วันอังคาร, กรกฎาคม 18, 2566

ตรรกะเพี้ยนๆ ช่วงนี้ใช้กันมาก ในหมู่พวกสกัดกั้นรัฐบาลก้าวไกล

พรุ่งนี้งานใหญ่สำหรับพรรคก้าวไกล ไหนจะศาลรัฐธรรมนูญกำหนดพิจารณาคำร้องให้วินิจฉัย สมาชิกภาพ ส.ส.ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดหรือไม่ แล้วยังเป็นวันประชุมสภา เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ รอบที่สอง

ประเด็นการเสนอชื่อพิธาซ้ำอีกในตำแหน่งนายกฯ ซึ่งมีเสียงค้านบอกว่า เสนอไม่ได้เพราะญัตติพ้นแล้วพ้นเลย ไม่มีการนำมาพิจาณาซ้ำ อันนี้ ปิยบุตร แสงกนกกุล ตอบแล้วว่าการเสนอบุคคลดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่ญัตติ จึงเสนอได้

เปราะนี้ผ่านไปสู่เปราะใหญ่ ที่ว่าถ้าโหวตไม่ผ่าน ก้าวไกลจะยินดีเสนอให้เพื่อไทยเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลแทน ทางเพื่อไทยที่เตรียมพร้อมมาหลายเดือน แถลงทันใด “ประเทศชาติต้องไปต่อได้แล้ว” แพทองธาร ชินวัตร ขานรับทันใด

“ชัดเจนว่าจะเสนอ 'เศรษฐา ทวีสิน' @Thavisin เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นชื่อแรก สามแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยจะร่วมกันทำงาน และจะร่วมกับ 8 พรรค เหมือนเดิม ย้ำการเสนอชื่อและโหวตนายกฯต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน ไม่อยากทำให้สังคมสับสน

“จริงๆ แล้วเราต้องโฟกัสว่า เราจะจัดตั้งรัฐบาลเมื่อไร จะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ยังไง เมื่อพร้อมทำงาน...แต่ก็เข้าใจว่า กติกาตามรัฐธรรมนูญไม่ปกติ มีกับดักมากมาย ฉะนั้นเราต้องผ่านตรงนี้ไปให้ได้” อันนี้ อุ๊งอิ๊ง พูดได้ดีกว่าภูมิธรรม เวชยชัย

ตรงที่ไม่ได้เร่ง ไม่ลุกลี้ลุกลนจนเนื่อเต้นแบบคุณพี่อ้วนเค้า อีกทั้งประเด็น ม.๑๑๒ ก็ไม่ใช่ปัญหา จะต้องไปวิงวอน สว.หรือพรรคร่วมรัฐบาลชุดที่แล้ว ปัดทิ้งไปได้กับคำพูดโอหังของ ชาดา​ ไทยเศรษฐ์ แห่งพรรคภูมิใจไทย ที่ว่า

ข้อเสนอลดเพดานนโยบายแก้ไขกฎหมาย ม.๑๑๒ แล้วจะโหวตให้ เก็บเข้ากรุหมดแล้ว เสนอแค่วันนั้นวันเดียว ในเมื่อก้าวไกลไม่เอา ก็จบกัน อีกทั้งกรณีถือหุ้นสื่อของชาดา เจ้าตัวบอกว่าไม่เกี่ยว เนื่องจากเป็นเรื่องในต่างประเทศ

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อีกคนซึ่งเป็นผู้ร้องสกัดก้าวไกล พูดอย่างยะโสว่า ก็ “ตรวจแล้วไม่เจอ” นิ “ไม่ร้องพร่ำเพรื่อ” การใช้ตรรกะอย่างเพี้ยนๆ และบิดเบี้ยวเหล่านั้น ได้เห็นมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ เอามาใช้อ้างเหตุต่างๆ นานา เพียงแค่ไม่ให้ก้าวไกลไปรอด

(https://www.matichon.co.th/politics/news_4085593 และ https://thaipbs.or.th/news/content/329774)