
ผู้ผลิตแอร์โอด สินค้าจีนทะลักทุบซัพพลายเออร์เอสเอ็มอีเจ๊ง กระทบต้นทุน-ส่งมอบของช้า
Puangthong Pawakapan
5h·
ขณะที่รัฐบาลเดินหน้าขายกางเกงช้างตัวละ 100-200 ผ้าคะม้า ผ้าไทย ข้าวเหนียวมะมะม่วง หรือสินค้าที่มี value added ต่ำมาก สินค้าอุตสาหกรรมและเอสเอ็มอีไทยกำลังจะตายเพราะแข่งกับสินค้าจีนไม่ได้
.....
ผู้ผลิตแอร์โอด สินค้าจีนทะลักทุบซัพพลายเออร์เอสเอ็มอีเจ๊ง กระทบต้นทุน-ส่งมอบของช้า
11 มีนาคม 2567
มติชนออนไลน?
วันที่ 11 มีนาคม นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ”ซัยโจเด็นกิ” เปิดเผยว่า ปัจจุบันจากภาวะเศรษฐกิจและมีสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเครื่องเคียง ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ เช่น สายไฟ ที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ต้องเลิกทำธุรกิจ เนื่องจากลูกค้าไม่มี เพราะหันไปซื้อสินค้าราคาถูกจากจีนกันจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าที่ต้องใช้เวลามากขึ้น รวมถึงต้นทุนของบริษัท เนื่องจากบริษัทต้องเพิ่มคนและทำการผลิตเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินจำนวนเงินที่ต้องลงทุนเพิ่ม และมีแนวโน้มต้นทุนการผลิตจะสูงกว่าที่ซัพพลายเออร์ผลิตให้
Puangthong Pawakapan
5h·
ขณะที่รัฐบาลเดินหน้าขายกางเกงช้างตัวละ 100-200 ผ้าคะม้า ผ้าไทย ข้าวเหนียวมะมะม่วง หรือสินค้าที่มี value added ต่ำมาก สินค้าอุตสาหกรรมและเอสเอ็มอีไทยกำลังจะตายเพราะแข่งกับสินค้าจีนไม่ได้
.....
ผู้ผลิตแอร์โอด สินค้าจีนทะลักทุบซัพพลายเออร์เอสเอ็มอีเจ๊ง กระทบต้นทุน-ส่งมอบของช้า
11 มีนาคม 2567
มติชนออนไลน?
วันที่ 11 มีนาคม นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ”ซัยโจเด็นกิ” เปิดเผยว่า ปัจจุบันจากภาวะเศรษฐกิจและมีสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเครื่องเคียง ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ เช่น สายไฟ ที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ต้องเลิกทำธุรกิจ เนื่องจากลูกค้าไม่มี เพราะหันไปซื้อสินค้าราคาถูกจากจีนกันจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าที่ต้องใช้เวลามากขึ้น รวมถึงต้นทุนของบริษัท เนื่องจากบริษัทต้องเพิ่มคนและทำการผลิตเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินจำนวนเงินที่ต้องลงทุนเพิ่ม และมีแนวโน้มต้นทุนการผลิตจะสูงกว่าที่ซัพพลายเออร์ผลิตให้
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทมีแผนลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อเพิ่มตัวซัพพอร์ตการผลิตสินค้าใหม่ ในการอัพเกรดสินค้าให้มีคุณภาพ มีความเย็นและสามารถประหยัดไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มออกวางจำหน่ายในตลาดช่วงปลายปีนี้ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม เนื่องจากกลุ่มระดับล่าง ยังมีปัญหาภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้จากการที่บริษัทได้ปรับแผน เซ็ตอัพตัวเอง เพิ่มสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาด ประกอบกับสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นทั่วโลก จะทำให้ยอดขายในปี 2567 เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 1,300 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2566 ที่มียอดขายอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 10% โดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ต่างประเทศ 100 ล้านบาท ปัจจุบันซัยโจ เด็นกิ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 6-7% และเชื่อว่าใน 2-3 ปีต่อจากนี้ จะเติบโตมากยิ่งขึ้น
(https://www.matichon.co.th/economy/news_4466636)