วันพฤหัสบดี, มีนาคม 14, 2567

สัมภาษณ์พิเศษ ‘วรเจตน์ ภาคีรัตน์’ โดยประชาไทและอธึกกิต แสวงสุข เกี่ยวกับความเห็นต่อคดีพรรคก้าวไกล บทสัมภาษณ์ตอนที่ 1"ศาลมัดรวมทุกอย่างจนภาพเบลอ"


ความเห็น 'วรเจตน์' ต่อคดีพรรคก้าวไกล (1) : ศาลมัดรวมทุกอย่างจนภาพเบลอ

Prachatai

Mar 13, 2024 
#กกต #ศาลรัฐธรรมนูญ #พิธา

สัมภาษณ์พิเศษ ‘วรเจตน์ ภาคีรัตน์’ ศาสตราจารย์และอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยประชาไทและอธึกกิต แสวงสุข คอลัมนิสต์อิสระ เกี่ยวกับความเห็นต่อคดีพรรคก้าวไกล หลังจากเว็บไซต์ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวของแต่ละตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 1 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา ในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกสร ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า การกระทำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อ “ล้มล้างการปกครองฯ” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การเสนอกฎหมายดังกล่าวนั้น ลดสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดําเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้ประโยชน์จากสถาบันฯ เพื่อหวังผลคะแนนเสียงและชนะการเลือกตั้งมุ่งหมายให้สถาบันฯ อยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทําลายเป็นเหตุให้ชํารุดทรุดโทรม เสื่อมทรามหรืออ่อนแอลง นําไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด จึงสั่งการให้ผู้ถูกร้องเลิกการกระทำการต่างๆ เพื่อให้มีการยกเลิกมาตราดังกล่าวอีก
 
บทสัมภาษณ์แยกเป็น 3 ตอน สำหรับตอนที่ 1 นี้ เป็นความเห็นต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่สร้างอำนาจศาลมหาศาล “ตัดวงจรอื่น โฉบเข้ามาเอาอันนี้ไปตัดสินคดี” ทั้งที่ผู้ร้องเคยร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ กกต.ไม่รับ รวมทั้งตุลาการอย่างน้อย 4 คน เห็นว่าเสนอแก้ มาตรา 112 ต่อสภาไม่ผิดมาตรา 49 แต่กลับไม่มีการแยกโหวตประเด็นนี้ จึงออกมาเป็นคำวินิจฉัยกลาง 9:0
 
สามารถติดตามตอนต่อไป "ความเห็น 'วรเจตน์' ต่อคดีพรรคก้าวไกล (2) : เราอยู่ในระบอบอะไร?” รวมถึงคลิปสัมภาษณ์เต็มได้ที่ช่อง YouTube: Prachatai 


https://www.youtube.com/watch?v=BuE-aMNJrNI