วันอาทิตย์, กันยายน 05, 2564

ยุทธวิธีใหม่ฝ่ายรัฐ ใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็วของนครบาลเข้ามาสนับสนุน คฝ.ไล่ล่าจับกุม


Nattharavut Kunishe Muangsuk
Yesterday at 2:23 PM ·

แว๊นฝูงนี้ไม่ใช่วัยรุ่นทะลุแก๊ส แต่เป็นการปรับยุทธวิธีให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วของนครบาลเข้ามาสนับสนุน คฝ.ไล่ล่าจับกุม เพราะที่กำราบม็อบดินแดงไม่ได้ และยืดเยื้อต่อเนื่องเพราะพ่ายแพ้จรยุทธ์มอเตอร์ไซค์ของลูกหลานคนจนเมืองที่เร็วทะลุตรอกซอกซอย มันรู้ถนนหนทางมากกว่าสายตรวจนครบาลและฝีมือขับขี่คล่องกว่าตำรวจในชุดเทอะทะเพราะเด็กพวกนี้ใช้ชีวิตอยู่หลังอานมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ขายันพื้นไม่ถึง ออกมาด่า จุดพลุปา คฝ.รุกมาก็บิดหนี คฝ.ถอยก็มาใหม่ ปืนยิงแก๊สก็ไม่กลัว กระสุนยางก็ไม่หวั่น แถมเปิดหลังโชว์รอยเย้ยอีก ขึ้นยิงบนทางด่วนก็แล้ว จับเท่าไหร่วันรุ่งก็มาใหม่ เหลือแต่ใช้กระสุนจริงแบบเปิดเผย
.... (ตัดทอนจากบทสัมภาษณ์)
แต่ตำรวจไม่มีทางเอาลง วัยรุ่น-เยาวรุ่นทะลุแก๊สยืนยันด้วยความเชื่อมั่นเหมือนกันว่าจะสู้จนกว่าพลเอกประยุทธ์ลาออก พวกเขาทุ่มสุดตัว เทหมดหน้าตัก กลางวันหาเงิน(ด้วยวิธีบริสุทธิ์โปร่งใส)เพื่อไปซื้อพลุ จัดหาอุปกรณ์ไทยประดิษฐ์เพื่อลงสมรภูมิทุกวัน ต่อให้ คฝ.ไม่มาก็จะไปรวมตัวที่เดิม เวลาเดิม ส่วนจะพักรบบ้างไหมแล้วแต่อารมณ์และระดับความอ่อนล้า ทุกอย่างมันมาขั้นนี้ด้วยความคับแค้นที่หล่อเลี้ยงหัวใจ
"แม่กับพ่อผมไม่มี แม่ตายไปตอนผมเด็กๆ พ่อมีครอบครัวใหม่ มีแต่ยายขายก๋วยจั๊บ แต่ขายไม่ได้มาหลายเดือน แกป่วยด้วย ผมไม่อยากให้ออกไปเสี่ยงโรค ผมเลยวิ่ง....(ไรเดอร์ค่ายหนึ่ง)ช่วงกลางวัน ช่วงเย็นก็นัดเจอกับพรรคพวกที่นี่" โจ้ เด็กที่เกิดในตรอกแห่งหนึ่งย่านประชาสงเคราะห์บอก
"ไปแว๊นยังห้ามพวกผมไม่ได้เลย เสี่ยงกว่านี้อีก นี่ออกมาประท้วงการเมือง แม่ไม่ว่าครับ แต่แกบอกอย่าให้โดนจับก็พอ ไม่มีเงินประกัน" บี้ หนุ่มน้อยที่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กชายเล่า เขาใช้เวลากลางวันเรียนออนไลน์ ส่วนช่วงเย็นถึงค่ำเมื่อก่อนเคยขับรถเล่นกับเพื่อน ตอนนี้มารวมกลุ่มกันที่แยกดินแดงทุกวัน
"ให้นั่งเถียงเรื่องประชาธิปไตย พวกผมพูดผิดๆ ถูกๆ อายเขาพี่ แต่ถ้าเรื่องปากท้อง อันนี้พวกผมรู้ คือมันลำบากกันหมดอ่ะ อย่าอ้างเรื่องโรคเลย ก่อนโควิดก็แย่นะ เรารู้กระเป๋าตังค์พ่อแม่ พ่อผมเป็นลูกจ้างชั่วคราวของ กทม.เงินเดือนแทบไม่พอกินอ่ะบอกตรงๆ แม่ทำงานโรงงานที่อ้อมใหญ่ โดนตัดโอทีตั้งแต่สองปีก่อน มาเจอโควิดรอบก่อนเขาลดคนงาน แม่สมัครใจลาออก ได้เงินมาลงทุนรับของกิฟท์ช็อปมาตั้งแผงขายที่....(ตลาดค่ำแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง) พอล็อคดาวน์ จบเลย เงินลงทุนไปหลายหมื่นเกลี้ยง หางานใหม่ไม่ได้ ผมเลยมาเป็นไรเดอร์ เพราะโรงเรียน(อาชีวะแห่งหนึ่ง)ปิด ก็พอให้แม่กับน้องๆ ไม่อดข้าว แต่ไรเดอร์มันเยอะ ยอดมันไม่ดีหรอกเพราะต้องแบ่งๆ กัน จะทนให้นายกฯคนนี้ แล้วก็ไอ้พวกรัฐบาลที่มีรัฐมนตรีค้าแป้งบริหารประเทศไม่ได้หรอกพี่" แม็กซ์ วัย 18 ปีบอก
"ทุกคนแค้นหมด แค้นตั้งแต่มันทำกับเราครั้งแรก ตอนไหนนะ ช่วงกลางเดือนสิงหา ตอนนั้นพวกผมยังไม่เคยไปม็อบเลย ชวนกันมาแค่จะเดินไปบ้านนายกฯ แล้วตำรวจมันมาฉีดๆ ยิงๆ ไอ้ฉิบหาย ตอนนั้นเรายังไม่มีพลุ ไม่มีหนังสติ๊กเลย แค่มาร่วมเฉยๆ นี่เพื่อนเรากี่คนแล้วอ่ะที่โดนยิงกระสุนจริง แม่ง พวกใครตำรวจก็รู้ที่มันทำ ผมไม่รู้นะว่าตำรวจมันแค้นอะไรกับม็อบไล่รัฐบาล แต่มึงจะเป็นหมารับใช้บ้าคลั่งให้ประยุทธ์ไม่ได้ เราคือประชาชนนะเว้ย พ่อแม่มึงก็คนจน เพราะถ้ารวยมึงติดดาวเป็นนายร้อยไปแล้ว"
"ตอนนั้นอ่ะสันติวิธีโคตรๆ เลย แต่ก็โดนทำ ทีงี้มาหาว่าเรารุนแรง จริงๆ มีแต่พลุทำให้มันกลัว หนังสติ๊กตอบโต้ไปบ้าง เหล็กแป๊บถืออย่างเดียวไม่เคยวิ่งไปตี แต่ถ้าจะให้ใช้ปืนอ่ะ พี่นึกดูนะชีวิตเราอ่ะของ(อาวุธปืน)หาไม่ยากหรอก ถ้าอยากทำทำไปนานแล้ว เหมือนล่อกันเวลาเจอแว๊นต่างถิ่น แต่นี่กับตำรวจเราไม่ทำ ก็ห้ามๆ กัน อย่าใช้ของนะ เราเข้าใจว่าเจ็บแค้น แต่ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น ยิงไปอ่ะไม่ยาก แต่ผลตามมามันเดือดร้อนกันหมด กระทบไปเยอะ ไอ้ตำรวจตัวเล็กๆ อ่ะตาย แต่ไอ้ประยุทธ์ยังอยู่สบาย มันไม่คุ้มหรอก ตอนนี้อ่ะสู้ด้วยใจจริงๆ พี่" โจ้ยืนยัน ก่อนหันไปทางเพื่อนชื่อโชคให้พูดบ้าง
"ตอนแรกผมไม่ได้สนใจการเมืองเลย ยังใช้ชีวิตเรื่อยๆ เปื่อยๆ ของผมไป แต่พ่อผมขับแท็กซี่ครับ ก็ไม่ต้องอธิบายเรื่องความแย่เนอะ รถคืนอู่ไปแล้วเพราะขับไปก็ไม่พอค่าเช่า แกติดโควิดสองเดือนก่อน รักษาหายแล้วแต่ยังไม่ค่อยมีแรง ก่อนหน้านี้แกด่ารัฐบาลนี้ทุกวัน ด่าจนผมต้องมานั่งนึก เออ จริงว่ะ เหี้ยจริง นี่พอมีม็อบมาประจำตรงนี้ผมเลยออกมาทุกวัน มึงทำพ่อกูเจ็บ มึงต้องชดใช้"
ฯลฯ
(รออ่านฉบับเต็มนะครับ)