วันศุกร์, กันยายน 04, 2563
1 เดือนที่เปลี่ยนชีวิตอานนท์ 1 เดือนที่อานนท์ เปลี่ยนประเทศไทย ตลอดกาล
Thanapol Eawsakul
52m ·
1 เดือนที่เปลี่ยนชีวิตอานนท์ นำภา
1 เดือนที่อานนท์ นำภา เปลี่ยนประเทศไทย
(3 สิงหาคม 2563 -3 กันยายน 2563)
...................
(1)
ภายหลังจากการก่อตั้งของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ที่ออกมาเรียกร้อง 3 ข้อ อันได้แก่
- ยุบสภา
- แก้ไขรัฐธรรมนูญ
- และหยุดคุกคามประชาชน
ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ในการขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากเว้นวรรคในช่วงโควิด-19
ในเวทีวันนั้นมีผู้ปราศรัยและขึ้นเวที 31 คน หลังจากนั้นมีการแจ้งข้อหา ถึง 7 ข้อและที่รุนแรงที่สุดคือ มาตรา 116
"ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116"
ซึ่งอานนท์ นำภา นั้นเป็นผู้ต้องหา คนที่ 7
หลังจากวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เราจึงได้เห็นภาพการลุกขึ้นของเยาวชน คนหนุ่มสาวทั่วประเทศ พร้อม ๆ กับภาพของอานนท์ นำภา ได้เดินสายปราศรัยพร้อม ๆ กับเพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์
แต่ผลจากการเดินสายนี่แหละที่ได้เปลี่ยนชีวิตของอานนท์ ไปตลอดกาล
...........
(2)
"เราต้องยอมรับความจริงว่าที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนลุกขึ้นมาชุมนุมเรียกร้องทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายคนต้องการจะตั้งคำถามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเรา ในเวทีชุมนุมมีการชูป้ายกล่าวอ้างถึงบุคคลที่อยู่เยอรมัน มีการกล่าวอ้างถึงบุคคลที่เป็นนักบินบินไปบินมา คำกล่าวอ้างเหล่านี้จะหมายถึงใครไปไม่ได้นอกจากสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเราครับพี่น้อง แต่การกล่าวอ้างเหล่านั้นมันจะไม่มีน้ำหนักเลยหากพวกเราไม่มีการพูดด้วยเหตุด้วยผลและตรงไปตรงมาตามหลักของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"
ข้อความข้างต้นคือคำปราศรัยประวัติศาสตร์ "สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย" ในกิจกรรมชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย” จัดโดยกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย - (MDG) และกลุ่มมอกะเสด (KU Daily) เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้น ได้สร้างความตกตะลึงให้กับคนจำนวนมาก
ดังที่ พีระวัฒน์ โชติธรรมโม นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย บอกว่าช็อกกับการปราศรัยของ
อานนท์ นำภา 3 สิงหา 2563 เขาบอกว่านี่เป็นการปราศรัยในเวทีสาธารณะครั้งแรก และแหลมคมที่สุดเท่าที่เขาทำข่าวมา
แน่นอนว่าสิ่งที่ชนชั้นนำทำมาตลอดคือการใช้กลไกอำนาจรัฐทั้ง ตำรวจ อัยการ ศาล มาหยุดยั้งอานนท์
(3)
ดังที่เราเห็นปรากฎการที่ตำรวจไปจับตัวอานนนท์ บ่ายวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 แล้วศาลเปิดรอพิจารณาคดี ทั้ง ๆที่เลยเวลาทำการไปแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เดียวคือการห้ามอานนท์เดินสายไปปราศรัยที่เชียงใหม่วันที่ 9 สิงหาคม และมาที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตวันที่ 10 สิงหาคม 2563
แต่เมื่อเจอการดื้อแพ่ง และต่่อสู้โดยหลักกฎหมายทำให้ทั้งตำรวจและศาล ไปไม่เป็น จึงต้องปล่อยให้มีการประกันตัวออกมาในวันรุ่งขึ้นจนอานนท์ได้พูดทั้งวันที่ 9 และ 10 ตามลำดับ
แน่นอนว่าอานนท์ได้เป็นส่วนหนึ่งใน ปรากฎการณ์สะท้านฟ้า 10 สิงหาคม 2563 ที่จัดโดย ธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไปพร้อม ๆ กับคนไทยทั้งประเทศ
แต่การคุกคามอานนท์ยังไม่จบแต่นั้น 19 สิงหาคม เขาโพสต์ว่า
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4245760725465291&id=100000942179021
ตอนนี้ชายฉกรรจ์มากกว่า 10 คนรอหน้าศาล ไม่แสดงสังกัดใดๆ ตำรวจในพื้นที่ก็ไม่เข้ามาระงับเหตุหรือสอบถาม
นี่มันบ้านป่าเมืองเถื่อนชัดๆ
...............
นี่เป็นส่วนหนึ่งของการมาเล่นงานการเมืองเพราะวันรุ่งขึ้นอานนท์ก็ได้รับอิสรภาพพร้อมกับคดีที่รุงรังติดตัวมาอีก
จนเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 อานนท์ได้โพสต์เชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมวันที่ 19 กันยายน 2563 ซึ่งเขาเป้นหนึ่งในผู้ปราศรัย
........
วัดใจ พิมพ์ 100,000 เล่ม แจกวันที่ 19 กันยายน ที่ธรรมศาสตร์ คำปราศรัยของ 4 ผู้ปราศรัยว่าด้วยการขยายอำนาจของสถาบันกษัตริย์
ไม่พิมพ์เพิ่ม !!!
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4311686375539392&set=a.163415147033223&type=3&theater
(4)
ฝ่ายอำนาจรัฐมาเล่นมุกเดิมอีกคือการตั้งแง่ที่จะถอนประกันในวันที่ 3 กันยายน 2563 ซึ่งมีคนวิเคราะห์น่าสนใจว่า
"ที่จริงศาลก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้อานนท์กับไมค์ต้องเข้าคุกหรอก แต่คงเลือก "เดินทางสายกลาง" แบบที่เคยเป็นมา คือ ต้องลงโทษอะไรนิดๆหน่อยๆตามที่ผู้มีอำนาจต้องการแล้วก็ปล่อยตัวไปในเงื่อนไขที่มากขึ้นกว่าเดิม"
แต่วันนี้ทั้งอานนท์ และไมค์ กลับทำในสิ่งที่ศาลคิดไม่ถึงคือ
เมื่อศาลมีคำสั่งถอนประกันทนายอานนท์ นำภา เนื่องจากเห็นว่าไปกระทำการซ้ำตามที่ถูกกล่าวหาในคดีที่ให้ประกันตัวไปโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามกระทำความผิดซ้ำตามที่ถูกกล่าวหา แต่ไม่ตัดสิทธิในการยื่นประกันตัวใหม่
อานนท์กล่าวขอบคุณศาล แต่ไม่ขอใช้สิทธิยื่นประกันตัว โดยกล่าวว่าไม่อาจทำให้เสรีภาพส่วนตัวอยู่เหนือเสรีภาพในการชุมนุมได้ และยืนยันว่าการปราศรัยที่ผ่านมาไม่ใช่ความผิด แล้วหันไปกล่าวกับทีมทนายในห้องพิจารณาคดีว่า "ฝากดูแลน้องๆนักเรียนนักศึกษาด้วย"
แล้วเขาก็ถอดเสื้อคลุมและพระห้อยคอส่งให้เพื่อน ทุกคนมองสีหน้าแววตาของเขาแล้วก็รู้ว่าไม่ต้องทัดทาน
https://www.facebook.com/…/a.10964582970…/3545692968827593/…
ก่อนสิ้นอิสรภาพ อานนท์ได้เขียนจดหมายน้อยทิ้งท้ายว่า
..................
ยินดีที่ได้ต่อสู้กับทุกคน เราเดินมาไกล จงเดินต่ออย่างกล้าหาญ หน้าที่นอกคุกผมจบแล้ว ขอเดิมพันทั้งหมดเพื่อการเปลี่ยนแปลง 19 กันยายนนี้ช่วยยืนยันว่า เรามาถูกทาง
เชื่อมั่นในทุก ๆ คน
3 ก.ย.63
ณ ศาลอาญา
......
(5)
ถ้าเรานับจากวันที่อานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัยที่ถนนราชดำเนินวันที่ 3 สิงหาคม 2563
จนถึงวันที่เขายอมเสียอิรภาพเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูด สิ่งที่เขาชื่อมันไม่ผิด 3 กันยายน 2563
เป็นเวลาเพียง 1 เดือน ซึ่งสั้นนัก เมื่อเทียบกับสายธารประวัติศาศตร์
แต่ก็เป็น 1 เดือนที่เปลี่ยนชีวิตอานนท์ นำภา
และเป็น 1 เดือนที่อานนท์ นำภา เปลี่ยนประเทศไทย ไปตลอดกาลเช่นกัน
https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/3516039885129492