มีคนเอาไปเปรียบกับคดีที่ ตลก.ตัดสิทธิทางการเมืองของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และยุบพรรคการเมือง อนาคตใหม่ “มาตรฐานต่างกันเป็นธรรมหรือไม่” ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความบนหน้าเฟชบุ๊คของเขา
ความต่างอยู่ที่ธนาธร “ไม่ได้เข้าสภาแม้แต่วันเดียว เพราะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างพิจารณาคดี แถมถูก กกต. ดำเนินคดีอาญาฐานลงสมัคร ส.ส. ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัคร” แม้นว่าสุดท้าย อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
บ้างอ้างครรลองการเมืองอย่างสากล เมื่อพ้นโทษแล้วย่อมเป็นผู้แทนประชาชน หรือแม้แต่เป็นผู้นำที่ทำคุณต่อบ้านเมืองและมนุษยชาติได้ เนลสัน แมนเดล่า ติดคุกอยู่นาน ออกมาก็ยังได้เป็นประธานาธิบดีนำประเทศออกจากระบบกดขี่เชื้อชาติ Apartheid ของอาฟริกาใต้
อย่างไรก็ตาม เสียงของความ ‘สะใจ’ กับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะได้เห็น ส.ส.กร่าง ‘ตกกระป๋อง’ ก็ยังดังกว่า โดยเฉพาะ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เคยโดนสิระ ‘วางก้าม’ ป่วนกรรมาธิการปราบโกงที่ตนเป็นประธาน
บอก “วันนี้พิสูจน์แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความยุติธรรม” ตนได้ยื่นคำร้องต่อกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว ให้ดำเนินคดีกับสิระในความผิดฐาน ‘แจ้งความเท็จ’ เรื่องคุณสมบัติเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตหลักสี่ ชนะเฉือนคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยไปอย่างน่าฉงน
เสรีพิศุทธ์นั้นรุกฆาต เร่งให้ กกต.รีบจัดการเอาเข้าคุก ตามระวางโทษจำ ๑-๑๐ ปี ปรับ ๒ หมื่นถึง ๒ แสน ตัดสิทธิทางการเมือง ๒๐ ปี และสภาต้องเรียกคืนเงินเดือน เงินที่เบิกเป็นค่ารักษาพยาบาล เงินเดือนผู้ช่วย ส.ส. ๘ คน สองปีประมาณ ๑๐ ล้านบาทกว่า
รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการที่ กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อมใหม่สำหรับเขตหลักสี่นั้นด้วย ไม่เท่านั้นยังประกาศจะดำเนินคดีกับเลขาธิการ ครม. ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยอมให้เอกสารตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลบุคคล มาตรา ๔
ยังมีหนี้เบี้ยวค่าท้าพนัน ซึ่ง ไอซ์@nanaicez เข้ามาแจมทวง “ใครติดต่อคุณสิระได้ รบกวนฝากบอกว่าจ่ายเงินลูกนัทล้านนึงด้วยค่ะ ที่เคยปากดีท้าทายว่าถ้าลูกนัทตาบอดจริงจะจ่ายล้านนึง หายเงียบไปเลยคะนะ เก่งให้จริงเหมือนปากพูดหน่อย”
หนังสือพิมพ์มติชน “ชวนเปิดบัญชีทรัพย์สินนายสิระ เจนจาคะ ขณะเข้ารับตำแหน่งเมื่อ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ มีรายได้รวม ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท รายจ่าย ๓,๗๓๕,๒๙๘.๕๕ บาท รวมทรัพย์สิน ๕๔๗,๖๙๔,๓๓๘.๙๔ บาท” คงพอชดใช้อะไรต่างๆ
‘ป๊ะเสรี’ ยังบอกว่ากรณีสิระนี่ต้องให้รู้ดำรู้แดง เมื่อพ้นตัดสิทธิการเมืองแล้วค่อยมาเจอกันเมื่อสิระอายุครบ ๗๗ ปี “ถ้าสิระรู้จักเป็นมิตรกับคนอื่นๆ เป็นมิตรกับตำรวจ เป็นมิตรกับผม เรื่องนี้คงไม่เกิด” ป๊ะเหน็บต่อ “รู้สึกว่าตอนนี้สภาสูงขึ้นเยอะ”
ด้าน สมชัย ศรีสุทธิยากร พูดถึงโทษทางอาญาของสิระ ถ้าได้เข้าสู่กระบวนความยุติธรรม มาตรา ๑๕๑ พรป. ส.ส. มีโทษสูงสุด คุก ๑๐ ปี ปรับ๒ แสนบาท พร้อมทั้งชี้ช่องอีกว่า หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตอนที่ส่งสิระลงสมัครชิงเขตหลักสี่ มีลุ้น
อุตตม สาวนายน อาจโดน ม.๑๒๐ ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ ระบุว่า หัวหน้าพรรคการเมืองผู้ใด ออกหนังสือรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท...
และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดห้าปี” แต่ว่าจะให้ดีต้องนี่ ความเห็นของ Panat Tasneeyanond อดีตคณบดีนิติศาสตร์ มธ. “กกต.ต้องมีความผิดฐานนี้ด้วยในฐานะตัวการร่วมกระทำความผิด เมื่อทราบว่ามีผู้ร้องเรียนเรื่องนี้แล้ว
แต่ไม่ดำเนินการตรวจสอบใดๆ ว่านายสิระเคยถูกพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษความผิดเกี่ยวกับทรัพย์จริงหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องผิดมาตรา ๑๕๗...เป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ใครๆ ก็ไปแจ้งความกล่าวโทษให้มีการดำเนินคดีกับ กกต.ทั้งคณะได้”
(https://www.facebook.com/somchaivision/posts/4507138622668839, https://www.facebook.com/407259086044859/posts/4255666437870752/?d=n, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2929621270664079 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_3099798)
