วันพุธ, กุมภาพันธ์ 02, 2565

‘พี่โทนี่’ ลั่นคลับเฮ้าส์ “ผมกับประยุทธ์ไม่ใช่ศัตรู” และ “ธรรมนัสเขาเคยอยู่เพื่อไทยด้วย เราเคยรู้จักกันดี”

พี่โทนี่ไปพูดที่คลับเฮ้าส์เมื่อวาน จุดประทัดตรุษจีนลั่นไปเหมือนกัน เมื่อมีคนถามว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โพสต์เฟชบุ๊คหลังจาก มาดามหลีแพ้เลือกตั้งซ่อมหลักสี่อย่างอัปลักษณ์ ท่านคิดอย่างไร คำตอบของลุง วู๊ดซัมทำให้ต้องตีความกันใหญ่

เสี่ยแป้งเขียนตอนหนึ่ง ใช้ภาษาอังกฤษว่า “the enemy of my enemy is my friend.” ซึ่งหมายถึง “ศัตรูของศัตรู คือมิตร” นั้นทอดสะพานเพื่อให้ตัวเขาและ ส.ส.ในสังกัด ๑๘ คน ข้ามมาอยู่ฟากนี้กับ เพื่อไทยหรือไร ในฐานะที่ธรรมนัสเองก็ศิษย์เก่า

คำตอบของโทนี่ที่ว้อยซ์ทีวีทำกร๊าฟฟิคแค้ปชั่นไว้คงจะหวือหวามากไปหน่อยมัง เมื่อตอนสายวันนี้ Thanapol Eawsakul โพสต์ว่า “อ้าว วอยซ์ทีวี ต้นทางลบโควตนี้แล้วนะครับ” ถ้าอย่างนั้นเอาเนื้อหารายงานของ Noppakow Kongsuwan มาดูกันดีกว่า

“ต้องถามคุณธรรมนัสเอง เพราะจะตอบได้ดีกว่า ว่าใครเป็นศัตรูของศัตรูแก แล้วใครเป็นมิตรแก ซึ่งผมคงไม่ใช่” หลุดไปเปราะหนึ่งละ “ผมกับประยุทธ์ไม่ใช่ศัตรู ประยุทธ์เป็นรุ่นน้องผม ตอนผมเป็นนายกฯ ผมเซ็นรับสนองฯ ให้เขาเป็นนายพล

แต่การเมืองมีการแข่งขัน มีการลูบคมกัน แต่ไม่ใช่ศัตรู และผมก็ไม่ใช่ศัตรูของธรรมนัสด้วย ธรรมนัสเขาเคยอยู่เพื่อไทยด้วย เราเคยรู้จักกันดี” จะเห็นว่าโทนี่พูดถึงธรรมนัสในบริบทที่พัวพัน และพันตูอยู่กับประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างที่ผู้ติดตามการเมืองรู้ๆ กัน

“อาจตั้งใจดี แต่โลกเปลี่ยนเร็วมาก พล.อ.ประยุทธ์อาจไม่ทันวิธีคิด และพื้นฐานของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาจากประชาชน ความรักความเข้าใจประชาชนมีไม่เพียงพอ” นี่คือต้นเรื่องซึ่งโทนี่พูดถึงประยุทธ์ ก่อนจะไปถึงธรรมนัส แล้วยังเลยไปถึงการพ่ายแพ้ของ พปชร.

“ไม่แน่ใจเกิดอะไรขึ้น ยิงไม่เข้า ห้อยหลวงพ่อดีหรือไม่ ต้องยอมรับความอ่อนแอของรัฐบาลในวันนี้...อ่อนกำลังมาก สภาพแบบนี้ไม่มีใครมั่นใจรัฐบาลและลงทุนโครงการขนาดใหญ่ได้ ถ้าอย่างนี้ ถ้ารักบ้านเมืองจริงยุบสภาฯ ให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า”

รูปการณ์มันเลยไปคล้อยคล้ายกับที่ ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ตีความไว้ในรายการของเขา ที่วิเคราะห์ว่าเพื่อไทยไม่ควรที่จะอ้าแขนรับธรรมนัสกลับเข้าสู่อ้อมกอดอีก เพราะเขาเล่นการเมืองอันตราย ดังผลที่เกิดกับประยุทธ์ หากไปอยู่เพื่อไทยจะรับมือเขาไหวไหม

ธรรมนัสใช้ไพ่เพื่อไทยไปบลั๊ฟประยุทธ์ แต่ในขณะเดียวกัน ทักษิณ ชินวัตร ก็ใช้ยุทธวิธี ไม่แค้นประยุทธ์ และ “เคยรู้จักกันดี” กับธรรมนัส ทั้งบลั๊ฟและลูบหลัง เปิดทางและปูพรมให้เขาได้กลับไปกราบแผ่นดินไทยอีกครั้งอย่างสะดวกด้วย

รายการคลับเฮ้าส์ของ แคร์ท้อคหัวข้อ “การเมืองไทยวิปโยค การเมืองโลกวิปริต” ครั้งนี้ ออกรสขึ้นไปอีกนิดเมื่อมี รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมแจมและเสริมว่า “ความขัดแย้งระหว่างประยุทธ์กับธรรมนัสไม่สามารถเยียวยาได้”

อีกทั้งเชื่อว่า “ความสัมพันธ์หรือจงรักภักดี (ของธรรมนัส) ต่อ พล.อ.ประวิตร ยังชัดเจน” เป็นคำตอบต่อคำถามของโทนี่ที่ว่า ประวิตรกับธรรมนัส “เป็นศัตรูกันด้วยหรือไม่” ซึ่งก็ทำให้มีผู้ฟังรายการบางรายกลับย้อนไปที่โทนี่เอง

“น้าแม้วไม่เห็นเขาเป็นศัตรู แต่พวกเขาและบริวารเห็นน้าเป็นศัตรูอ่ะ และนี่คือเหตุผลว่าทําไมผมไม่กลับไปเลือกเพื่อไทยอีก” Chattiya Waenphet เก็บเอาไปคอมเม้นต์ต่างกรรมต่างกาล “พอคุณไม่สู้เขาก็ต่อยคุณลงมาแบบนายกสมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์

ถ้าคุณต่อยเขาบ้างจะแพ้ชนะ คนเลือกคนเชียร์ก็มีกําลังใจเลือกเชียร์คุณต่อไป” แต่คนที่ยังเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูก็มีเยอะ แล้วเปิดสนามรบแบบจรยุทธกันมา เป็น แค้ทไฟ้ท์ระหว่างนางแบกกับติ่ง บางครั้งบางคราว ระดับหัวหมู่นายกองก็กระโจนลงไปคลุกด้วย

มันทำให้พวกซินแสแบบ เข่งๆ ปั่นเก่งยิ่งกว่าไอโอ ล่าสุดเห็นบอกว่าประยุทธ์กำลังดวงขึ้นมาก บารมีเยอะกว่าตำแหน่งนายกฯ การเปิดเวทีเลือกตั้งไปสู่ตำแหน่งนายกฯ อีกครั้งจึงไม่เพียงพอเสียแล้ว ต้องทำการยึดอำนาจช่วงชิงในสถานการณ์ระส่ำทั้งศึกนอกศึกใน

หากเช่นนั้น รศ.สิริพรรณ คิดว่า “จะมีอุบัติเหตุทางการเมืองรูปแบบไหนรูปแบบหนึ่ง (และ) ต้นทุนรัฐประหารครั้งนี้จะสูงมาก” ทั้งที่โทนี่กลับฟันธง “เรื่องปฏิวัติไม่น่าจะมี” แต่ไม่รู้ว่าถ้าเลือกตั้งมากลางปี จะเป็นรูปแบบไหนกันแน่” (เพื่อให้ได้ชัยชนะ)

จะอย่างไรก็ตาม ผู้ออกเสียงเลือกตั้งทั้งครั้งหน้าและต่อๆ ไป จะเป็นคนรุ่นใหม่มากกว่า เพราะคนรุ่นนี้มีมากขึ้น (ดัง อจ.สิริพรรณอ้างผลงานวิจัยของตน) และมีมุมมองต่อระบบการเมืองเปลี่ยนไปจากเดิม ชนิดที่คนรุ่นครองอำนาจปัจจุบันไล่ไม่ทัน

(https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162578981679848, https://www.facebook.com/Noppakow.kong/posts/1230826610659099 และ https://twitter.com/sirotek/status/1488761800313413632)