วันเสาร์, กรกฎาคม 08, 2566

"....ยุทธศาสตร์ของก้าวไกลก็อาจไม่ใช่การยึดกุมอำนาจรัฐเสียก่อน แต่คือการยึดกุมพื้นที่ความคิดก่อนแล้วค่อยได้อำนาจรัฐ ตรงข้ามกับเพื่อไทยที่อาจต้องการได้อำนาจรัฐแล้วค่อยขยายพื้นที่ยึดกุมความคิด"

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/pfbid09QocpuLoWvGLSicruKx6X7SRQvgHjznvH5d3gMMb583pavMyGmtVMTpFGv4JuYGPl?ref=embed_post
Atukkit Sawangsuk
15h
·
เปรียบเทียบดีครับ
(FC ก้าวไกลควรเข้าใจวิธีคิดของทักษิณ-ไทยรักไทยในยุคนั้น)
แต่ผมคิดว่ามันเป็นคนละยุคสมัย ภววิสัยเปลี่ยนไป
คือยุคสมัยของก้าวไกล มันเป็นโลกดิสรัปต์ที่ประชาชนเหลืออดจนพร้อมจะชนตรงๆ
...................................
"....ยุทธศาสตร์ของก้าวไกลก็อาจไม่ใช่การยึดกุมอำนาจรัฐเสียก่อน
แต่คือการยึดกุมพื้นที่ความคิดก่อนแล้วค่อยได้อำนาจรัฐ
ตรงข้ามกับเพื่อไทยที่อาจต้องการได้อำนาจรัฐแล้วค่อยขยายพื้นที่ยึดกุมความคิด
;
ตัวอย่างที่พอมองเห็นได้ก็คือในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำของพรรคไม่ได้แสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับเครือข่ายพลังจารีตและอนุรักษนิยมเลย
ดังนั้น คู่แข่งตัวฉกาจของเขาโดยหลักแล้วจึงมีแต่เพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นกลุ่มอำนาจเก่าเท่านั้น
ทักษิณเก็บงำความคิดในการปฏิรูปไว้ลึกๆ หลังจากนั้นจึงค่อยเผยแสดงออกมาภายหลังเมื่อเข้าสู่การเป็นรัฐบาลแล้ว
:
ทัศนะ ท่าที ตลอดจนแนวคิดเชิงปฏิรูปและปฏิวัติดังกล่าวนี้ไม่ได้แสดงออกมากนักผ่านการปราศรัย แต่แสดงตัวให้เห็นผ่านนโยบายต่างๆ ในเชิงปฏิรูปและหลายนโยบายเป็นเชิงปฏิวัติ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน แท็กซี่เอื้ออาทร บ้านเอื้ออาทร ทุน ODOS เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การประกาศสงครามกับยาเสพติด นโยบายสุราเสรี หวยบนดิน การปรับเปลี่ยนการแบ่งกระทรวงครั้งใหญ่ เป็นต้น
:
การที่รัฐบาลไทยรักไทยภายใต้การนำของทักษิณเข้ามาก่อนแล้วค่อยเปิดหน้า ทำให้สามารถสร้างผลงานได้เป็นจำนวนมากโดยไม่ชนกำแพง กระทั่งผ่านไปหลายปี กว่าที่เครือข่ายพลังจารีตจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว
;
ซึ่งตรงข้ามกับก้าวไกลที่เปิดหน้าก่อน ทำให้โดนกำแพงขวางเสียตั้งแต่แรก และชะงักติดหล่มอยู่ปากประตูรัฐสภามาจนถึงตอนนี้
แนวทางเช่นนี้เองที่ผู้คน สื่อมวลชน หรือแม้กระทั่งเหล่ากุนซืออาวุโสของพรรคต่างๆ มองว่าไร้เดียงสา
:
ทว่า หากไม่มองสถานการณ์นี้ว่าคือกับดักที่ก้าวไกลถูกล่อเข้ามา ก็อาจมองได้ว่านี่คือกับดักของก้าวไกลที่ล่อไอ้โม่งให้หลุดออกมาปรากฏตัวกลางแจ้งต่างหาก
ทั้งนี้ก็เพื่อเปลี่ยนสำนึกและความเข้าใจของผู้คนเสียใหม่ว่าใครเป็นใครในสนามการเมืองทั้งหมด