วันเสาร์, พฤษภาคม 13, 2560

‘ตายสิบเกิดแสน’ กำลังก่อตัวต้าน กม. อาญามาตรา ๑๑๒

ข่าวนี้ไปทั่วโลก ‘Facebook blocks video of Thailand’s…’ ไม่ว่าบีบีซีเวิร์ลด์ นิวยอร์คเดลี่นิวส์ อัลจาซีร่า หรือว่า ดิ อินดีเพ็นเด๊นซ์

โดยเฉพาะรายหลังนี่ลงคลิปวิดีโอเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นปัญหา ให้ประชากรนานาชาติได้เห็นในสิ่งที่ทางการไทยสั่งให้เฟชบุ๊คถอดออก และปิดกั้นจากหน้าสื่อสังคม (อันเป็นวิดีโอที่ก็อปมาจากโพสต์ของ แอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มาร์แชล ใน ไว้ซ์นิวส์อีกต่อ)

บีบีซีอ้างเนื้อความจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “หากเฟซบุ๊กยังไม่ดำเนินการตามที่ทางการไทยร้องขอภายในกำหนดเส้นตายวันที่ ๑๖ พ.ค. ก็จะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อเฟซบุ๊กในประเทศไทย”

นั่นหมายถึงกระทรวงดิจิทัลฯ จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจ และ “อาจขอหมายค้นสำนักงานเฟซบุ๊กในไทยเป็นมาตรการในขั้นต่อไปด้วย”

ส่วนข่าวรอยเตอร์ “อ้างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ระบุว่า เฟซบุ๊กยังไม่ได้ปิดกั้นเฟซบุ๊กผิดกฎหมายที่เหลืออีก ๑๓๑ ยูอาร์แอล จากทั้งหมด ๓๐๙ ยูอาร์แอล ซึ่งมีเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง และเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒”


ทางด้านอัล จาซีร่า รายงานว่าศาลอาญาของไทยมีคำสั่งให้ปิดหน้าเว็บแล้วเกือบ ๗ พันราย นับแต่ปี ๒๕๕๘ เป็นต้นมา “ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตสามารถบล็อคการเข้าถึงหน้าเหล่านั้นได้เป็นส่วนใหญ่

แต่ยังมีเหลืออีกราว ๖๐๐ หน้าที่ปิดไม่ได้เนื่องจากมี ‘encryption’ ตั้งค่าการเข้าถึงไว้เป็นพิเศษไม่สามารถทะลวงได้ โดยกว่าครึ่งของจำนวนนั้นอยู่บนเฟชบุ๊ค”

อัล จาซีร่าชี้ด้วยว่า “ในเดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๕๙ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติประกาศให้การเข้าถึง (สู่) ระบบอินเตอร์เน็ต เป็นสิทธิมนุษยชน”

นอกจากนี้นายเดวิด เคย์ โฆษกสหประชาชาติเกี่ยวกับเสรีภาพในการเสนอความคิดเห็นและแสดงออก “กระตุ้นให้บริษัทต่างๆ ผลักกลับ (ทัดทาน) เมื่อมีรัฐชาติใดเรียกร้องให้ปิดหน้าเว็บ...

นายเคย์ผู้นี้เคยวิพากษ์ผู้ปกครองรัฐไทยว่าใช้กฎหมายหมิ่นกษัตริย์ “เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อบีบคั้นต่อการแสดงความเห็นในทางวิจารณ์”


อย่างไรก็ดีเกี่ยวกับการหมิ่นกษัตริย์ทางออนไลน์ในไทยนั้น ศูนย์อาชญากรรมไซเบอร์ของกองทัพบกแถลงในโอกาศครบรอบ ๑๖ ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (๑๑ พฤษภา) ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น ๘๒๐ รายการ

ในจำนวนนี้เป็นโพสต์บนเฟชบุ๊ค  ๓๖๕ รายการ บนยูทู้ป ๔๕๐ รายการ และบนทวิตเตอร์ ๕ รายการ และจากรายการทั้งหมดสามารถบล็อคได้แล้ว ๔๓๕ รายการ อีก ๑๑๑ รายการอยู่ในระหว่างทำการบล็อค ขณะที่มีรายการใหม่เพิ่มขึ้นอีก ๒๗๔ รายการ

หนึ่งในนั้นรวมถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ถูกอุ้มไปคุมขังไว้หลายวันพร้อมกับผู้ต้องหาแชร์เฟชบุ๊คของ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อีก ๖ คน ที่มีนักศึกษาออกมาปล่อยลูกโป่งเรียกร้องให้ปล่อยตัวเมื่อศาลไม่ยอมให้ประกัน

พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ ยังบอกอีกว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดีในการช่วยบล็อคเว็บหมิ่นที่ศาลออกคำสั่งบล็อคราว ๖ พันรายการ


พล.ต.ฤทธีอ้างด้วยว่าผลงานของศูนย์ไซเบอร์อย่างนั้น “คาดว่าในไม่ช้าเนื้อหาบนเน็ตที่มีลักษณะว่าร้ายต่อสถาบันกษัตริย์จะลดลง” แต่จากสถิติที่แถลงล่าสุดนี้แสดงว่าการหมิ่นกษัตริย์ทางไซเบอร์น่าจะเพิ่มมากกว่าลด

และด้วยความพยายามถึงขั้นแสดงอาการ กร้าว กับสื่อสังคมยักษ์ใหญ่อย่างเฟชบุ๊ค สไตล์ไชน่าของรัฐบาล คสช. ที่จะลบล้างและปิดกั้นเนื้อหาซึ่งทางการไทยจัดให้เป็นประเภทส่อไปในทาง ล้มเจ้า เหล่านั้น แล้วยังมีรายการใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก

ย่อมแสดงว่าทฤษฎี ตายสิบเกิดแสนกำลังก่อตัวในโลกไซเบอร์ของการต่อต้านกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ที่ใช้อย่างพร่ำเพรื่อในประเทศไทยในรัชกาลใหม่สดซิงๆ นี้เองแล้วเช่นกัน