บีบีซีไทย - BBC Thai
12h ·
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ต้องออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง หลังเรียกโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ว่า “โรคกระจอก” ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์
.
ในระหว่างเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมขับเคลื่อนนโยบายเปิดเมืองเปิดประเทศ” ที่ลานวัฒนธรรมเชียงคาน ถนนคนเดิน อ.เชียงคาน จ.เลย ค่ำวานนี้ (17 ธ.ค.) นายอนุทินกล่าวย้ำว่าไวรัสโควิด-19 “กระจอก” แต่ต้องรอจนถึงวันนี้ รอให้ท่านได้พิสูจน์ว่ามันกระจอก เพราะว่าเราเตรียมตัวเอง ทำให้มันเป็นโรคที่เรารับมือกับมันได้
.
“มันจะกลายพันธุ์ จะอะไรก็แล้วแต่ ขอแค่มันยังเป็นโคโรนาไวรัสสายพันธุ์นี้ เขาเรียกสายพันธุ์ธรรมชาติแบบนี้ ยังไงก็ (เอา) อยู่ ไม่ใช่เป็นโรคอื่นนะ โรคอื่นก็ว่าไปอีกที และทุกคนไม่ต้องห่วง วัคซีนของประเทศไทยตอนนี้พร้อม และไม่ใช่แค่ปีนี้ ปีหน้าทั้งปี จะฉีดเข็ม 3 เข็ม 4 เข็ม 5 ก็ฉีดให้ครับ และไม่ต้องไปจองอีกแล้วนะ และไม่ต้องจองกับเอกชน ใช้ของรัฐดีที่สุด”
.
“ขอให้คำยืนยัน พวกผมทุกคนอยู่นี่แล้ว ผมขอยืนยันด้วยศีรษะของท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข และท่านอธิบดีกรมอนามัย จะแถมผู้ว่าฯ อีกคนก็ได้ แต่ผมไม่เกี่ยว” นายอนุทินกล่าวทีเล่นทีจริง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้ร่วมรับฟังการปราศรัยของเขา โดยมีข้าราชการ 2 คนที่ถูกพาดพิงยืนปรบมืออยู่ที่ฉากหลัง
.
พลันที่คลิปปราศรัยของนายอนุทินถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กลับไปยังตัว รมว.สธ. ทันที ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาขยายความของคำว่า “โควิดกระจอก” ในวันนี้ (18 ธ.ค.) ผ่านเครือมติชน
.
นายอนุทินกล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ถึงโควิด-19 แต่ละครั้ง มักจะเน้นย้ำถึงสถานการณ์จริงเสมอ ก่อนจะพูดถึงคำว่า “โควิดกระจอก” ได้นั้น ก็จะต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เห็นภาพว่าคนไทยเข้าใจโควิดดีมาก ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ปฏิบัติตามมาตรการที่ สธ. แนะนำอย่างดี ทำให้การติดเชื้อภายในประเทศมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2% เท่านั้น ส่วนเรื่องของการพบสายพันธุ์ใหม่ เป็นธรรมชาติของโรคระบาดที่มีการปรับตัวให้อยู่กับมนุษย์เราให้ได้ ซึ่งประเทศไทยมีมาตรการรองรับที่ดี
.
“กระจอกที่หมายถึงคือ ไวรัสมันทำอะไรคนไทยไม่ได้ หากทุกคนเข้าใจและเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี รู้ว่าจะรับมือโควิดอย่างไร มันก็จะเป็นโรคกระจอก” นายอนุทินกล่าวกับมติชน
.
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายอนุทินออกระบุว่าโควิดเป็นโรคกระจอก ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2563 เขาเคยแสดงความมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ “อีก 6 เดือนก็มีวัคซีนออกมา จึงขอให้มั่นใจไม่จำเป็นต้องปิดจังหวัด เพราะโควิดกระจอก ถ้าเราเข้าใจและมีอาวุธพร้อม สามารถรับมือได้” โดยเน้นย้ำให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม
.
อย่างไรก็ตามได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 (ธ.ค. 2563) และระลอก 3 (เม.ย. 2564) ในประเทศไทยหลังจากนั้น ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสม ณ 18 ธ.ค. 2564 อยู่ที่กว่า 2.18 ล้านคน หายป่วย 2.09 ล้านคน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมมีจำนวน 21,335 คน ขณะที่การฉีดวัคซีนล่าสุดของไทยทำได้ 99.38 ล้านโดส