วันพุธ, ตุลาคม 19, 2559

สื่อเยอรมันเสนอข่าว การใช้ชีวิตของกษัตริย์ไทยในอนาคต ขณะอยู่ Munich - Schwarze Limousinen und Erdbeerpflücken - So lebt Thailands zukünftiger König bei München





Schwarze Limousinen und Erdbeerpflücken - So lebt Thailands zukünftiger König bei München

15.10.2016

http://m.focus.de/regional/muenchen/am-starnberger-see-so-lebt-thailands-zukuenftiger-koenig-bei-muenchen_id_6075581.html


ooo

คำแปลไทยจาก FB Junya Yimprasert


จากสื่อเยอรมันอีกแล้ว เกาะติดประเทศไทยกันมากจริงๆ

รถลีมูซีนดำและการเก็บสตอร์เบอร์รี่ – นี่คือการใช้ชีวิตของกษัตริย์ไทยในอนาคตในแถบมิวนิค

กษัตริย์ภูมิพลของไทยเพิ่งเสด็จสวรรคตได้ไม่นาน องค์รัชทายาทมหาวชิราลงกรณ์ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่จะสืบราชสันตติวงศ์ต่อไป แต่จริง ๆ แล้วเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แถวทะเลสาบชตาร์นแบร์ก โฟกัส ออนไลน์ ไปยังสถานที่และค้นพบว่า “กษัตริย์แห่งเมืองทุทซิงก์ ใช้ชีวิตอย่างไร”

มือไม้ที่โบกไปมาเป็นสัญญาณชัดเจน ถึงแม้ว่าประตูเหล็กสู่วิลล่าชโตลแบร์ก ริมทะเลสาบชแตร์นแบร์กจะเปิดออกกว้าง แต่ชายร่างเล็กในชุดคนงานช่างแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ทางเข้าวิลล่าสิ้นสุดแค่นี้ และที่จริงจริงมันเลยเข้ามาลึกเกินไปแล้ว แม้ว่าเขาจะมีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างเปิดเผย แต่เขาก็แสดงออกว่า เขาอยากรู้ว่าแขกที่มายืนหน้าบ้านพักซึ่งองค์รัชทายาทและกษัตริย์ในอนาคตได้ทรงซื้อไว้ตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมาคนนี้คือใคร

ผู้ชายซึ่งภายหลังบอกว่าเป็นคนของสถานทูตไทยพูดภาษาเยอรมันไม่ได้ พูดภาษาอังกฤษได้ไม่กี่คำ ส่วนแขกก็พูดไทยไม่ได้ จึงต้องพึ่งโปรแกรมแปลภาษาแทน ชายที่อ้างว่าเป็นคนของสถานทูตพิมพ์ข้อความใส่เครื่อง หาคำแปลและโชว์ให้แขกผู้มาเยือนอ่าน “ฉันเป็นนักข่าว” แขกผู้มาเยือนตอบเป็นภาษาเยอรมัน ภาษาอังกฤษและพยักหน้า ยามหัวเราะและพูดว่า “เจ้าชายไทย”

นักข่าววิทยุผู้หญิงอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาสมทบ เธออยากทราบว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านในทุทซิงก์หลังนี้ขององค์รัชทายาทเพราะบิดาของเขา กษัตริย์ภูมิพลเพิ่งเสด็จสวรรคตเมื่อไม่กี่วันนี้และเจ้าชายจะต้องขึ้นครองราชย์ต่อไป โปรแกรมแปลภาษาทำหน้าที่ช่วยในการสื่อสาร ยามบอกว่า วิลล่าหลังนี้คงจะเป็นบ้านหลังที่สองของเจ้าชายมั้ง แต่ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องรอดูต่อไป ตอนนี้บ้านกำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม

วิลล่าชโตลแบร์กเป็นบ้านในฝัน มีพื้นที่ใช้สอย 1,500 ตรม. พื้นที่ทั้งหมดรวม 5,600 ตรม. เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เก่าแก่เรียงรายหลายต้น หากองค์รัชทายาทเปิดประตูสวนที่อยู่ระหว่างพุ่มไม้สูงใหญ่ออกแล้วเดินไปอีกเพียง 5 เมตรเท่านั้นก็จะถึงริมฝั่งทะเลสาบชตาร์นแบร์กและที่จอดเรือทันที จากวิลล่าของพระองค์ องค์รัชทายาทสามารถชื่นชมทิวทัศน์บริเวณทะเลสาบ ป่าและยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างสบายตา

บ้านหลังนี้น่าจะมีราคา 10-12 ล้านยูโร ตามข่าวลือที่มีออกมาอยู่เรื่อย ๆ แบร์นด์ เค เอสสิค ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชายตั้งอยู่ใจกลางเมืองรู้จักกับเจ้าของเดิมเป็นอย่างดี “จริงๆ แล้วเจ้าของไม่ได้อยากขาย” เขาบอก “แต่มีคนมาติดต่อขอซื้อเอง” พร้อมกับทวนคำพูดของเจ้าของเดิมว่า “เขาให้ราคาสูงมาก จนปฏิเสธไม่ได้” ซึ่งไม่ได้น่าแปลกใจเลย มีการประมาณว่าราชวงศ์มีทรัพย์สมบัติถึง 35 พันล้านยูโร ซื้ออสังหาริมทรัพย์ตามใจชอบเพียงไม่กี่ล้านก็ไม่ทำให้จนลงเท่าไหร่นัก

องค์รัชทายาทของไทยใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อพักผ่อนในบาวาเรีย นอกจากจะเป็นเจ้าของวิลล่าแล้วยังมีบ้านอีกหลายหลังในบาวาเรีย เหตุผลง่ายๆ คือ ความรัก ตามที่เล่ากันมา แฟนคนที่สี่เป็นอดีตแอร์โฮสเตสของการบินไทย ชายเจ้าสำราญและนักบินในวัย 64 ปีผู้ซึ่งชอบขับเครื่องบินโบอิ้ง 737 ด้วยตัวเองคนนี้มีลูกทั้งหมด 7 คนจากอดีตภรรยา 3 คนและจากสุทิดา แฟนคนปัจจุบันที่มีอายุ 32 ปี

บุตรชายอายุ 11 ปีที่เกิดจากสุทิดาไปโรงเรียนที่ตั้งอยู่แถวบ้าน เคยมารับประทานปลาที่โรงแรมริมทะเลสาบทุทซิงก์ด้วย พนักงานคนหนึ่งเล่าว่า “ส้อม ช้อนและมีดถูกนำมาขัดใหม่จนเงาก่อนที่ลูกชายของเจ้าชายจะลงมือรับประทาน แต่จะต้องมีต้นห้องชิมอาหารก่อน” ผู้ติดตามเจ้าชายก็ชอบมารับประทานอาหารที่นี่เหมือนกัน กีโด้ ลินด์เนอร์ ผู้จัดการร้านเล่าว่า “ส่วนใหญ่จะสุภาพมากและพูดภาษาอังกฤษหรือเยอรมันดีมาก ชอบสั่งปลาจานใหญ่มารับประทานด้วยกัน” บางทีจะมีรถลีมูซีนคันใหญ่ติดฟิล์มดำที่หน้าต่างมาจอดรอรับอาหารที่โทรมาสั่งไว้

รถลีมูซีนสีดำที่วิ่งผ่านเมืองเป็นสิ่งที่เดียวคนเมืองทุทซิงก์รับรู้เกี่ยวกับตัวเจ้าชาย เพื่อนบ้านเล่าว่า “ไม่มีใครเห็นพระองค์มากไปกว่านี้ พระองค์ไม่ตกเป็นที่สนใจของผู้คนที่นี่”

เจ้าชายยังปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ด้วยซ้ำไป ตัวอย่างเช่น มีเรื่องเล่าจากอีกมุมหนึ่งของบาวาเรีย มีคนเห็นเจ้าชายไปเก็บสตอร์เบอร์รี่ด้วยพระองค์เอง มีคนบอกว่า เจ้าชายเก็บสตอร์เบอร์รี่ 60 กก. ใส่ตะกร้ากลับบ้านโดยมีข้าราชบริพารคอยช่วย และยังเคยขับรถปอร์เช่ไปซื้อของที่ร้านขายอุปกรณ์ทำสวนแบบคนปกติทั่วไป

มีครั้งหนึ่งที่พระองค์ตกเป็นข่าวจริง ๆ นั่นคือ เมื่อเสด็จมาถึงสนามบินมิวนิคในสภาพที่สวมรองเท้าแตะ กางเกงยีนส์และเสื้อกล้ามเอวลอยสีขาว ต่อหน้าผู้สวมเครื่องแบบยืนทำความเคารพพระองค์ ซึ่งเป็นรูปที่ไม่ถูกใจคนในประเทศไทยและส่งผลลบต่อความนิยมในตัวพระองค์ ทางการไทยออกมาปฏิเสธและออกข่าวว่าเป็นรูปที่ทำปลอมขึ้นมา

สิ่งที่ได้รับการตอบรับไม่ดีนักในเมืองทุทซิงก์คือ คนในพื้นที่เริ่มพูดกันว่า มีคนถืออาวุธยืนคุมหน้าประตูทางเข้าวิลล่า - ถือปืนกล “มันไม่เข้ากับเมืองทุทซิงก์” ชายคนหนึ่งกล่าว

แต่ความปลอดภัยเพียงน้อยนิดคงไม่เป็นไรนัก เพราะในที่สุดบาวาเรียก็มีกษัตริย์องค์ใหม่กับเขาเสียที แต่เมื่อไหร่ที่จะเป็นกษัตริย์ที่แท้จริง ยังไม่มีใครทราบได้ วชิราลงกรณ์รับสั่งว่า “ยังไม่พร้อม” พระองค์ทรงขอเวลาแสดงความเสียใจร่วมกับประชาชนก่อน