อ่านเผินๆ หัวข่าวกระทรวงดิจิทัลเปิดตัวเลขคนแชร์ข่าวปลอมตลอดปีที่ผ่านมาแล้วน่าขัน ตรงที่คนโพสต์และแชร์ ‘ข่าวปลอม’ มากที่สุดเป็นคนรุ่นหนุ่มสาววัย ๑๘ ถึง ๒๔ ปี ซ้ำเป็นคนในกลุ่มอาชีพครู-อาจารย์มากที่สุด
แต่ถ้า ‘อ่านเอาเรื่อง’ หรือ ‘อ่านระหว่างบรรทัด’ ละก็ ข่าวเรื่องนี้น่าจะเป็น ‘ข่าวปลอม’ เสียเอง ในเมื่อจำนวนคนโพสต์และแชร์ดังกล่าว ๑,๑๖๗,๕๔๓ บวก ๒๓,๗๘๕,๑๔๕ คน (ประมาณ ๒๕ ล้านคน) มีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่กับรุ่นเก๋าเพียง ๕๕%
นอกนั้นราว ๕๔% เป็นคนที่มีอายุอยู่ระหว่าง ๒๕ ถึง ๕๔ ปี (ดูที่จำนวนร้อยละของกลุ่มอายุที่โพสต์และแชร์มากที่สุด ๕๔.๕ กับน้อยที่สุด ๐.๑) แสดงว่าผู้ที่ชอบโพสต์และแชร์ ‘ข่าว’ หรือเรื่องราวต่างๆ ทางสื่อสังคมนั้นกระจายอยู่ในข่ายอายุ ๑๘ ถึง ๖๔ ปี
เท่ากับเป็นกลุ่มชนที่ยังขันแข็ง มีชีวิตชีวา (หรือที่ฝรั่งเรียกว่า ‘active’) โดยปลัดกระทรวงฯ อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ระบุว่าเนื้อหาข่าวซึ่งถูกจัดให้เป็นของปลอมอยู่ในหมวดนโยบาย ยอดเฉลี่ยที่ ๕ หมื่นกว่าครั้งต่อวัน หรือราว ๔๗% ของทั้งหมด
เนื่องจากเป็นช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า แล้วรัฐบาลออกนโยบายในการแก้ไข-เยียวยาออกมา กับที่ว่าปลอมนั่นไม่ได้บอกว่าปลอมอย่างไร จึงต้องสรุปว่าปลอมเพราะไม่ตรงกับที่รัฐบาลต้องการ ในข้อเท็จจริงก็คือถูกด่าขรม
เรื่องแก้ปัญหาโควิดนี่รัฐบาลประยุทธ์มะงุมมะงาหราในระยะต้น ลองผิดเสียมากกว่าลองถูก เช่น คลัสเตอร์ใหญ่รายแรกของการระบาดเป็นการจัดมวยของทหารฝืนมาตรการป้องกัน แล้วมีการลงโทษเพียงปลดนายทหารบอร์ดสนามมวยลุมพิณี
ส่วนเจ้ากรมสวัสดิการฯ ตัวการหลักแค่ย้ายเข้ากรุก่อนเกษียณ ไม่ได้มีมาตรการเข้มข้นที่จะป้องกันการแพร่เชื้อ จนทำให้เกิดการระบาดของโควิดระลอกสอง มิหนำซ้ำเกิดการทุจริตจัดซื้อหน้ากากอนามัย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ผู้รับผิดชอบรอดตัว ‘scot-free’
เรื่องความผิดพลาดและหมกเม็ดในการจัดการกับโควิด-๑๙ ของรัฐบาลประยุทธ์ถูกประจานและก่นวิพากษ์อย่างหนัก ทั้งในการจัดซื้อวัคซีนจากจีนอันด้อยประสิทธิภาพ ระหว่างรอวัคซีนซึ่งแรกทีเดียวคิดจะห้อยโหนเป็นของ ‘พระราชทาน’ แต่ต้องปฏิเสธเพราะไม่มาตามนัด
เชื่อว่ารายการทัวร์ลงอันนั้นหละที่กลายเป็น ‘เฟคนิวส์’ กล่าวหาโดยกระทรวงดิจิทัล ซึ่งถูกแยกหมวดออกไปเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ว่ามียอดการพูดถึง โพสต์และแชร์เป็นอันดับสอง ๒๕.๘๗% รวมกับเรื่องนโยบายเดียวกันเป็น ๗๓%
สรุปว่ารายการแจ้งเรื่องข่าวปลอมของกระทรวงดิจิทัล ซึ่งรัฐมนตรี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พาลูกน้องมานั่งแถลงอย่างยืดยาว บลา บลา เกี่ยวกับการดำเนินงานขจัดเฟคนิวส์ของตนนั้น แค่จะบอกว่าการแก้ปัญหาโควิดผิดพลาดที่ผ่านมาตลอดปี
จนโดนประชาชนสัพพียับนั้น เป็นเพียงข่าวปลอม เพื่อที่จะใช้เป็นยันต์กันผีความผิดพลาดซึ่งอาจมีอีกในปีหน้ากับเชื้อไวรัสสายกลายพันธุ์ ‘ออมิครอน’ อันแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วกว่าตัวก่อน ‘เดลต้า’ ถึงแม้พอหวังได้ว่าจะไม่แรงเท่า
ในเมื่อตอนนี้พลิกตัวได้บ้างแล้ว บอกให้ฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ‘บู๊สเตอร์’ ด้วย mRNA แล้วหลังกลับจากฉลองปีใหม่ แนะให้ทำงานที่บ้านกันสักเดือน ตามหลักการที่ควรทำตามอย่างสากล ไม่ต้องเกี่ยงเลี่ยงโน่นนี่ สูตรไขว้บ้างไรบ้าง กับของจีนที่มี