.jpg)
.jpeg)
“นอกจากนี้ การดำเนินการครั้งนี้ยังไม่ชอบธรรม เนื่องจากทำอย่างรวบรัด” ก็คือ ๑ วันก่อนจะมีการโหวตเลือกตัวนายกรัฐมนตรีในรัฐสภา เป็นช่องทางให้บรรดา สว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร สกัดกั้นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ด้วยการงด หรือไม่ไปออกเสียง
มันเป็นจังหวะจะโกลนพอดีกับศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดประชุมเมื่อวาน ก็แอ่นร่าง (ฝรั่งเรียก ‘bend over backward’) สอดรับลูก ที่ กกต.ชงมาพอดี ถึงจะไม่วินิจฉัยในทันใดให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที รอวันที่ ๑๙ ก.ค.นี้ยังใช้ได้
เช่นกันกับการประชุมรัฐสภาในวันนี้เพื่อการเสนอชื่อ อภิปราย และโหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะมี สว.มากน้อยเท่าไรที่ขออยู่เฉยๆ ไม่ออกเสียง ซึ่งถ้าจำนวนมากพอ ก็ทำให้การโหวตด้วยเสียง ส.ส. ๘ พรรค ๓๑๒ เสียงไม่พอให้ผ่าน
ค่อนข้างแน่ว่า การอภิปรายในวันนี้จะดุเดือดหรือเผ็ดมัน ยืดเยื้อและลากยาว จนต้องยกไปว่ากันต่อวันที่ ๑๙ ก.ค.เช่นกัน จะอย่างนั้นอย่างนี้อย่างไรก็ตามที ฝ่ายนักกิจกรรมที่เคยทะลุเพดานกันมาแล้ว ประกาศเดินหน้าด้วยการปราศรัยของ อานนท์ นำภา
“ทั้ง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ก็เล่นแผลงๆ พร้อมกัน เหมือนนัดหมายกันส่งสัญญานให้คนลงถนนได้แล้ว” ข้ออ้างของ Yingcheep Atchanont แห่ง ‘ไอลอว์’ ที่ตีความเอาจากถ้อยคำปราศรัยของอานนท์ “ขอแรงเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมครับ”
ในบรรยากาศของ #ม็อบ12กรกฎาคม66 “พรุ่งนี้อย่าเพิ่งลางาน เพราะท่านจะต้องลางานอีกหลายวัน” แต่ว่า “เลิกงานแล้วเจอกันที่หน้ารัฐสภา” เขาหมายถึงวันนี้แหละ บอกว่าใครมีงานประจำหรือทำราชการ ให้ไปตอนเช้าเลยหรือบ่ายๆ
อานนท์ว่า “อย่าไปคิดเรื่องแก๊สน้ำตา เรื่องที่ฉีดน้ำ พวกเรามีประสบการณ์มาแล้วสามปี” ตำรวจก็ทำอย่างที่อานนท์คาดหมายนั่นแหละ “นำลวดหนาม และ #ตู้คอนเทนเนอร์ ๔๐ ตู้ ปิดกั้นพื้นที่รอบรัฐสภา เตรียมพร้อมรถฉีดน้ำแรงดัน”
ใครที่พยายามเบี่ยงบ่าย ไม่อยากรับรู้สถานการณ์ จะวันนี้หรืออีก ๕ วันข้างหน้า สถานการณ์มันวิ่งมาหาเองแล้ว ด้วยผลแห่งแรงปั่นโดย กกต.และศาล รธน. ซึ่งทั้งคู่เกิดอยู่และมีมาเพราะ ‘ตู่ตั้ง’ ทั้งนั้น
(https://news.ch7.com/detail/657074, https://www.facebook.com/pow.ilaw/posts2KSTcDje1TV และ https://www.youtube.com/watch?v=o_yvcnTKkLI)
