จุลเจิม ยุคล
20h ·
อยากจะถามคนไทยทั้งประเทศว่า ทุกคนพร้อมที่ปกป้องสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างถูกต้องและสมควร หรือยัง
….,,,,,ทางออกประเทศไทยมีทางเดียว ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ด้วยการสร้างการปกครองเสียใหม่ ตามแนวทางรัชกาลที่ ๗ ที่ได้ทรงวางแนวทางไว้เท่านั้น จึงจะเกิดสมดุลอำนาจในทางปกครอง
การเมืองที่ยึดติดระบอบเผด็จการต่อเนื่องยาวนานมา ๘๘ ปี ตั้งแต่ พ.ศ 2475 ที่ผ่านมาทำให้ประชาชนโง่เขลา ตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวอำนาจกฎหมายปิดปากและอำนาจกองทัพ จึงทำให้ปวงชนชาวไทยตกอยู่ในอำนาจเผด็จทุกรูปแบบ ที่บังคับให้คนหลงเชื่อว่าประเทศไทยมีการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งๆที่ลิดรอนพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์จนหมดสิ้น
คณะกบฏที่ยึดอำนาจพระมหากษัตริย์ วางแผนระยะยาวเพื่อให้หมดสิ้นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ให้ผู้สืบทอดอำนาจทำหน้าที่แทนพระมหากษัตริย์ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อราชวงศ์ว่างลง
นั่นก็หมายความว่า คณะเผด็จการต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์สิ้นสุดลงไปโดยปริยาย เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ที่ไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบอเมริกา ซึ่งไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์
คนไทยที่เคารพครับ ประเทศไทยแต่เดิมมานั้น พระมหากษัตริย์หาแผ่นดินให้เราอยู่ รวมตัวกันเข้ามาเป็นชาวแผ่นดินสยาม
เมื่อเราคิดจะที่ทำการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ทำไมไม่เปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แบบประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นพระราชประสงค์ของรัชกาที่ ๗.
แต่ปัจจุบันนี้คณะบุคคลที่บริหารประเทศได้พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะตัดสถาบันพระมหากษัตริย์ออกไปจากการปกครองประเทศ ตามหลักการเดิมของกบฏคณะราษฎร ๒๔๗๕
เรื่องนี้ประชาชนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคณะบุคคลที่สืบทอดอำนาจกันต่อๆมา ปิดบังข้อเท็จจริงมาโดยตลอด พยายามกีดกันประชาชนให้ห่างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเอามาตรา ๑๑๒ มาเป็นเครื่องมือ ทั้งๆที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ไม่ทรงเห็นด้วยกับการบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้
ในทางตรงกันข้ามผู้นำรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย พยายามที่จะสร้างภาพความจงรักภักดี ด้วยการจัดงานเฉลิมฉลองอลังการให้ชาวโลกและชาวไทยเห็นว่าผู้นำประเทศจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
เพื่อแสดงให้สังคมโลกยอมรับคบค้าสมาคมด้วย ว่าประเทศไทยปกครองครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตบตาชาวโลกและชาวไทยมาโดยตลอด ๘๘ ปี จึงเป็นที่มาของคำว่า "ลิงหลอกเจ้า"
เสียดายครับ ที่คนในประเทศมีการศึกษาสูงจนทำให้ "ต่อมแห่งความกตัญญูเสื่อม" ยังจะมีหน้าบังอาจประกาศยืนยันที่จะเดินหน้าประเทศไทย ด้วยนโยบายเนรคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ จนลืมคำทัดทานร้องขอ ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ หรืออย่างไร..?
จึงอยากจะถามคนไทยทั้งประเทศว่า ทุกคนพร้อมที่ปกป้องสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างถูกต้องและสมควรที่จะเป็นดังเช่นที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หรือยังครับพี่น้องไทย....??
หากทุกท่านพร้อมที่จะรวบรวมความกล้า ด้วยพลังแห่งความกตัญญู ต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ขอจงได้โปรดรีบสลัดความเขลา ความกลัว ลุกขึ้นมาพร้อมใจกันบอกกับผู้ถืออำนาจในขณะนี้ ให้รีบเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ให้เป็นไปตามแนวทางของรัชกาลที่ ๗ กันเถอะครับก่อนที่เราจะตายจากโลกนี้ ไปอย่างมีคุณค่าของความเป็นไทย
....... ........
ม.จ. จุลเจิม ยุคล
ขอบคุณ Thanit Promsatitsatitmsatit
...
แนวคิดที่จุลเจิมเอามา
Thanit Promsatit is at สยามประเทศแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์.
Yesterday at 7:20 AM · Bangkok, Thailand ·
.. ข้อแตกต่างที่สำคัญยิ่งของ ๒ แนวทางใน "ระบอบพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ"
๑. แนวทางของคณะราษฎร ก็คือ พระมหากษัตริย์ไม่มีอำนาจการปกครอง
๒. แนวทางของสมเด็จพระปกเกล้า ก็คือ พระมหากษัตริย์มีอำนาจการปกครอง
"อำนาจการปกครอง"ในระบบรัฐสภา ก็คือ ต้องมีตัวแทนหรือผู้แทนเป็นสมาชิกรัฐสภา
ตัวแทนสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็คือ ส.ว. หรือวุฒิสมาชิกที่ทรงแต่งตั้งโดยตรง
ตัวแทนของราษฎรทั้งหลาย ก็คือ ส.ส. หรือผู้แทนราษฎรที่ได้จากการเลือกตั้ง
นี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นของการปกครอง "ระบอบพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ" หรือที่เรียกว่า Limited Monarchy หรือ Constitutional Monarchy หรือ เรียกว่า ระบอบปรมิตตาญาสิทธิราชย์ หรือ เรียกสั้นๆว่า ระบอบรัฐธรรมนูญ
ระบอบรัฐธรรมนูญที่แท้จริง เป็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ที่มีหลักการประชาธิปไตย และมีตัวแทนของปวงชนอย่างสมบูรณ์ เป็นการปกครองที่การันตีได้ว่า จะไม่เกิด การ Coup d'eata (รัฐประหาร) ได้อีกเลย เพราะได้เกิด Revolution (ปฏิวัติ) ขึ้นแล้วในประเทศไทย