดในการที่จะกร่อนเซาะบ่อนทำลาย หรือมีวิธีคิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นปัญหา...กำลังจะบอกว่าสิ่งที่เดินอยู่ มันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพผิดทาง...ต่อให้ยุบพรรค...แล้วยังมีวิธิการคิดแบบนี้ ยังไงก็ต้องถูกยุบไปเรื่อยๆ”
มันคง ‘ไม่’ เป็นไปได้เช่นนั้นทั้งหมด ประการแรกคนรุ่นใหม่เขาจะแก่ตายทีหลังพวกคนรุ่นมะรึง ถึงจะโดนเข่นฆ่าหมู่อีกก็ไม่หมด ดูจากรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นที่โดนไอเฮียสังฆ่า อี ๕ สั่งยิงสิ แม้บางส่วนรุ่นนั้นกลายร่างข้ามขั้วไปบ้าง ก็ยังเหลือมาร่วมรุ่นนี้ไม่น้อย
มิใยที่พวกกลายร่างจะอ้างแบบฬ่อฉลาดว่า “การมีอยู่ของพรรคก้าวไกล ให้เป็นตำบลกระสุนตกเป็นกันชนกับฝ่ายอำนาจนิยมขวาจัด ล้วนเป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทย จะได้เอาเวลาไปทำงาน ให้ฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวาเขาชนกันไป” ก็ตาม
คำของ Atukkit Sawangsuk จะดังกังวานในแก้วหูยิ่งกว่า “คนเลือกก้าวไกลอาจหดหู่สิ้นหวัง ว่าชนะเลือกตั้งก็ยังเปลี่ยนประเทศไม่ได้ แต่ความอยุติธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า การย่ำยีความหวังความฝัน...จะนำไปสู่การยกระดับครั้งใหม่”
(https://www.facebook.com/baitongpost/posts/02aNJfFUrNjLl, https://twitter.com/webdevxp/status/1767718178229223874 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_4468691)