Pipob Udomittipong
January 31 at 9:43 PM ·
“แดงทั้งแผ่นดิน” TheEconomist ทำแผนที่แสดงความยากจนที่เพิ่มขึ้นในระดับที่แตกต่าง ๆ กันใน #เมียนมา ในโอกาสครบหนึ่งปี #รัฐประหาร ในรัฐห่างไกลอย่างยะไข่และชิน ความยากจนเพิ่มขึ้น 64% และ 72% #รัฐประหาร ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ศก.หดตัวลงอย่างน้อยหนึ่งในสาม เทียบกับกรณีที่ไม่มีโควิดหรือไม่มี #รัฐประหาร เราควรเข้าใจคนเมียนมาที่พยายามหลบหนีเข้ามาหางานทำ
ตามตัวเลขของรบ.พลัดถิ่น NUG นับแต่ #รัฐประหาร ข้าราชการลาออกเพื่อประท้วงไม่น้อยกว่าสี่แสน หมอ พยาบาล จนท.อื่น ๆ ที่ประกาศต่อต้าน ผ่านการรณรรงค์ #CDM ถูกจับ ถูกทรมาน ถูกคุมขัง ทหารเมียนมาที่เคยสังหาร ข่มขืน ขับไล่แต่กลุ่มชาติพันธุ์อย่างโหดร้าย ฆ่าอย่างเดียวไม่พอ ยังข่มขืนเขา กินข้าว ปล้นสะดมทรัพย์สินในบ้านเขายังไม่พอ ยังถ่ายอุจจาระไว้ให้ดูต่างหน้า หรือไม่ก็เผาทั้งหมู่บ้าน “scorching the earth campaign”
แต่ความทารุณเหล่านี้ เดิมทหารเมียนมาทำกับกลุ่มชาติพันธุ์ แต่หลัง #รัฐประหาร คนเชื้อสายพม่าเองก็ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายแบบนี้เช่นกัน คนเชื้อสายพม่า นักกิจกรรมจึงเริ่มตระหนักถึงชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มชาติพันธุ์ ออกมาขอโทษขอโพยชาวโรฮิงญา รบ. NUG สัญญาจะคืนสัญชาติให้กับพวกเขา
แต่ต้องยอมรับว่าความขัดแย้งและการกดขี่ทางชาติพันธุ์ในเมียนมา สิ่งที่ชาติพันธุ์หลักอย่าง ”พม่า” กระทำต่อชาติพันธุ์กลุ่มน้อย เกิดขึ้นมานานเป็นทศวรรษ รบ. NUG เองยังไม่ได้รับความไว้วางใจอย่างเต็มที่จากกองกำลังชาติพันธุ์ ดังนั้น แม้กองทัพเมียนมาจะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการเอาชนะจิตใจและความคิดของประชาชน และต้องต่อสู้กับกองกำลังชาติพันธุ์ที่ทุกที่ ท่ามกลางการ “หนีทหาร” การลดลงของคนที่สมัครใจเป็นทหาร แต่ตอนนี้ฝ่ายต่อต้านก็ยังรวมตัวกันไม่ติด ไม่สนิทใจ คงต้องทอดเวลาอีกหลายปี กว่าจะเกิดความขัดแย้งในชนชั้นนำของกองทัพเมียนมา ที่นำไปสู่ความอ่อนแอในที่สุด
https://www.economist.com/.../myanmars-generals-have...