การที่มีการเงินโอนเข้าบัญชีผู้มีอำนาจ 600 ล้านบาท จากบัญชีบนเกาะลึกลับเกี่ยวโยงกับเจ้าสัวอันดับหนึ่ง โดยมีการอ้างว่าซื้อที่ดิน ทั้งที่ราคาที่ดินไม่ได้มีมูลค่าใกล้เคียงจำนวนเงิน นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
การที่ราคาข้าวจะตกตํ่าเป็นประวัติการ พร้อมมีนโยบายพยายามผลักให้ชาวนาทำเกษตรพันธะสัญญาข้าวโพดกับเจ้าสัวอันดับสองแทน ก็มิใช่เรื่องบังเอิญเช่นเดียวกัน
ทั้งหมดนั้นสอดคล้องเกี่ยวพันกับทั้งสองเจ้าสัว ทั้งอันดับหนึ่งและอันดับสอง ที่รอจะกินรวบผูกขาดปากท้องคนทั้งหมดในประเทศไทย
โดยกลุ่มบริษัทที่อ้าง คำว่า 'ประชา' และ คำว่า 'รัฐ' ของเจ้าสัวทั้งสอง ร่วมกับกลุ่มทุนผูกขาดอื่นๆ ได้รับการสนับสนุนของรัฐบาล มีอำนาจถึงขั้นร่วมเขียนนโยบายรัฐ เพื่อให้พวกตนเองรวบกินเบ็ดเสร็จประเทศไทย ในทางของตน
กดราคาสินค้าเกษตร เพื่อต้อนเกษตรกรเข้าเครือข่ายดังกล่าว
ออกนโยบายจ้างชาวนาให้เลิกปลูกข้าว ให้มาปลูกข้าวโพดให้ตัวเองแทน โดยใช้เงินหนึ่งหมื่นล้านจากภาษีประชาชนมาจ้าง ไม่ต้องลงทุนจ้างเอง
และออกนโยบายเงินกู้จากธนาคารรัฐ 8 พันล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ร่วมโครงการ โดยบังคับให้จำนวน 6 พันล้านบาทของส่วนนั้น อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องซื้อเมล็ดพันธ์ุและปุ๋ยเคมี เข้ากระเป๋าพวกตนเอง
เมื่อเงินกู้นี้เข้ากระเป๋าตัวเองไปแล้ว ก็รอที่จะกว้านซื้อที่ดินของเกษตรกรที่ได้วางคำ้เงินกู้นั้น จากเกษตรกรที่จะไม่สามารถชำระหนี้สินนั้นได้
เช่นเดียวกับที่ชาวนาที่ถูกกดราคาข้าวเปลือก ทั้งที่ข้าวสารยังคงราคาเดิม จนต้องขายที่ดินตัวเองทิ้งมากมาย อย่างที่ปรากฎในปัจจุบัน
แม้วันนี้เขาจะบอกว่าจะซื้อข้าวโพดในราคาที่ดี ก็ไม่พ้นที่จะเป็นไปในทำนองเดียวกับพฤติกรรมของเขาในอดีต การจำนำข้าว ที่บอกจะรับซื้อเองหากขายไม่ได้
ด้วยนโยบายเหล่านี้ เจ้าสัวอันดับสอง สามารถขยายถิ่นฐานข้าวโพดในที่ราบ หลังที่ได้ทำลายภูเขาให้กลายเป็นเขาหัวโล้นไปแล้วนับล้านไร่ ส่วนเจ้าสัวอันดับหนึ่ง ก็รอที่จะเข้ายึดตลาดข้าว ตามแผนการต้อนเกษตกรเข้าเครือค่ายของเขาที่ได้วางไว้แล้ว
นอกจากการได้ต้อนเกษตรกรเข้าไปหลอกใช้ในเครือข่ายของพวกเขา เพื่อการผูกขาดปากท้องทั้งประเทศ ยังจะได้เพิ่มขยายการถือครองที่ดินของพวกตนเอง ที่มีกันในปริมาณมหาศาลอยู่แล้ว ส่วนเกษตกรตัวจริง ที่มีสัดส่วนเพียง 25% เท่านั้นที่มีที่ดินของตนเอง จะถือครองที่ดินในจำนวนที่น้อยยิ่งลงไปอีก
โดยจำนวนมาก จะต้องสูญเสีย ถูกยึดที่ดิน ต้องขายทิ้ง ล้มละลาย หลายคนฆ่าตัวตายตามกันไป
….................................
คำหนึ่งก็อ้าง 'เศรษฐกิจพอเพียง' สองคำก็อ้าง 'ศาสตร์พระราชา' แสแสร้งแสดงความจงรักภักดีสารพัด
แต่แม้จะอดใจรอให้พ้นสิบวันในการถวายอาลัย ก็ยังรอไม่ไหว เหล่าทหารเหล่านี้ก็ได้รีบสานต่อแผนการชั่วเพื่อนายทุนที่ตนรับใช้ เซ็นสัญญาข้อตกลงในการให้ชาวนาเลิกปลูกข้าวสองล้านไร่ไปปลูกข้าวโพดแทน ตั้งแต่ไม่กี่วันในระหว่างที่ทั้งประเทศกำลังอาลัยโศกเศร้า
พร้อมกันนั่นคือ การเข้าไปซื้อบริษัทถ่านหินที่อินโด และการดำเนินการเข้ายึดป่าชุมชนต่างๆเพื่อประเคนให้นายทุนต่างชาติ
ในสิ่งที่ได้เห็นมาในช่วงไว้อาลัย ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะเทียบได้กับการยํ่ายีเช่นนี้ แม้แต่การกระทำของกระเทยตนหนึ่งที่หลบอยู่ฝรั่งเศสยังจะไม่ได้เสี้ยวหนึ่งในสิบหกของบุคคลเหล่านี้ โดยสิ่งที่กระเทยตนนั้นได้กระทำ แม้จะตํ่าทรามเพียงใด ก็ไม่ได้ทำลายสิ่งที่ท่านสร้าง ไม่ได้ทำลายสิ่งที่ท่านทุมเทด้วยชีวิตจิตใจ ไม่ได้ทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเกษตรกรของท่าน ไม่ได้ทำให้เขาต้องตกเป็นทาสของนายทุน … ไม่ได้ทำลายยํ่ายีอย่างที่เหล่าทหารโสเภณีหน้าไหว้หลังหลอกเหล่านี้กระทำ
…................................
ในเรื่องของความจงรักภักดี....ก็แค่บังเอิญว่า ความจงรักภักดีของพวกเขา มันอยู่กับค่าคอมมิชชั่นเสียจนหมดใจ
(ขอบคุณ ภาพวาดในแบนเนอร์โดย Paweł Kuczyński)
รุ่งคุณ กิติยากร
(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1784194591837849&set=a.1409401019317210.1073741839.100007419761220&type=3&theater)
ooo
อนาคตเบียร์ช้าง และซีพี หลังสิ้นรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9
https://web.facebook.com/roongunaml/posts/1784209388503036
เห็นคนแชร์ข้อเขียนของคุณรุ่งคุณ กิติยากร ที่เขียนถึงเจ้าสัวอันดับ1 และอันดับ 2 ผมเฉลยเลยว่าอันดับ (ตามความเข้าใจของคุณรุ่งคุณ)
อันดับ 1 คือเจริญ ศิริวัฒนภักดี เบียร์ช้าง
อันดับ 2 คือธนินทร์ เจียรวนนท์ เครือซีพี
แน่นอนว่าหลายเรื่องคือข้อเท็จจริง หลายเรื่องคือการตีความ
แต่ที่น่าสนใจคือนี่อาจจะเป็นครั้งแรก ๆ ที่มีการพูดถึง 2 เจ้าสัวในการสร้างภาพใกล้ชิดเพื่อหาประโยชน์ใส่ตน
พร้อม ๆ กับที่รุ่งคุณการวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลคณะรัฐประหารด้วยว่า เอื้อต่อกลุ่มทุน 2 กลุ่มนี้จนเกินงาม
(เอาเข้าจริงไม่เพียงแต่นโยบายเกษตรเท่านั้นนโยบายอื่นเช่นโทรคมนาคม เครือซีพีก็เอาเปรียบคนอื่นจนน่าเกลียด)
ทั้งหมดนี่เป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น ว่ากลุ่มทุนที่อาศัยบารมีฯ นั้นจะอยู่อย่างไร
Thanapol Eawsakul
ooo
อีกเหตุผลที่นายทุนไทย ที่ไร้ความสามารถในการแข่งขันชอบระบอบรัฐประหาร
นายทุนไทยความสามารถในการแข่งขันต่ำ
การวิ่งเข้าหาอำนาจรัฐในสภาวะที่ไม่ปกติ จึงเป็นการลงทุนที่ง่ายดี
เพราะถือเป็นการกีดกันคู่แข่งไปในตัว แม้จะจ่ายเศษเงินบ้างเล็กน้อยก็ตาม
กรณีซีพี ที่มี พล.องเปรม ประธานองคมนตรีเป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท. 1 รัฐบาลชุดปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษา
นอกจากธุรกิจใหม่ที่ได้รับอานิสงส์จากรัฐประหาร คือ
รถไฟฟ้าความเร็วสูง
ดู
"บิ๊กตู่"คอนเฟิร์ม! ดึง"ซี.พี.-ไทยเบฟ-BTS" ลงทุนไฮสปีด "พัทยา-หัวหิน"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1425898836
และเรื่องหวย
ดู
เล็งขายหวย 80 บาทร้านสะดวกซื้อล็อตแรก มิ.ย.นี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426302002
ธูรกิจที่ซีพีทำแล้วขาดทุนซ้ำซากคือมือถือ /โทรคมนาคม
ซีพียังได้รับผลประโยชน์จากการรัฐประหารอีกด้วย
ประมูล 4G ช้าใครเสียประโยชน์...
คนเสียประโยชน์เต็ม ๆ คือ true ของ ซีพี ที่มีเปรม ประธานองคนมนตรี เป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ มีอนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นที่ปรึกษา ครับ
ดูเพิ่มเติมใน คิดยกกำลังสอง กับทีดีอาร์ไอ ตอน "ปริศนาอาถรรพ์ 4G" https://www.youtube.com/watch?v=WjciSUQjnuI
Thanapol Eawsakul added 2 new photos.
March 17, 2015