วันพุธ, ตุลาคม 05, 2559

ลาก 'เก้าอี้' มานั่งคุย: ย้อนเวลาอ่านหนังสือพิมพ์-ก่อนเกิดเหตุ 6 ตุลาคม 2519





ลาก 'เก้าอี้' มานั่งคุย: ย้อนเวลาอ่านหนังสือพิมพ์-ก่อนเกิดเหตุ 6 ตุลาคม 2519

Wed, 2016-10-05 15:04
ที่มา ประชาไท

ในโอกาส 40 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ประชาไทนำเสนอข่าวหน้าหนึ่งจากหนังสือพิมพ์รายวัน 3 ฉบับ สืบค้นจากหอสมุดปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบด้วย "ประชาชาติ" "ประชาธิปไตย" และ "สยามรัฐ" เริ่มตั้งแต่ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 2519 จนถึงก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519




หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 2519 (จากซ้ายไปขวา) ประชาชาติ และ สยามรัฐ





หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 2 ตุลาคม 2519 (จากซ้ายไปขวา) ประชาชาติ ประชาธิปไตย และ สยามรัฐ





หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 3 ตุลาคม 2519 (จากซ้ายไปขวา) ประชาชาติ และประชาธิปไตย





หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 4 ตุลาคม 2519 (จากซ้ายไปขวา) ประชาชาติ ประชาธิปไตย และ สยามรัฐ





หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม 2519 (จากซ้ายไปขวา) ประชาชาติ ประชาธิปไตย และ สยามรัฐ


โดยเท่าที่สืบค้น หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ได้แก่ ประชาชาติ และประชาธิปไตย เป็นหนังสือพิมพ์กรอบเช้า ข่าวหน้าหนึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2519 มีเพียงหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2519 กรอบบ่าย เท่านั้นที่ทันรายงานเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวก็อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ โดยส่วนที่เป็นหน้า 1 และ 2 ของหนังสือพิมพ์ขาดหายไป







หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2519 (จากซ้ายไปขวา) ประชาชาติ ประชาธิปไตย และ สยามรัฐ โดยหนังสือพิมพ์สยามรัฐ (ภาพขวา) เป็นหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายของวันที่ 6 ตุลาคม 2519 จึงทันนำเสนอเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ช่วงเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ก่อนที่ “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” จะทำรัฐประหารในช่วงเย็น และควบคุมสื่อทุกประเภท รวมทั้งห้ามการจำหน่ายหนังสือพิมพ์

จากนั้นหนังสือพิมพ์จะถูกสั่งงดจำหน่ายไปอีกหลายวัน โดยหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีการรัฐประหารในช่วงเย็นโดย “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” ที่มีหัวหน้าคณะคือ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ผู้บัญชาการทหารเรือและผู้บัญชาการทหารสูงสุด และมีการออกคำสั่งควบคุมสื่อทุกแขนง ในกรณีของหนังสือพิมพ์ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 (อ่านคำสั่ง) มีผลทำให้ต้องหยุดพิมพ์จำหน่ายจ่ายแจกหนังสือพิมพ์และสิ่งตีพิมพ์ และ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 (อ่านคำสั่ง) ระบุให้หนังสือพิมพ์รายวันและสิ่งตีพิมพ์ยื่นเรื่องราวต่อคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เป็นเฉพาะราย

และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2519 (อ่านคำสั่ง) ผ่อนผันให้หนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์ทำการพิมพ์ออกจำหน่ายจ่ายแจกได้ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบข่าวสาร แต่ยังมีข้อห้ามมิให้หนังสือพิมพ์และสิ่งใด พิมพ์หรือโฆษณา ข้อความหรือรูปภาพที่มีลักษณะที่คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินกำหนด ทำให้หนังสือพิมพ์ที่ได้จำหน่ายภายหลัง ส่วนมากเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 8 หรือ 9 ตุลาคม 2519 อยู่ภายใต้การควบคุมเนื้อหาโดยคณะรัฐประหาร







หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 9 ตุลาคม 2519 นำเสนอข่าวตั้งรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร ข่าวยึดหนังสือที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับคอมมิวนิสต์ รวมทั้งข่าวที่ระบุว่าพบนักศึกษา 4 ราย ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังทหารเข้าเคลียร์พื้นที่

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เปิด นสพ. เก่า อ่านชนวน 6 ตุลา ผ่านข่าวก่อนเกิดเหตุ

อนึ่งในงานเขียนชุด “วันนี้ เมื่อ 36 ปีก่อน” ของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2555 นำเสนอภาพหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 (ที่มา: เฟซบุ๊คของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 5 ตุลาคม 2555 และ ประชาไท, 5 ตุลาคม 2555)





หนังสือพิมพ์รายวันฉบับวันที่ 5 ตุลาคม 2519 (ที่มา: เฟซบุ๊คของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 5 ตุลาคม 2555)


โดยรายละเอียดของหนังสือพิมพ์ช่วงเช้าวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2519 สมศักดิ์ระบุว่า

“ทั้งพาดหัวและรายงานข่าวของ นสพ.ทุกฉบับ ที่วางตลาดในเช้าวันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2519 ไม่มีวี่แวว หรืออะไรแม้แต่นิดเดียว ที่จะส่อให้เห็นว่า จะเกิดอะไรขึ้น ภายใน 24 ชม.ข้างหน้า

ทุกฉบับรายงานการ "ยกระดับ" การต่อต้านถนอม ที่นำโดยศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ในเย็นวันก่อนหน้านั้น (จันทร์ที่ 4) คือ มีการจัดชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงเป็นครั้งแรก แล้วการชุมนุม ได้ "ยืดเยื้อ" คือ ไม่สลาย แต่ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนเข้ามาใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นที่ชุมนุมข้ามคืน "ยืดเยื้อ" ต่อ

แต่จะว่าไปแล้ว นี่ก็เป็นอะไรที่ "คาดเดาได้" เพราะสมัยนั้น ถ้ามีเรื่องประท้วงใหญ่มากๆ ก็จะลงเอยในลักษณะนี้ คือ นักศึกษาจัดชุมนุมยืดเยื้อในธรรมศาสตร์

ก่อนหน้านั้น เพียงเดือนเศษ ก็มีกรณีลักษณะนี้ เมื่อ ประภาส จารุเสถียร ลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทย

ความแตกต่าง คือ ครั้งถนอมนี้ การชุมนุมในลักษณะนี้ เริ่มช้ากว่า คือ เริ่มหลังจากถนอมเข้ามาแล้ว 2 สัปดาห์ ไมใช่ เริ่มทันที เหมือนครั้งประภาส

รายละเอียดที่ต่างกันออกไปบ้างอีกอย่างหนึ่ง คือ การชุมนุมยืดเยื้อในธรรมศาสตร์ เพื่อประท้วงถนอม ที่เริ่มขึ้นในเย็นวันที่ 4 ตุลาคม นี้ มีขึ้นพร้อมกับการเริ่มฤดูการสอบไล่ของนักศึกษาพอดี หมายความว่า นักศึกษาธรรมศาสตร์ ต้องงดการสอบไปโดยปริยาย

และเรื่องนี้เอง ที่นำไปสู่เหตุการณ์เล็กๆ ที่ไม่ได้มีใครสนใจหรือให้ความสำคัญมาก คือ การจัดชุมนุมภายในของนักศึกษาธรรมศาสตร์เอง ซึงส่วนใหญ่คือ นักศึกษาชั้นปี 1 ที่ทำกิจกรรม ที่ลานโพธิ์ ในตอนเที่ยงของวันเดียวกันนั้น เพื่อชักชวนให้นักศึกษาปี 1 ที่ต้องมาสอบทุกคน งดสอบ (ไม่ค่อยได้ผลนัก นักศึกษาธรรมดา ที่ไมใช่เด็กกิจกรรม ยังเข้าสอบต่อไป) มีการจัดแสดง "ละคร" หรือ "ฉาก" สั้นๆ ไม่กีนาที ประกอบ เพื่อเรียกร้องความสนใจ โดยหยิบเอาเหตุกาณณ์ ฆ่าแขวนคอ ช่างไฟฟ้า ที่นครปฐม 2 คน มาแสดง สลับกับการ "ไฮด์ปาร์ค" ย่อยๆ ด้วยเครื่องเสียงเล็กๆ

การจัดชุมนุมภายในของนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ว่านี้ เป็นเรือ่งกิจกรรมภายใน ที่นักกิจกรรมในธรรมศาสตร์ โดยเฉพาะปี 1 "ทำกันเอง" ไม่ได้เป็นมติของ - หรือเกี่ยวข้องกับ - ศูนย์นิสิต

แน่นอนว่า นสพ.ทุกฉบับ ก็มาทำข่าว ถ่ายภาพกัน แต่ก็ไม่มีฉบับไหนให้ความสำคัญมาก

ไทยรัฐ ฉบับเช้าวันต่อมา (ดังทีแสดงให้เห็นในภาพ) ลงรูป ดร.ป๋วย มาห้ามปราม ให้เลิกชุมนุม หลังการชุมนุมดำเนินไป จนเรียกว่า เกือบจบแล้ว คือ หมดเวลาพักเที่ยง กำลังจะเริ่มการสอบ ตอนบ่ายโมงแล้ว ดร.ป๋วย ต้องการให้เลิก เพื่อไม่ให้รบกวนการสอบ (ถ้า ดร.ป๋วย ไม่มาห้ามปราม พวกเราเอง ก็คงอยู่กันต่ออีกไม่นาน ปล่อยให้นักศึกษา ที่สอบ สอบกันไป) แต่ละครเล็กๆ ที่ว่า ไทยรัฐ ก็ไม่รู้สึกน่าสนใจพอจะลง (จริงๆ ที่ลงรูปการชุมนุมนี้ ในหน้า 1 ก็คงเพราะมี ดร.ป๋วย มา "ปะทะนักศึกษา" ตามคำโปรยหัว ที่ออกจะ "เว่อร์" ของไทยรัฐ นันแหละ ลำพัง การชุมนุมเล็กๆแบบนี้ คงไม่เป็นข่าวอะไร)

นสพ. "ประชาชาติ" ลงรูป "ละคร" ที่แสดงเพื่อเรียกความสนใจที่วา เป็นรูปเล็กๆ แทบจะดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร เพราะไม่มีการบรรยายไว้ด้วยว่าเป็นรูปอะไร (นอกจากว่า "ส่วนภาพเล็ก เป็นการประท้วงของ นศ.ที่ลานโพธิ์" ใครที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เอง ก็ยากจะดูรู้เรื่องว่า ในภาพ เป็นอะไร) และก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร

ทีสำคัญ นสพ. ขวาจัด 2 ฉบับ ในขณะนั้น คือ ดาวสยาม กับ บ้านเมือง ไม่ให้ความสำคัญเลย จะเห็นว่า ไม่มีแม้แต่รูปอะไรเกี่ยวกับการชุมนุมของ นักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่ลานโพธิ์ และ "ละคร" ที่ว่าเลย

แต่ด้วยความบังเอิญ นสพ.ภาษาอังกฤษ Bangkok Post คงเห็นว่า ภาพ "ละคร" หรือ "ฉาก" ทีแสดงเรียกความสนใจนักศึกษาที่กำลังเข้าสอบทีว่า ออกมาแล้ว ดูเด่นดี เลยนำมาตีพิมพ์ในหน้า 1 และเป็น นสพ. ฉบับเดียวในเช้าวันอังคารที่ 5 ที่ลงภาพและเรื่องการแสดง "ละคร" ที่ว่านี้อย่างชัดเจน (ถ้าไม่นับ ประชาชาติ ที่ลงแต่รูปเล็กนิดเดียว แทบจะดูไม่ออก ดังกล่าว The Nation มีภาพละคร เช่นกัน แต่ถ่ายจากด้านข้าง)

และ Post ดูจะเป็นฉบับเดียว ที่ รู้สึกว่า "ละคร" นี้ แสดง "ได้ผล" หรือมี ผลสะเทือนต่อคนทีได้ดู ("It was just a mock hanging, but the effect was such that it created an eerie atmosphere at the Thammasat University campus...")

(ผมเดาว่า ส่วนหนึ่งที่ Post ให้ความสำคัญ กับ "ละคร" เพราะต้องการ "เล่น" ข่าว ที่ ศรีสุข อธิบดีกรมตำรวจ ออกมายอมรับว่า การ ฆ่าแขวนคอ ช่างไฟฟ้า 2 คน เป็นฝีมือตำรวจ - ดูพาดหัวตัวโต ของ Post ตามภาพ)

และก็ด้วยความบังเอิญ เช่นกัน ในเช้าวันอังคารที่ 5 นี้ กลุ่มฝ่ายขวา ทีแทบไม่มีใครสนใจ หรือรุ้จัก ที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มผู้รักชาติและชมรมแม่บ้าน" ไม่กี่ร้อยคน ที่ไม่พอใจ กับเรื่องที สมัคร สุนทรเวช และ สมบุญ ศิริธร "ปีกขวา" ประชาธิปัตย์ กำลังถูกกีดกันออกจาก ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ ที่เป็นข่าวต่อเนื่องมาหลายวัน ได้พากันมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จนถึงประมาณหลังเที่ยงวันเล็กน้อย ใกล้จะเลิกชุมนุมอยู่แล้ว ก็บังเอิญ มีบางคนในหมุ่คนเหล่านี้ "เห็น" ขึ้นมาว่า ภาพในหน้า 1 Bangkok Post ดังกล่าว เป็นภาพอย่างอื่นที่ไมใช่เรื่องสะท้อนการแขวนคอช่างไฟฟ้าทีนครปฐม

ภายในไม่กี่ชั่วโมง ในช่วงบ่ายถึงค่ำวันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2519 ข่าวลือ เรื่อง "นักศึกษาแขวนคอหุ่นเหมือน ..." (นี่คือเนื้อหาของข่าวลือตอนแรก) ก็แพร่สะพัด ในหมู่พวกกำลังขวาจัดในขณะนั้น ราวกับไฟลามทุ่ง โดยมี นสพ. ดาวสยาม (ที่ตอนแรก ไม่รู้สึกว่า ละคร ดังกล่าว มีอะไร พอจะรายงานในเช้าวันนั้น ด้วยซ้ำ) และ วิทยุ ยานเกราะ เป็นตัวจุดไฟ และช่วยกระพือ

ภายในไม่กี่ชัวโมง กำลังที่อยู่ในการควบคุมของพวกขวาจัด ได้รับการระดมกันขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งประเภทมวลชนจัดตั้ง (ลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง นวพล) .. แต่ที่สำคัญ คือการเคลื่อนกำลังติดอาวุธ โดยเฉพาะในแวดวงตำรวจ และ ทีสำคัญทีสุด คือ ตำรวจ "พลร่ม" ตระเวนชายแดน ที่ถูกเคลื่อนกำลังเข้ามาจากหัวหินในกลางดึก (ตี 2) ของคืนวันอังคารที่ 5 ต่อเนื่องวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2519

เป้าหมายของการโจมตี คือ ธรรมศาสตร์ ..…”


ในรายงานของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ระบุอีกด้วยว่าหนังสือพิมพ์ที่จำหน่ายในเช้าวันที่ 6 ตุลาคม กว่าจะถึงมือผู้อ่าน การโจมตีผู้ชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้เริ่มไปแล้ว “ด้วยระดับความป่าเถื่อนที่ไม่เคยมีใครคาดคิดถึง...” (ที่มา: เฟซบุ๊คของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 6 ตุลาคม 2555)





หนังสือพิมพ์รายวันฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2519 กรอบเช้า (ที่มา: เฟซบุ๊คของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 6 ตุลาคม 2555)


“วันนี้ เมื่อ 36 ปีก่อน: 6 ตุลาคม 2519 - เช้า

.................

ในภาพคือ นสพ.รายวัน ฉบับที่วางจำหน่าย ในเช้าของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2519

กว่าที่ นสพ.ฉบับนี้จะถึงมือผู้อ่านส่วนใหญ่ การโจมตีเข้าใส่ผู้ชุมนุมในธรรมศาสตร์ ก็ได้เริ่มไปแล้ว ด้วยระดับความป่าเถื่อนที่ไม่เคยมีใครคาดคิดถึง .…”

(ที่มา: เฟซบุ๊คของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 6 ตุลาคม 2552)


หลังจากนั้นหนังสือพิมพ์รายวันที่ได้ออกวางจำหน่าย จะเป็นหนังสือกรอบบ่าย วางจำหน่ายช่วงบ่ายของวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยหนังสือส่วนใหญ่จะลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ยกเว้น “สยามรัฐ” ซึ่งเป็นฉบับที่ลงวันที่ออก กับวันที่ของฉบับตรงกันคือ 6 ตุลาคม 2519





หนังสือพิมพ์รายวันฉบับวันที่ 6 ตุลาคม 2519 กรอบบ่าย (ที่มา: เฟซบุ๊คของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 6 ตุลาคม 2555)


"...นสพ.รายวัน ฉบับที่ออกวางจำหน่ายในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2519

ทุกฉบับลงวันที่ "วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2519" ที่เรียกว่า "กรอบบ่าย" หรือ "กรอบแรก" - ยกเว้นสยามรัฐ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่ออกวันละครั้ง และลงวันที่ ตรงกับวันที่่ออก จึงเป็นฉบับ "วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2519"

นี่เป็น "ฉบับสุดท้าย" ของ นสพ.ทุกฉบับในตอนนั้น เพราะค่ำวันนั้น เมื่อ "คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน" เข้ายึดอำนาจ ก็ประกาศปิด นสพ.ทุกฉบับ

กว่าจะอนุญาตให้ นสพ.ส่วนใหญ่ กลับมาตีพิมพ์ได้อีกใน 3 วันต่อมา ฉบับถัดจากนี้ไป จึงเป็นฉบับวันที่ 9 ตุลาคม 2519"

(ที่มา: เฟซบุ๊ค สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, 6 ตุลาคม 2555)