ประเทศรักเสรี เวลาเครือข่ายเผด็จการตาย เค้าก็สมน้ำหน้าดีใจกันทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องมาดัดจริตทำเป็นมีน้ำใจให้อภัยคนตาย 🇨🇱 ชาวชิลีฉลองการเสียชีวิตของภรรยาอดีตผู้นำเผด็จการทหารปิโนเชต์ ผู้ถูกมองว่ามีอิทธิพลต่อสามีในยุคการปกครองที่กดขี่

Pruay Saltihead
13h ·

ประเทศที่มีเสรี ที่ไหนในโลก เวลาเครือข่ายเผด็จการตาย เค้าก็สมน้ำหน้าดีใจกันทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องมาดัดจริตทำเป็นมีน้ำใจให้อภัยคนตาย เพราะเผด็จการมันสร้างความฉิบหายต่อประเทศชาติและชีวิตผู้คนในยุคเผด็จการมากมาย



Voice TV
16h ·

ชาวชิลีฉลองการเสียชีวิตของภรรยาอดีตผู้นำเผด็จการทหารปิโนเชต์ ผู้ถูกมองว่ามีอิทธิพลต่อสามีในยุคการปกครองที่กดขี่
'ลูเซีย ฮิรีอาร์ต' ภรรยาม่ายของพลเอกเอากุสโต ปิโนเชต์ อดีตผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร เสียชีวิตในวัย 99 ปี เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา
หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของเธอ ชาวชิลีจำนวนมากในเมืองหลวงซันติอาโกออกมาร่วมกันเฉลิมฉลองบนท้องถนน ทั้งโบกธงและเปิดขวดแชมเปญ บางคนชูภาพของคนที่ถูกอุ้มหายในยุคที่นายพลปิโนเชต์ปกครอง พวกเขามองว่านี่คือจุดสิ้นสุดอย่างเป็นทางการของยุคการปกครองทางทหารของปิโนเชต์
สุภาพสตรีใจบุญรับใช้ชาติ – ภรรยาผู้อยู่เบื้องหลังการปกครองที่โหดร้ายของสามี
“ในวัย 99 ปี ถูกห้อมล้อมไปด้วยครอบครัวและคนที่รัก คุณยายที่รักของฉันได้เสียชีวิตลง… เธอสละชีวิตเพื่อรับใช้ชาวชิลี และประวัติศาสตร์จะได้รับรู้คุณค่าของงานอันยิ่งใหญ่ของเธอที่ทำเพื่อประเทศที่รักของเรา...”
หลานสาวของเธอที่ใช้ชื่อว่า คารินา ปิโนเชต์ โพสต์ข้อความข้างต้นในทวิตเตอร์ของเธอ
อย่างไรก็ตาม ชาวชิลีจำนวนไม่น้อยเห็นต่างไปจากหลานสาวของฮิรีอาร์ต พวกเขาเชื่อว่า ฮิรีอาร์ตผู้เป็นภรรยา มีอิทธิพลต่อสามีในช่วงที่ปิโนเชต์ปกครองชิลีอย่างกดขี่ ในขณะที่ครอบครัวของเธอสะสมทรัพย์สินจำนวนมากในยุคที่ชิลีเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ
ย้อนกลับไปในปี 1973 รัฐประหารนองเลือดนำโดยนายพลปิโนเชต์ ล้มรัฐบาลฝ่ายซ้ายที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ตลอดการปกครอง 17 ปีของเขา ประชาชนมากกว่า 3,000 คนถูกสังหารหรือสูญหาย และถูกทรมานอีกหลายหมื่นคน แม้ในช่วงการปกครองแบบเผด็จการช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ชิลีได้ก่อตั้งระบบเศรษฐกิจที่เน้นตลาดซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรฐกิจและเป็นฐานของระบบเศรษฐกิจของประเทศทุกวันนี้ แต่ก็ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำในประเทศเช่นกัน
ในชีวประวัติของลูเซีย ฮิรีอาร์ตที่เขียนโดยนักข่าวชาวชิลี เธอถูกมองว่าเป็นคนที่แข็งแกร่ง และมักจะวิพากษ์วิจารณ์สามีของเธอบ่อยครั้ง ทั้งสองแต่งงานกันระหว่างปี 1943 ถึง 2006 ซึ่งเป็นปีที่ปิโนเชต์เสียชีวิต
การเลือกตั้งแบ่งขั้วกำลังจะมาถึง
การเสียชีวิตของฮิรีอาร์ตเกิดขึ้นเพียงแค่สามวันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในชิลีในวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.
การเลือกตั้งครั้งนี้กำลังแบ่งประชาชนออกเป็นสองฝ่าย คือคนที่เชียร์ ‘กาเบรียล บอริก’ อดีตแกนนำนักศึกษาฝ่ายซ้ายที่ประณามการปกครองเผด็จการทหารในอดีต และ ‘โฆเซ อันโตนิโอ คาสต์’ ผู้สมัครฝ่ายขวาจัดที่นิยมทหาร ผู้ถูกมองว่าจะปกป้องมรดกของระบอบการปกครองทางทหารของนายพลปิโนเชต์
คาสต์เคยกล่าวว่า ถ้าปิโนเชต์ยังมีชีวิตอยู่ อดีตเผด็จการจะลงคะแนนเลือกเขา
นักข่าวของสำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า สำหรับชาวชิลีหลายคน คาสต์ ซึ่งเป็นอนุรักษ์นิยมและคาทอลิกที่เคร่งครัด ต่อต้านการทำแท้งและการแต่งงานของเพศเดียวกัน เป็นตัวแทนของอดีต เขายังเป็นผู้แทนของฎหมายและระเบียบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวชิลีจำนวนมากใฝ่ฝัน หลังจากต้องเผชิญกับสองปีของวิกฤตและปัญหาทางสังคม
ด้านบอริกทวีตถึงการเสียชีวิตของภรรยาอดีตผู้นำเผด็จการว่า “ลูเซีย ฮิรีอาร์ต ใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องรับโทษทั้งๆ ที่เธอทำให้ประเทศของเราเจ็บปวดและแตกแยก” เขาเรียกร้องให้มีการเคารพผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของระบอบเผด็จการมากกว่านี้ และขอให้ชาวชิลีทำงานเพื่อชีวิตที่ยุติธรรมและมีศักดิ์ศรี
มานูแอล วาเลนซูเอลา หนึ่งในผู้ร่วมการเฉลิมฉลองในเมืองซันติอาโกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า การเสียชีวิตของลูเซีย ฮิรีอาร์ต อาจทำให้คนออกมาโหวตให้บอริกมากขึ้น
วาเลนซูเอลาในวัย 78 ปี เป็นหนึ่งในอดีตผู้ลี้ภัยทางการเมืองเมื่อเกิดการรัฐประหารโดยนายพลปิโนเชต์เมื่อปี 1973 ในมือของเขาถือภาพของ ‘ซัลบาดอร์ อาเยนเด’ อดีตประธานาธิบดีที่ถูกปิโนเชต์โค่นอำนาจ
อ่านบนเว็บไซต์: https://www.voicetv.co.th/read/Kk2g3l-gP
#VoiceOnline

#Pinochet #Chile #LuciaHiriart
Chile: Death of Pinochet's widow brings joyful crowds to Santiago streets for celebration

Dec 17, 2021