วันอังคาร, กรกฎาคม 11, 2566

6 ผบ.เหล่าทัพ มีพันธะความรับผิดชอบที่จะต้องโหวตนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างมากของประชาชน ประชาชนมีสิทธิเรียกร้อง กดดัน หรือประณาม หากไม่โหวตตามเจตจำนงประชาชน ซึ่งเป็นผู้เสียภาษีเลี้ยงข้าวสุก


Atukkit Sawangsuk
5h ·

6 ผบ.เหล่าทัพ มีพันธะความรับผิดชอบที่จะต้องโหวตนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างมากของประชาชน
ประชาชนมีสิทธิเรียกร้อง กดดัน หรือประณาม
หากไม่โหวตตามเจตจำนงประชาชน
ซึ่งเป็นผู้เสียภาษีเลี้ยงข้าวสุก แต่กองทัพกลับมีอภิสิทธิ์เหนือประชาชน
:
1.อย่าอ้างว่าเป็นกลาง งดออกเสียง
เพราะงดออกเสียงเท่ากับไม่เห็นชอบ
เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม ไม่พึงมี
มาขัดขวางนายกฯและรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
งดออกเสียงไม่ใช่เป็นกลาง
งดออกเสียงคือเอาท็อปบูทราน้ำ ขวางความมุ่งหวังของคนส่วนใหญ่
:
2.กองทัพมีพันธะรับผิดชอบ ต่อการที่ 6 ผบ.เหล่าทัพ โหวตให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ เมื่อปี 62
แม้ไม่ใช่คนปัจจุบัน ก็เป็นความรับผิดชอบของกองทัพ ที่มี 6 ผบ.เป็นตัวแทน
จะมาดัดจริตบอกว่าหลังจากนั้น งดออกเสียง ไม่รับเงินเดือน ฉะนั้นไม่โหวตนายกฯ
เพื่อปัดพ้นพันธะไม่ได้
:
ทำหล่อไปทำไม ปกติก็ไม่เข้าประชุมไม่ร่วมลงมติอยู่แล้ว
ทำลอยตัวเสมือนไม่อยากได้ไม่อยากเป็น
ทั้งที่กองทัพเป็นผู้ทำรัฐประหาร
ใช้อำนาจปืนจับกุมคุมขังปิดกั้นเสรีภาพ ยัดเยียดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเขียนให้ ผบ.เหล่าทัพเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง เป็นกรรมการยุทธศาสตร์ชาติโดยตำแหน่ง
การเสแสร้งเป็นกลาง งดออกเสียง จึงดัดจริตเห็นๆ
:
3.กองทัพอาศัยอำนาจรัฐประหาร
และการอ้างตนเป็น “ทหารของพระราชา”
สถาปนาอภิสิทธิ์เหนือประชาชน
มีผลประโยชน์ สนามมวย สนามม้า สนามกอล์ฟ บ้านพักตากอากาศ เต็มไปหมด
พรรคก้าวไกลมีนโยบายปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร โอนธุรกิจกองทัพมาเป็นของรัฐบาล
:
การที่ 6 ผบ.เหล่าทัพไม่โหวตให้พิธา
จึงเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน
“หวงชามข้าว” นั่นเอง