วันศุกร์, กรกฎาคม 21, 2566

‘วิโรจน์ ลักขฯ’ ประกาศเอาคืน ต่อการถูกจารกรรมฉันทามติของพรรคก้าวไกล

#เดี๋ยวกูเอาคืนให้ คำพูดของ วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ต่อการถูกจารกรรมฉันทามติของพรรคก้าวไกล อาจไม่ถึงกับ “เป็นกลยุทธ์ที่เหนือความคาดหมาย” ดังที่ หนุ่มเมืองจันท์ คอลัมนิสต์เด่นค่าย มติชน เอ่ยถึงไว้

หากแต่เป็นสัญชาติญานการฮึดสู้ ที่รู้แน่ว่าตนเองยังไม่ได้แพ้ เพียงแค่เพลี่ยงพล้ำต่อการถูกอาเปรียบ ที่ต้องเอาคืน “ถ้าเกิดผมร้องไห้ แล้วเพื่อนผมได้กลับมามั้ยล่ะ ไม่มีประโยชน์ ผมแค่จำภาพไว้”

เขาเล่าถึงตอน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินออกจากห้องประชุมสภา “ผมมองพิชาก่อน (เดิน) ออก แล้วผมจำไว้ว่า ซักวันนึง ผมจะคืนความเป็นธรรมให้กับเพื่อนผม” นั่นเป็นความหมายที่เขาโยงใยถึงยุทธวิธีที่ว่า “ต้องหน้าด้านกว่า

สรกล อุลยานนท์ เขียนสเตตัสตอนหนึ่งถึงวิโรจน์ลักขฯว่า “ภาพในใจของเขาไม่มีเลยที่พรรคก้าวไกลจะออกมาแถลงข่าวบอกว่าจะถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล...ที่สำคัญก็คือ คนในพรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับแนวทางนี้”

วิโรจน์ลักขฯ คุยนอกจอกับกรรมกรข่าว อย่างมั่นหน้าถึงการคุยในพรรค เกี่ยวกับการร่วมรัฐบาลโดยเป็นเบี้ยรองบ่อน แต่เสียงมากกว่าครั้งนี้ว่า “จุดยืนต้องมี แต่ต้องยืดหยุ่น ไม่ได้ถอยทุกเรื่อง ท่ามกลางแรงกดดันให้ก้าวไกล ถอยออกไป

“...เราก็จะอยู่ เพื่อเป้าหมายสำคัญที่สุด คือ ปิดสวิทช์ ๓ ป. สู้กับทุนผูกขาด ทำให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนดีขึ้น ฯลฯ” เขายังเอ่ยถึงคำสอนของพ่อซึ่งล่วงลับไปแล้ว ว่าคนน่ากลัวที่สุดคือ คนหน้าด้านซึ่งมาได้เจอะเจอจังๆ

“ถ้าเราชนะ เขาก็จะโกง โกงไม่ได้ก็เปลี่ยนกติกา” เขาว่าถ้าสู้กับคนแบบนี้จึง ต้องหน้าด้านกว่า

(https://www.facebook.com/boycitychanFC/posts/2q2Ncde54Egq)