วันอาทิตย์, มกราคม 10, 2564

เรื่องที่เกี่ยวกับทักษิณที่บางคนอาจยังไม่รู้



Phattita Cheraiem
14h ·

ทักษิณถูกโจมตีว่า ซื้อเสียงอย่างหนัก จึงชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ซึ่งพรรคการเมืองที่โจมตีเรื่องนี้มากที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์

แต่ทักษิณนั้น ใช้เวลาถึงสองปีในการจ้างทีมวิจัยชั้นยอดเพื่อศึกษาว่าจริงๆ แล้วอะไรคือปัญหาของประชาชนไทยและประชาชนไทยต้องการอะไร แล้วก็จึงออกนโยบายมาหาเสียง

สิ่งนี้คือสิ่งใหม่ ก่อนหน้าที่ทักษิณจะมา ไม่มีพรรคไหนคิดจะมีนโยบายจริงจังอะไร ขอแค่ระหว่างเป็นรัฐบาลมีน้ำมีถนนมีไฟ มีศาลาพักข้างทาง(ติดชื่อเบ้อเริ่ม) แค่นี้ก็พอ ที่เหลือก็อาศัยการบริหารลมปากไปวันๆ เหมือนที่เราเบื่อข่าวช่อง 3, ช่อง7 เวลาออกข่าวเรื่องสนามบินหนองงูเห่านั่นแหละ

ก่อนหน้าทักษิณ ไม่มีพรรคไหนจริงจังและจริงใจบนฐานข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์แบบทักษิณ

ทักษิณสร้างวิสัยทัศน์และพันธกิจบนผลการวิจัย

และเมื่อเขาไปหาเสียง เขาบอกประชาชนว่า หากประชาชนขายเสียง ในราคา 100,200,500 หรือ 1,000บาท จะทำให้มีกินได้ 1วันบ้าง 2วันบ้าง หรืออย่างมากก็เป็นสัปดาห์ แต่ถ้าประชาชนเลือกรัฐบาลที่มีนโยบายที่ดี จะทำให้มีงานทำและมีกินตลอดชีวิต

ดังนั้นผมเลือกตั้งทันยุคทักษิณ จะเห็นว่า ทักษิณสร้างความหวัง ความมั่นใจและความเชื่อใจให้ประชาชนได้

ทักษิณสามารถพูดให้ประชาชนเห็นภาพความร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรืองอยู่ตรงข้างหน้าได้ หากถามว่าใครคือคนที่ทำลายกระบวนการซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้หมดจดที่สุด ก็ขอตอบว่า คือทักษิณ

ยิ่งสมัยที่2 ยิ่งชัด เพราะสิ่งที่ทักษิณพูดและสัญญาไว้กับประชาชน ถูกทำให้เป็นจริงทุกเรื่อง มันยิ่งชัดว่า ระหว่างเลือกเงินหลักร้อย กับ ได้ชีวิตที่ดี,ได้งานที่ดีและมีกินไปตลอดชีวิต ประชาชนจะเลือกอะไร

พวกที่เป็นคู่แข่งทักษิณนั่นเองจึงต้องซื้อเสียงอย่างหนัก เพื่อหวังเอาเงินฟาดหัวให้ชนะความศรัทธาที่คนมีต่อทักษิณ แต่ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอก ทักษิณสร้างเงินแสนเงินล้านบนที่กันดารของภาคอีสาน เอาเงินล้านมาให้หมู่บ้านบริหาร เอาสินค้า OTOP ขึ้นหิ้งตามห้าง เอาสินค้าเกษตรไปขายให้คนทั้งโลก ถ้าเป็นประชาชนไทยในยุคนั้นแล้ว ประโยคที่ว่ารับเงินหมากาพรรคทักษิณ ไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยใดๆเลย

เสียดายที่ทักษิณเองก็ยอมรับว่า เขา Naive ในทางการเมืองที่พอรู้ตัวอีกที Deep state ก็ลั่นระฆังว่า หมดเวลาของคุณแล้ว Deep State ไม่สามารถทนต่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนได้ เพราะยิ่งช่องว่างของความเหลื่อมล้ำลดลงมากเพียงใด เหล่า Elite ยิ่งสุ่มเสี่ยงจะสูญเสียสถานะอันได้เปรียบเพียงนั้น นั่นล่ะ ทรัพย์สินของพวกเขาจะสั่นคลอนลงด้วยทันที

นี่ล่ะ #มุมหนึ่งของทักษิณที่ผมเห็น

-พี่หมอ- 
.....
Thuethan Prasobchoke
17h ·

ในวันที่โดนรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นายกทักษิณจะออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ได้ประกาศออกทีวีช่อง 9 อสมท.เพียงช่องเดียว และประกาศไปได้ยังไม่ถึงครึ่งของเนื้อหา ก็ถูกทหารตัดสัญญานไม่ได้ออกอากาศต่อ
หลังจากนั้นนายกทักษิณได้ต่อโทรศัพท์หา พล.อ.สนธิ ซึ่งสิ่งที่พล.อ.สนธิพูดกับนายกทักษิณ มีเพียงแค่คำว่า “ครับผม ครับผม”
ซึ่งภายหลัง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เคยถาม พล.อ.สนธิในสภาว่า ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารของ พล.อ.สนธิ
คำตอบของ พล.อ.สนธิคือ “ถึงตายก็พูดไม่ได้”
เป็นคำตอบที่เหมือนไม่ตอบ แต่ทุกคนรู้คำตอบ
ว่า มันมีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ที่ควบคุมได้แม้กระทั่งหัวหน้าคณะรัฐประหาร และหัวหน้าคณะรัฐประหารแม้ถึงตายก็พูดไม่ได้
และฝ่ายที่เป็นอำนาจซ้อนรัฐมองว่า การรัฐประหารครั้งนั้นเป็นการรัฐประหารที่เสียของ
จึงวางแผนรัฐประหารอีกครั้ง ตั้งแต่ที่แพ้เลือกตั้งหลังการรัฐประหาร การก่อม็อบ ก่อความวุ่นวายแล้วสามารถเอานายกสมัคร นายกสมชายออกไปได้ แล้วตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ในค่ายทหาร แล้วอภิสิทธิ์แพ้เลือกตั้งแล้วมีม็อบมาไล่ในยุคนายกยิ่งลักษณ์ ล้วนอยู่ในการสมคบคิดมาตั้งแต่เริ่ม
ซึ่งภายหลังนายสุเทพมาสารภาพผ่านสื่อ และ ตัว พล.อ.ประยุทธ์เองก็บอกว่า ทั้งหมดผ่านการวางแผนมาตั้งต้น
ตอนนี้สถานภาพของผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญอาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะบารมีอาจจะไม่เหมือนเดิม แต่การกระชับและใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงบารมี มีมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า
สภาพของหัวหน้าคณะรัฐประหารแบบพล.อ.สนธิกับพล.อ.ประยุทธ์ก็แตกต่างกัน
พล.อ.สนธิไม่ได้อำนาจของหัวหน้าคณะรัฐประหารแบบเต็มมือ และ ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง มีคนที่ถึงตายก็พูดไม่ได้มีอำนาจเหนือที่ชัดเจน
แต่พล.อ.ประยุทธ์มีลักษณะประโยชน์ร่วมแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า และ ประยุทธ์มั่นใจในอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของตัวเอง
และที่ประยุทธ์เหนือกว่า นักรัฐประหารทุกคนก็คือ หน้าด้านที่สุดในประวัติศาสตร์
มีอีกเรื่องที่นายกทักษิณพูดคือ จะได้กลับเมืองไทยหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ตัวนายกทักษิณ
แต่สิ่งที่นายกทักษิณไม่ได้พูดถึงคือ เรื่องการลอบสังหาร
เพราะถึงจะมีการนิรโทษกรรมในทางกฎหมาย แต่คนที่เคยปองร้าย แม้จะมีตัวละครบางคนตายไปแล้ว แต่คนที่เคยรับคำสั่งโดยตรง และมาออกคำสั่งกับคนที่รับมาลงมือก็ยังมีชีวิตอยู่ และอยู่ดีเสียด้วย
คนสั่ง คนรับคำสั่งมาลงมือ คนทำวงจรระเบิดที่อยู่ในคาร์บอม ล้วนแต่เป็นเถาถั่วที่จะมาต้มถั่ว พี่น้องกินข้าวหม้อเดียวกันในรั้วแดงมาก่อนทั้งนั้น
มีคำถามว่า ทำไมนายกทักษิณถึงมีการเคลื่อนไหวในห้วงเวลานี้ เป็นฉลามได้กลิ่นเลือดอะไรหรือเปล่า
ถ้าจะให้เดาก็น่าจะอยู่ที่ว่า นายกทักษิณแกก็เหมือนนักมวยนั่นแหละ แกได้กลิ่นสาบนวม ได้กลิ่นน้ำมันมวย เสียงปี่กลองดังขึ้น ก็อดไม่ได้ ไม่ได้ขึ้นเวทีได้นั่งดู ได้ลุ้นก็ยังดี
แต่อย่างที่เขาว่า นกกระจอกไม่เข้าใจนกอินทรีหรอก
ตอนนี้เลยได้แต่เดาว่า ทำไมปลาอานนท์ถึงได้พลิกตัว
วันเสาร์ว่างๆนั่งทบทวนอะไรหลายอย่าง ขอเขียนคุยเรื่อยเปื่อยครับ