ระเบิดลงหลังคาบ้านแล้วถึงส่งทหารไปรักษาการณ์แม่สอด ทำอย่างเสียไม่ได้ขอไปทีอีกละ เกรงอกเกรงใจอะไรกันอยู่วะฮะ ‘ป้อม’ พูดไว้เมื่อปลายมีนาจำกันได้ “เขาไม่ยุ่งกับเรา เราก็ไม่ยุ่งกับเขา” ทั้งที่ตอนนั้นยูเอ็นเตือนแล้ว พม่ากลับยักไหล่
ครั้งนี้ จรวดอาร์พีจีที่ข้ามแดนมาถึงบ้านพบพระ จ.ตาก ลงทะลุหลังคาบ้านคนไทยในท้องที่บ้านหมื่นฤชัย หลังจากที่กองทัพพม่าระดมยิงปูพรมใส่พื้นที่กะเหรี่ยงติดชายแดนไทย ชาวบ้านกะเหรี่ยงพากันอพยพข้ามน้ำเข้ามาหลบภัยในแดนไทย
ก็ยังไม่วาย มีอากาศยานไร้คนขับคล้ายโดรน ไม่ต่ำกว่าสิบเครื่องบินตรวจการเหนือพื้นที่ถูกระเบิดในเขตไทย มีประกาศเตือนภัยที่แม่สอด “ประชาชนที่พักอาศัย แนวตะเข็บชายแดนเมียนมาร์-ไทย ห้ามออกนอกเคหสถาน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน”
Siripan Nogsuan Sawasdee @Si_Siripan มีความเห็น “อีกไม่นานผู้อพยพคงไหลบ่าเข้ามา เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการที่แรงงานเมียนมาในไทยกลับเข้าประเทศไปต่อพาสปอร์ตไม่ได้” และแน่นอน คนไทยย่อมโดนลูกหลง
เมื่อเดือนมีนา ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อ้างนโยบายของอาเซียน “เราไม่ไปแทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน” แต่ประเทศภาคีอาเซียนอื่นๆ ส่วนใหญ่ต่างตำหนิการใช้กำลังอาวุธโดยคณะรัฐประหารเข่นฆ่าชาวพม่าที่ออกมารณรงค์ต่อต้าน
หากรัฐบาลไทยก็ยังส่งรัฐมนตรีต่างประเทศนำอาหารและยา (วัควีนโควิด) ไปบรรณาการให้กับรัฐบาลทหารพม่า แม้นว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี่เอง คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อรัฐบาลพม่า
“เปิดทางผ่านแก่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์ ให้เข้าถึงประชาชนพม่าอย่างเต็มที่ โดยอำนวยความปลอดภัย และไม่มีการกีดกันใดๆ” มาบัดนี้ก็มีแถลงการณ์ร่วมของทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกย้ำอีกครั้งต่อสถานการณ์ในรัฐกะเหรี่ยง
“เราประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหารพม่าที่กระทำอยู่ทั่วประเทศ” แถลงการณ์ซึ่งลงนามโดยออสเตรเลีย แคนาดา อียู สาธารณรัฐเช็ค เดนมาร์ค ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนดื สเปน สวีเด็น นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สวิสเซอร์แลนดื สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
“เราเรียกร้องให้คณะปกครองพม่ายุติการโจมตีรัฐกะเหรี่ยงและทั่วประเทศในทันที พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นว่าประชาชนพลเรือนได้รับความมั่นคงปลอดภัย ต้องตามบทบัญญัติของกฎหมายระหว่างประเทศ” ทวี้ตของ Sunai@sunaibkk ตอกย้ำท่าทีเร่งด่วนของนานาประเทศ
“เรียกร้องให้หยุดละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศทันที และเปิดทางให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ #WhatsHappeningInMyanmar” โดยก่อนหน้าการระดมยิงใส่พื้นที่กะเหรี่ยงมีเหตุทหารพม่าล่าสังหารชาวบ้านอย่างโหดร้าย
ข่าวเอพีรายงานว่ากำลังทหารของรัฐบาลคณะรัฐประหารมินอ่องลาย เข้าล้อมฆ่าชาวบ้านที่กำลังพากันอพยพไปยังค่ายผู้ลี้ภัย “สกัดจับชาวบ้านที่กำลังเดินทางด้วยรถยนต์ ๓ คัน บนถนนผ่านภูเขา แถบชานเมืองในรัฐกะยา ทางภาคตะวันออก
ก่อนจะกราดยิงชาวบ้านทั้งหมด รวมถึงผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิต แล้วจุดไฟเผาไหม้เกรียมคาซากรถ” Dailynews Online @DailynewsTwit เสริม สำนักข่าวอิระวดียืนยันผู้เสียชีวิต ๓๕ คนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ระบุว่าทหารล้อมฆ่าและเผาอย่างเลือดเย็น ที่เมืองฟรูโส รัฐคะยาห์ ด้าน Sirote Klampaiboon@sirotek เพิ่มเติมว่า “สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลัง และหลายรายถูกทหารยิงหัวก่อนเผาคารถ” ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวความอำมหิตของทหาร
เมื่อวันที่ ๕ ธันวา รถบรรทุกของทหารพม่าขับอย่างเร็วพุ่งเข้าชนกลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงย่างกุ้งจากข้างหลัง ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตไป ๕ ราย สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานด้วยว่า ผู้ชุมนุมที่ถูกรถชนคนหนึ่งไม่ถึงตายแต่ก็ถูกทหารลงไปตีซ้ำ
ความโหดร้ายของกองกำลังคณะรัฐประหารพม่าเช่นนี้ ไม่แยแสและยี่หระต่อสายตาประชาคมโลก พล.อ.อาวุโส โซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่าเคยบอกกับคริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการพม่าของสหประชาชาติ
อย่างโอหังว่า “เราชินกับมาตรการคว่ำบาตรแล้ว และเราอยู่รอด” ทว่าประชาชนพม่าอดอยากปากแห้งเป็นเวลานานหลายปีจนกระทั่งมีการเลือกตั้งได้รัฐบาลพลเรือน ก็มาถูกทหารโค่นอีกเพราะได้รับความนิยมจากประชาชนมากไป
หากรัฐบาลทหารจำบังของไทย ซึ่งแอบให้การสนับสนุนคณะรัฐประหารพม่าอยู่ตลอดมา ตั้งแต่มีการยึดอำนาจเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะคิดแบบเดียวกันละก็ อย่าหวังว่าจะอ้างว่าอยู่รอดได้เหมือนกัน
ลำพังตอนนี้ที่กำหราบปราบปรามฝ่ายต่อต้านอยู่มือพอประมาณแล้ว ก็ยังไม่มีปัญญาพอนำพาประเทศให้ไปตลอดรอดฝั่งในทางเศรษฐกิจได้ ตลอด ๗ ปีที่ครองอำนาจมามีแต่ถอยหลังลงคลอง ประชาชนเจียนจะสำลักหนี้ที่รัฐบาลก่อ กันถ้วนหน้า
(https://mgronline.com/around/detail/9640000021031, https://www.thairath.co.th/news/foreign/2258602, https://ch3plus.com/news/program/271652… และ https://www.khaosod.co.th/politics/news_6228457)