วันจันทร์, ธันวาคม 27, 2564

สื่อสายสภาปีนี้ 'เพิกเฉย' ต่อหมุดหมายสำคัญ ในการ "พูดและอภิปรายเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์"

เป็นที่รู้กันว่า ซูเปอร์โพล (เดิมเรียก เอแบ็ค) ของ นพดล กรรณิกามีไว้เชียร์กับเลียอำนาจรัฐประหารและการสืบทอด ผลสรุปสำหรับปี ๒๕๖๔ ที่กำลังจะจากไปในอีกสี่ห้าวัน ยังมั่นคงกับหลักการ เชลียร์ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ๖-๗ ปีที่ผ่านมา

จึงไม่แปลกที่ได้เห็นตำแหน่ง คนดีของสังคมได้กับ ตูน บอดี้สแลมผู้ที่กำลังอยู่ในใจกลางของกระแส ทัวร์ลง ด้วยคำถามที่ว่า วิ่งทำไม ในการจัดวิ่งแบบ เวอร์ชวลสร้างวิมานบนอากาศเพื่อรับบริจาค ว่าจะเอาไปช่วยเด็ก ม.๓-๖ ซึ่งถูกรัฐบาลนี้ตัดออกไปจากโครงการเรียนฟรี

ยังมีคำถามประกบเข้าไปอีกด้วยว่า คราวที่แล้ววิ่งโด่งดังมาก ได้เงินบริจาคถึง ๑,๓๐๐ ล้านบาท แต่สาธารณะไม่ได้รับแจ้ง ไม่มีข้อมูลพลอมแพลมให้เห็นเลยว่าผ่านมาเป็นปี เอาเงินจำนวนนั้นไปทำอะไรบ้าง เห็นมีคนที่เขาเคยบริจาคให้ถามหา

อีกตำแหน่งอุปโลกโดยโพลกรรณิกา บุคคลแห่งปี ได้กับเทพบุตรแห่งการ ไม่รู้ๆประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกรรณิกาบอกว่า “เป็นรองนายกฯ ที่ดูแลใส่ใจแก้ปัญหา (แบ่งเค้ก/แย่งหัวปลา) ด้วยตนเอง โดยเฉพาะความเดือดร้อนทุกข์ยากของคนฐานราก (แตก)”

ส่วน มิสเตอร์ โฟโต้เจนิคคุณหมอที่ออกสื่อสังคมถี่มากเกี่ยวกับโรคระบาดไวรัสโคโรน่า จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลก แรกๆ มีคนเชลียร์จะให้ส่งชิงรางวัลโนเบิ้ล แต่เจ้าตัวสนใจ ซิโน มากกว่า หมอยง ภู่วรวรรณเอาไปครอง

ในแค้ทตากอรี่นี้มีข้อควรสังเกตุว่าปีนี้กรรณิกาจัดให้ถ้วนหน้า โดยเฉพาะอันดับสอง เหรียญทอง แน่นหนา เป็น ผอ.โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ที่ก่อนโควิดมาก็มักจะฟัดกับพวกคนเสื้อแดง และเป็นนักแสดงละครสัตว์ห้อยโหนสถาบันกษัตริย์เก่งกาจ

โพลกรรณิกาบอกว่า หมอนี่“อยู่ในกลุ่มต้นๆ ที่ออกตัวช่วยเหลือประชาชนผุ้ติดเชื้อโควิด” แต่ในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสระลอกแรก แม่งประกาศไม่รับผู้ป่วยที่เป็นเสื้อแดงเสียงั้น เพราะเลือกปฏิบัติอย่างนี้ถึงได้ติดโพลกรรณิกาไง

ผู้ที่ได้อันดับสาม อยู่สถาบันจุฬาภรณ์ซึ่งจู่ๆ กลายเป็นผู้มีอำนาจเต็มนำเข้าวัคซีนป้องกันไวรัสรายหนึ่ง เทียบเท่าหน่วยงานหลักในทางระบาดวิทยาของรัฐ ช่วงที่ผู้คนร่ำร้องให้รัฐนำเข้าวัคซีนโควิดชนิด mRNA พี่เค้าก็ไปเอาซิโนฟาร์มมาขาย

เสร็จแล้วโพลกรรณิกาบอก หมอนั่น มีความชอบ “ช่วยบริหารจัดการและคลี่คลายสถานการณ์เรื่องวัคซีนโควิด-๑๙” อีกทั้ง “อิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย” กว่าหมอยงนิดนึง แต่ชาวบ้านฟังแล้วไม่ได้งงเลยละ แต่ไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะหมอเค้าอยู่คนละโลกกับเราๆ

อย่างไรก็ดีโพลนี้เป็นแถกเดียวกับ รธน.ที่ “ออกแบบมาเพื่อพวกเรา” ของเค้า จึงเป็นเรื่องสมบัติผลัดกันชมเสียมากกว่าจะมีคุณค่าจริงจังอะไรกับส่วนรวม ในกระบวนการสำรวจความเห็นต่างๆ เกี่ยวกับสภาพการณ์ในรอบปีที่ผ่านมา ปีนี้มีเรื่องน่าผิดหวัง

การตั้งฉายาทางการเมืองโดยชมรมนักข่าว เคยเป็นกิจกรรมล้อเลียนที่ให้ผลกระตุกกระตุ้นความไม่ชอบมาพากล และชมเชยการสร้างมาตรฐานที่เป็นคุณต่อสังคม ปีนี้สื่อประจำรัฐสภายกเลิกตำแหน่ง คนดีศรีสภา ไปเป็นการถาวร ก็โอเค

กับฉายาอื่นๆ สภาอับปาง (สภาผู้แทนฯ) ผู้เฒ่าเฝ้ามรดก คสช. (พวก สว.ครึ่งห้าร้อย) ร่างทรง ตู่ตั้ง(พรเพชร วิชิตชลชัย) สมพงษ์ (อมรวิวัฒน์) ตกสวรรค์  ดาวดับ (ประธานวิปรัฐบาล วิรัช รัตนเศรษฐ์ และ วัคซีนเต็มแขน (อนุทิน ชาญวีรกูล)

ล้วนแสบสันต์ไม่ย่อมไปกว่าปีก่อนๆ ก็จริงอยู่ หากแต่ปีนี้ขาดหล่นปรากฏการณ์สำคัญไปอย่างไม่อยากให้อภัย ดังที่ Thanapol Eawsakul ทักไว้ใช่เลย เรื่องสถาบันกษัตริย์ที่ “ผู้สื่อข่าวรัฐสภาพร้อมใจกันเพิกเฉย” ต่อหมุดหมายอันสำคัญนี้

“คือการพูดและอภิปรายเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ อย่างน้อยก็เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐประหาร ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ตั๋วช้าง ตอนต้นปี หรืองบประมาณกษัตริย์ ช่วงกลางปี” เป็นความคืบหน้าของความพยายามนำประชาธิปไตยกลับคืนมา

ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นที่ ยิ่งชีพ (เป๋า)@yingcheep ให้ข้อคิดไว้ ควรตระหนักแล้วสานต่อในปี ๖๕ ว่า “ปารีณา ไกรคุปต์ ไม่อยู่ในสภาแล้ว สิระ เจนจาคะ ไม่อยู่ในสภาแล้ว วิรัตน์ รัตนเศรษฐ ไม่อยู่ในสภาแล้ว พุฒิพงศ์ ปุณณกันต์ ไม่อยู่ในสภาแล้ว

ธรรมนัส ยังอยู่ แต่คงไม่ค่อยพูดอะไรแล้ว ปีเดียวบรรยากาศเปลี่ยนไปเยอะนะ ฝ่ายเชียร์พลังประชารัฐจะแอบคิดบ้างไหมว่าศาลตัดสิทธิ ส.ส. แต่ฝ่ายตัวเอง” คงยาก เพราะฝ่ายนั้นติดเชื้อในสมอง ดังถ้อยถากถางที่ว่า “คุณเป็นสลิ่ม ไม่มีทางแก้”

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/4944431308957002, https://www.facebook.com/workpointTODAY/posts/1802528770116393 และ https://thestandard.co/government-nickname-list-2021/)