วันพฤหัสบดี, มีนาคม 10, 2565

งง ทำไมคนถึงมีปัญหากับผ้าอนามัยฟรี มีปัญหากับสามสิบบาทรักษาทุกโรค มีปัญหากับเรื่องที่จะทำให้คุณภาพชีวิตคนดีขึ้น แต่ไม่มีปัญหากับนายกควายๆ ที่เป็นนายกมา 7-8 ปีไม่มีไรดีขึ้น ง๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง



กาย แพ็ทเทอร์สัน
15h ·

"เหลือแดก"
พรรค​ Tony แม่งขายของเก่งชิบหาย​ คิดอะไรแต่ละอย่างทั้ง​ mass ทั้งวิ่งตามโลก​ ล่าสุดนโยบายผ้าอนามัยฟรีที่มาเต็มทั้ง​แนวคิด, รายละเอียดของนโยบาย, การจัดสรรงบประมาณ, การดำเนินงาน​ และโครงการนำร่อง​ ผมว่าเห็นชัดเลยว่าพรรค​ Tony นำหน้าคนอื่น​ 2-3​ ก้าวเสมอ​ เพราะนโยบายที่ดีคือนโยบายที่ประชาชนได้ประโยชน์​สูงสุด
ผ้าอนามัยไม่ใช่ของถูกนะครับ​ แม่งแพงเลยแหละ​ มีให้เลือกใช้หลายแบบตามสถานการณ์​ Period​ ของผู้หญิง​
ผมแม่งรู้ดีเพราะผมเป็นคนจ่ายตลาดและ​ 1 ในของที่ผมต้องซื้อทุกเดือนคือผ้าอนามัย​ ภรรยาผมยังไม่​ menopause age ผมซื้อทุกเดือน​ แพงชิบหาย​
รายงานของ​ globalcitizen.​org ระบุว่าประชากรโลกที่ยากจนนั้นบางคนใช้กระดาษ​ทิชชู่หรือเศษผ้าขี้ริ้วมาทำเป็นผ้าอนามัยเลยด้วยซ้ำเพราะไม่มีเงินซื้อ​ ซึ่งวัสดุเหล่านี้แม่งอันตราย
หลายประเทศเขามีสวัสดิการเรื่องผ้าอนามัยเพราะเขาเห็นความสำคัญ​ของมัน​ (อย่าลืมว่าโลกนี้ผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชายนะ)​ บางประเทศแม้จะด้อยพัฒนากว่าเราแต่รัฐเขามีวิสัยทัศน์​กว่าไอ้กุ๊ยของเราเยอะครับ
-Scotland เป็นประเทศแรกในโลกที่ออกนโยบายผ้าอนามัยฟรี​ เขาตราออกมาเป็นกฏหมายผ่านสภาฯวันที่​ 20​ พย.2020​ โดย​ Monica Lennon นักการเมืองหญิงจากพรรค​ Labour MSP โดยคนที่ต้องการใช้สามารถไปรับผ้าอนามัยผ่าน​ community centers, youth clubs และร้านขายยาได้เลย​ ที่บอกว่าเป็นประเทศแรกเพราะจริงๆเขาเริ่มทำเป็นโครงการนำร่องในโรงเรียน​ตั้งแต่​ 2017​ แล้ว
-New Zealand ประกาศมาตั้งแต่เดือน กพ.2021 นายกฯ​ Jacinda Ardern บอกว่าให้โรงเรียนเริ่มแจกผ้าอนามัยให้เด็กฟรีได้เลย​ แล้วจากนั้นก็ขยายไปทั่วทั้งประเทศ​
-รัฐ​ Victoria และรัฐ​ New South Wales ของ​ Australia วางแผนเรื่องนี้ในปี​ 2018 ก่อนจะทำสำเร็จในปี​ 2020 และ​ 2021​ ตามลำดับ
-ของสหรัฐมีที่ Illinois, Washington, New York, New Hampshire และ​ Virginia ตอนเริ่มต้นก็ขลุกขลัก​เพราะมันเป็นแค่การรณรงค์​ ไม่ใช่กฏหมาย​ จนกระทั่งเหล่านักการเมืองและแอคทิ​วิสท์​หญิงหลายๆคนเช่น​ Linda Rosenthal, Caroline Dillon, วุฒิสมาชิก​ Martha Hennessey​ ผลักดันให้เป็นกฏหมายก็เลยต้องปฏิบัติ​ตามกันอย่างเคร่งครัด
-Île-de-France ในฝรั่งเศสเริ่มต้นทำในโรงเรียนมัธยมในปี​ 2020​ และขยายไปยังระดับมหาลัยในปีถัดมาตามนโยบายของ​ ปธน. Emmanuel Macron
-Kenya เป็นประเทศแรกในโลกที่ตรากฏหมายด้านภาษีของผ้าอนามัย​ Tampon tax และเริ่มแจกฟรีตามโรงเรียนในปี​ 2018
-South Africa ก็เริ่มแจกฟรีในปี​ 2018
-Botswana เหล่าแอคทิ​วิสท์​มีรณรงค์เรื่องนี้ผ่านแคมเปญ​ Ensuring the Dignity of Women มาตั้งแต่ปี​ 2015 ก่อนจะเข้าตารัฐสภาและผ่านออกมาเป็นกฏหมายแจกฟรีในที่สุด
-กรุง​ Seoul เกาหลีใต้​ออกโครงการนำร่องในปี​ 2018​ เพื่อทดสอบการแจกผ้าอนามัยฟรีใน​ 10 พื้นที่​ แรกๆสภาเทศบาลเมืองก็ไม่ได้สนใจแต่พอมีการออกสารคดีรณรงค์​โดยเหล่าเค-ป๊อบไอดอลเท่านั้นแหละ​ ฉลุยเลย
-Uganda ก็ทำเรื่องนี้มาพักนึงแล้วตามคำสั่งของ​ ปธน.​Yoweri Museveni แต่แรกๆก็ติดๆขัดๆจนกระทั่ง​ Yoweri ไปขอความร่วมมือจากสภากาชาดอูกานดา​ และให้​ AFRIpads​ บริษัท​เอกชนมาเป็นตัวกลางในการแจกก็เลยราบรื่นขึ้น
-Zambia ก็แจกฟรีมาตั้งแต่ปี​ 2019
-British Columbia, Ontario, Nova Scotia, Prince Edward Island ในอาณัติ​ของ​ Canada
แจกฟรีมาตั้งแต่ปี 2019
นโยบายเรื่องผ้าอนามัยฟรีของ​ Tony นี่เชื่อเถอะครับว่าแม่งต้องมีคนด่าว่า​ "ประชานิยม" อย่างแน่นอน​ แต่ก็ช่างแม่งเถอะ​ ถ้ามึงโง่คิดกันไม่ได้แล้วอยากจะเห่าเหี้ยไรก็ตามสบาย
แต่แนวคิดเริ่มต้นของทุกๆประเทศ​ก็คือการแจกผ้าอนามัยฟรีนั้นมันไม่ใช่แค่ประชานิยม​ เพราะมันคือการหาทางช่วยให้คนที่ขาดแคลนเข้าถึงของเหล่านี้ไม่ได้เหมือนคนมีเงินได้ใช้ของจำเป็นต่อชีวิตที่มีคุณภาพ​ ช่วยให้คนเหล่านั้นอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่า​ มีศักดิ์ศรี​ในความเป็นมนุษ​ย์เท่าๆกับคนที่มีกำลังซื้อ
การคิดนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชนแบบจับต้องได้นี่​ Tony แดกขาดครับพระเดช​พระคุณ​ทั้งหลาย​
ที่มา​ : Globalcitizen.​org
ภาพประกอบ​ : Emma Watson "เฮอร์ไมโอนี่" ที่เป็น​ UN Women Goodwill Ambassador ทำงานรณรงค์​ให้เพศหญิงครับ