วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 10, 2562

ทำไมพวกกบฏบวรเดชแพ้




ช่วงนี้ฮิตพูดถึง พระองค์เจ้าบวรเดช ผู้นำกบฏ 2476 กันเยอะ

ผมแนะนำเล่มนี้เลยครับ 2475 : เส้นทางคนแพ้ โดย พลเอก บัญชร ชวาลศิลป์

เล่าถึงเรื่องราวช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ผ่านประวัติของผู้พ่ายแพ้ทางการเมือง และเล่าโดยมุมมองของทหาร

นำเรามองนอกมุมประวัติศาสตร์ 2475 สายศิษย์ปรีดี ซึ่งเล่าเจือกลิ่นการต่อสู้ทางชนชั้นของสังคม ที่อ่านกันจนเบื่อแล้ว

แต่เล่มนี้จะเล่าในมุมแบบยุทธศาสตร์ แพ้ชนะเป็นกลยุทธ

ผมชอบช่วงกบฏบวรเดชมาก เราจะเห็นว่าทำไมพวกกบฏแพ้

เริ่มตั้งแต่ แย่งกันเป็นผู้นำ ต้องเอาคนศักดิ์ใหญ่สุด กลายเป็นว่าทำให้แนวร่วมบางส่วนหนี

ก่อนรบอย่างโม้ พอรบกัน จริงๆ ติดต่อสื่อสาร อะไรกันไม่ได้เลย ใครอยู่ตรงไหน ใครสั่งใคร ไม่รู้ เละเทะมาก

พอบุกเข้าเมืองไม่ได้ ถูกสะกัดที่ดอนเมือง ถนนที่เป็นที่สูงคือทางรถไฟที่รัฐบาลตั้งมั่นคุมอยู่ นอกนั้นจมน้ำหมด เพราะเวลานั้นน้ำท่วมทุ่งอยู่ ทำให้รุกคืบไม่ได้

ต้องรบติดพัน เจอ ป. นำทัพรัฐบาล ยิงปืนใหญ่กดไปเรื่อยๆ ฝ่ายกบฏดันไม่มีสะเบียงมาส่งให้หน่วยที่กระจายตัวออกไป ท่ามกลางสภาพน้ำท่วม กระสุนก็ร่อยหรอ ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลตั่งมั่นในที่แห้ง การติดต่อบัญชาการดี กระสุนก็ไม่อั้น

ทำให้หน่วยย่อยต้องส่งคนฝ่าน้ำไปศูษย์บัญชาการ ไปถึงเจอนายทหาร จิบไวน์ ตีบิลเลี่ยนกันอย่างชิล

พวกฝ่ายปฏิบัติการ ไม่มีอะไรกิน ติดต่อศูนย์กลางไม่ได้ แถมยังต้องแช่น้ำที่ท่วมอยู่ ก็พากันหนีทัพ ยอมแพ้รัฐบาลกันหมด

พอสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฝ่ายผู้บัญชาการก็คิดว่า - อ้า มันชนะไม่ง่ายเหมือนที่คิดนะ นึกว่าเคลื่อนผลมาถึงกรุงเทพจะชนะเลยซะอีก งั้นเราถอยกลับกันเถอะ

ในขณะถอนกำลัง พระยาศรีสิทธิสงคราม ฝ่ายปฏิบัติการวางแผนตั้งรับ เตรียมสร้างป้อม ปิดทางรถไฟ วางแผนตัดอีสานไว้เป็นที่มั่น

พระองค์เจ้าบวรเดชเก็บของเตรียมบินหนีแล้วจ้า

พระยาศรีสิทธิสงครามแม้จะไม่เหลือการสนับสนุนแล้ว รัฐบาลบุกมาแล้ว ก็ไม่ยอมแพ้สู้ตาย โดนยิงตายในสงครามโดยประภาส (ซึ่งต่อมาคือ คู่หู่ถนอมนั่นแหละ)

สุดท้ายคนเก่งกล้า ที่สู้ตาย พวกที่เริ่มเปิดก่อน หนีก่อน

สมเป็นประเทศไทย ฝ่ายขวาก็ยังเป็นเหมือนขวาเดิม ซ้ายก็ยังทะเลาะกันเองเหมือนเดิม

เราควรจะเรียนรู้ความผิดพลาด และความล้มเหลว เพื่อจะได้ไม่พลาดอีก

แต่ไทยไม่ค่อยทำแบบนั้น เราชอบใช้ประวัติศาสตร์เป็นโฆษณาเสียมากกว่า

ผมว่า ห้องประชุมบวรเดช ก็คงเอาไว้ จิบไวน์ ตีบิลเลี่ยน นั่นแหละ

ป.ล. หนังสือน่าจะซื้อได้ในงานหนังสือนะครับ ลองหาดู


Starless Night - Harit Mahaton