“เถียงสู้ไม่ได้คือความผิด” ศาลสั่งถอนประกัน "จตุพร" ส่วนอีก 4 แกนนำ นปช. รอด (วีรกานต์-ณัฐวุฒิ-นพ.เหวง-และนายนิสิต)

ที่มา FB

Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์

ประธาน นปช. พร้อม 5 แกนนำ ขึ้นศาลฟังคำตัดสินปม “เถียงสู้ไม่ได้คือความผิด” เผยทุกคนนิ่ง ไม่หวั่นไหว จิตใจมุ่งมั่นให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ลั่นหากถูกถอนประกันตัวจนสิ้นอิสรภาพ นอนบ้าน หรือนอนคุก อุดมการณ์ไม่มีเปลี่ยนแปลง เผยถ้าคิดถึงพบกันที่หน้าเรือนจำ ฝากคนหนุ่มสาวยืนหยัดสานต่อภารกิจเสรีภาพ-ประชาธิปไตย

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อ 11 ต.ค. ว่า หากศาลตัดสินว่า พวกตนกระทำผิดแล้วถูกนำตัวไปเรือนจำแล้ว พวกตนไม่ได้หวั่นไหว ยังเชื่อในสิ่งที่ได้แสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาบ้านเมืองด้วยความสุจริตใจ ดังนั้น การนอนที่บ้าน หรือนอนในคุกย่อมไม่เป็นปัญหา เพราะอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ศาลอาญานัดตัดสินกรณีอัยการสูงสุดแผนกคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องเรียน กล่าวหาให้ถอนประกัน 5 แกนนำ นปช. โดยอ้างเหตุว่า การแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาของบ้านเมืองตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา เป็นฝ่าฝืนและกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลในคดีก่อการร้าย ซึ่งการกล่าวหาเช่นนี้ ไม่แตกต่างจากพฤติกรรมฝ่ายอำนาจรัฐเถียงสู้ไม่ได้ก็เป็นความผิด หาเหตุปิดปาก จับขังคุก

นายจตุพร กล่าวเมื่อช่วงเช้าก่อนเดินทางไปศาลว่า สัจธรรมแห่งธรรมชาติมนุษย์นั้น ในสิ่งที่ร้าย ย่อมมีสิ่งดีเสมอ หากวันนี้มีสิ่งร้ายกับพวกตนจนต้องสูญสิ้นอิสรภาพ ขอให้ประชาชนใช้การสิ้นอิสรภาพนี้ เพื่อเรียกร้องให้ได้ประชาธิปไตย โดยตนเชื่อว่า การตื่นตัวในปัญหาบ้านเมือง ย่อมนำพาให้เมล็ดพืชประชาธิปไตยได้เกิดขึ้นทุกแห่งหน

ตนเห็นว่า ประวัติศาสตร์การตื่นตัวทางประชาธิปไตยไม่เคยหมดสิ้นไป ในช่วงการชุมนุมเดือนพฤษภาคม 2535 เมื่อประชาชนถูกปราบปราม แกนนำหลายคนถูกจับ และยุติการนำขบวนการต่อสู้ไปหลายคน แต่ตนยังยืนหยัดต่อสู้นำพาประชาชนไปปักหลักที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

“กรณีในอดีตเช่นนี้ ผมยกมากล่าวย้ำเสมอ เพราะต้องการสื่อให้ปรากฏว่า การต่อสู้ของประชาชนจะไม่สนใจว่า ใครนำ แต่ยืดมั่นคุณค่าว่า นำไปเพื่อให้เกิดสิ่งใดที่ดีกว่าขึ้น เวลานี้ผมเห็นว่า พลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนหนุ่มสาวเกิดขึ้นทุกแห่งหน หลายคนมีศักยภาพในการนำพาประชาชนได้ ขอให้เชื่อในศักยภาพของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ว่า สามารถฝากฝีฝากไข้ ฝากบ้านเมืองได้”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าสิ่งร้ายเกิดขึ้นในวันนี้ พวกตนต้องไปนอนที่คุก ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่เป็นปัญหา เพราะควบคุมกักขังได้เพียงร่างกายเท่านั้น เมื่อใจไม่ยอมสิ้นอิสรภาพ ภารกิจการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ใหญ่หลวงของบ้านเมืองในอนาคตยังดำรงอยู่ แม้ความยุติธรรมและเสมอภาคจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่พวกตนยังยึดมั่นกับแนวทางประชาธิปไตย

การต่อสู้ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นภารกิจของ นปช. เท่านั้น แต่เป็นภาระของคนในสังคม และขบวนการคนหนุ่มสาวที่ต้องสานต่อให้บ้านเมืองเกิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นศักยภาพของคนหนุ่มสาว แม้วันนี้ยังไม่แข็งแรง แต่วันหนึ่งเมื่อได้นำพาบ้านเมืองแล้ว พวกเขาจะทำได้

“วันนี้หากอิสรภาพสูญสิ้น ประชาชนยังสามารถพบกันที่เรือนจำได้ และผมได้มอบภารกิจต่างๆให้คนหนุ่มสาวรับช่วงต่อทั้งหมดแล้ว จึงไม่ได้ห่วงอะไร จิตใจยึดมั่นการต่อสู้อยู่ดังเดิม ไม่ได้ไหวหวั่น ไม่ว่าพวกตนจะนอนบ้าน หรือนอนคุก แต่อุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยไม่เคยเปลี่ยน”
.....




บรรยากาศหลังการเยี่ยมคุณจตุพร บอกเล่าโดย "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" และคณะ (ทีมงาน)
.....



"ขอขอบคุณทุกกำลังใจจากพี่น้อง ด้วยความห่วงใย

ขอให้ทุกคน อดทน และเข้มแข็ง รอวันที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย
จนกว่าจะได้พบกันอีก"

จตุพร พรหมพันธุ์
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
11 ตุลาคม 2559

ooo

ด่วน! ณัฐวุฒิแถลง หลังฟังศาล มีคำสั่งขังจตุพร และฟังคำสั่งลาของจตุพร 11 ตค 2559

https://www.youtube.com/watch?v=7-RZbgwiS8o

Media Force

Streamed live 11 hours ago